22 ส.ค. 2022 เวลา 06:06 • หนังสือ
วิธีการไม่ธรรมดา
รับมือคู่มือไม่ธรรมดา
เป็นหลักเหตุผลที่เกิดวันที่มาตั้งแต่โรงงานกาเล
ฝีมือที่ตั้งไม่อยู่
"ระหว่างนี้เพื่อนคนนี้มีงานอย่างหนึ่งผ่านมือฉัน ฉันจะไม่เซ็นอนุมัติ ฉะนั้นเธอพูดจาอะไรต้องระวัง ไม่ว่าอะไรก็อย่ารับปาก ยิ่งอย่าคิดเอากำไรเขา เขาให้อะไรก็อย่ารับ"
ก่อนลงจากแท็กซี่ เขายังกำชับภรรยา
"เพราะเชิญแล้วเชิญเล่าทำให้จำต้องให้เกียรติความจริงฉันไม่อยากไปเมื่อเขาเสนอว่าจะขับรถมารับฉันจึงปฏิเสธของขวัญของพวกเราห่อนี้ไม่เบาเทียบเท่าอาหารของเขาหนึ่งมื้อ ถือว่าไม่ติดค้าง เพียงแค่เป็นการพบปะของเพื่อนนักเรียนเท่านั้น"
เขาหมุนตัวไปกำชับลูกชาย
"แกก็ฟังไว้อย่ารับของของคนเรื่องนี้เกี่ยวพันถึงความสุจริตของพ่อห้ามล้อเล่นเด็ดขาด"
เศรษฐีคือเศรษฐีลานบ้านกว้างใหญ่เหมือนสวนสาธารณะขนาดย่อมซ้ำยังกุดสระบัวข้างสระปลูกต้นแมกโนเลียกำลังออกดอกโตเท่าปากชาม
"นี่เป็นพันธุ์ไม้หายาก" เขารำลึกถึงความหลัง "เมื่อวัยเด็กที่ลานบ้านฉันมีอยู่ต้นนึงต่อมาถูกไล่ที่เพื่อปลูกตึกใหม่จึงตัดทิ้งไปไม่เห็นมา 10 กว่าปีแล้ว"
"ฉันขุดต้นไม้ขึ้นมายกให้นายดีไหม?" เจ้าของบ้านเสนอ
"ล้อเล่นไปได้ บ้านฉันมีลานบ้านอย่างนี้ที่ไหน?" เขาทำหน้าบึ้ง เมื่อหันไปมองภรรยา เธอกำลังชมเสื้อผ้าของคุณนายเจ้าของบ้าน
"เสื้อผ้าของร้านบูติคมีชื่อนี้ มีแต่คนร่างสูงอย่างคุณ สวมใส่ค่อยแลดูสวยสง่า"
"สวยสง่าที่ไหน? ไม่มีทรวดทรงองค์เอว ใครใส่ก็เหมือนกัน ถ้าไม่เชื่อลองผัดเปลี่ยนให้คุณสวมดู" คุณนายเจ้าของบ้านคิดฉุดดึงภรรยาของเขาเข้าไปในบ้าน ดีที่ถูกเขาห้ามเอาไว้
โต๊ะอาหารเป็นโต๊ะกลมไม้แดง ภาชนะบรรจุอาหารล้วนมีราคาแพงรายการอาหารยิ่งไม่ต้องพูด
"อาหารทะเลจากญี่ปุ่น หูฉลามจากภัตตาคาร ฉวินเซียง ของว่างจากร้านอาหารฮกซิ่ว..." เจ้าของบ้านสาธยาย "นายยืนกรานไม่ยอมไปทานเหลาฉันได้แต่ออกไปตะเวนซื้อมา ถ้าหากเพิ่มเหล้าเฟิน ซึ่งผลิตจากบ้านเดิมของนาย คงยิ่งพิเศษใหญ่ จริงไหม?"
เขาเออออห่อหมกตาม ในใจนึกคำนวณราคาของอาหารมื้อนี้เจ้าของบ้านปรบมือฉาดใหญ่
"นายพ่อผงหัว ฉันค่อยนึกออก เมื่อหลายปีก่อน มีคนที่เคารพนับถือกำนันเล่าขวดนี้ให้ จนบัดนี้ฉันยังไม่ยอมเปิดดื่ม"
เขาเห็นเจ้าของบ้านเปิดตู้โชว์ที่เรียงรายเหล้านอก รีบตรงเข้าไปขวางไว้
"เปิดเหล้า XO ขวดนึงแล้ว ไม่ต้องเปิดอย่างอื่นอีก"
"นายชาร์ปไปก้าวหนึ่ง" เจ้าของบ้านเปิดเหล้าแล้ว
"ไม่ได้ วางกลับไป" เขายืนกลางหน้าแดงกล่ำ
"ฉันเปิดแล้วเพื่อนฝูง อย่าทำอย่างนี้ นายไม่ดื่ม ฉันดื่มคนเดียวก็ได้"
เวลานั้นประจวบกับลูกชายของเขาทำน้ำผลไม้หก ความยาวของเขารีบหยิบผ้ากันเปื้อนมาเช็ดโต๊ะ
"โต๊ะไม่เป็นไร ดูแลเด็กก่อน" คุณนายเจ้าของบ้านหลวงผ้าเช็ดหน้าสีขาวออกมา คุกเข่ากับพื้น เช็ดตัวให้แก่ลูกชายของเขา ต่อจากนั้นเธอขอตัวเข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้า คิดว่าพลอยเปรอะเปื้อนด้วย
"อายุ 17 ปีหน้าสอบเข้ามาหาวิทยาลัยแล้ว ยังซุ่มซ่ามเหมือนเด็กอีก" เขาดุลูกชาย "ทานเร็วๆแล้วนั่งรถกลับไปทบทวนหนังสือหนังหา"
"พวกเราส่งแกกลับไปเอง" เจ้าของบ้านอาสา
"ไม่ต้อง แกจำทางได้ทุกครั้งที่มาเล่นตู้เกมคอมพิวเตอร์แถวนี้ ยังนั่งรถเมล์กลับเอง"
"เป็นตู้เกมคอมพิวเตอร์"
"ใช่ เป็นเกมฟลายเบิร์ดอะไรนั่นที่สั่งเข้ามาจากต่างประเทศ เล่นครั้งเดียวหลายสิบเหรียญ" ภรรยาของเขาตีลูกชายพูดยิ้มๆ
หลังอาหาร ผู้ใหญ่ทั้ง 4 คนนั่งคุยกันอยู่ข้างสระบัว กลิ่นหอมของดอกแมกโนเลียโชยจนเขาเคลิบเคลิ้ม อยู่บ้าง แต่จำต้องเพิ่มความตื่นตัว โชคดีที่เจ้าของบ้านไม่พูดถึงเรื่องงานชิ้นนั้นอีก
เมื่อถึงตอนอำลา เป็นเวลาใกล้ค่ำแล้ว คุณนายเจ้าของบ้านหิ้วถุงเล็กๆออกมา จุดดึงมือภรรยาเขาเอาไว้
"สามีของคุณบอกว่า ห้ามมอบของขวัญอะไรทั้งนั้น ผู้หญิงอย่างพวกเรามีข้อยกเว้น หนำซ้ำเป็นของเก่า นี่เป็นชุดเดิมที่ฉันเคยใส่ เพิ่งให้สาวใช้นำออกไปแก้ ตัดชายให้สั้นลง คิดว่าคงหมดกับคุณ"
ภรรยาของเขาสะดุ้งตกใจ ร้องเสียงแหลม
"ไม่ได้ ไม่ได้"
"โธ่ ชายเสื้อตัดสั้นไปแล้ว ฉันใส่ไม่ได้อีก ทั้งไม่ใช่เสื้อใหม่ ทำไมคุณยังปฏิเสธด้วย?"
ภรรยาของเขาหันมาทางเขา ทำหน้าเลิกลัก เขาค่อยผงกหัว
"อย่างนี้ถึงจะถูก" เจ้าของบ้านตบไหล่เพื่อนนักเรียน "นายห้ามฉันมอบของให้ ใช่กิ่งไม้ช่อเดียวคงมอบให้ได้" เจ้าของบ้านยื่นมือไปหักดอกแมกโนเลียช่อนั้นมาส่งให้แก่เขา "เพื่อรำลึกถึงวัยเด็ก"
เขาหน้าแดงก่ำ ถอยไปที่ประตูใหญ่ พร้อมกับชูนิ้วมือขึ้น
"ตกลงกันแล้วว่าจะไม่ขับรถไปส่ง"
"แน่นอน" เจ้าของบ้านยกมือทั้งสองขึ้น ทำท่ายอมแพ้ "อีกอย่างหนึ่งรถส่งลูกชายนายไปเรียนพิเศษแล้ว กำลังรออยู่หน้าโรงเรียนกวดวิชาบางทีได้เวลาส่งลูกชายนายกลับบ้านพอดี"
7 วันต่อมาลูกชายของเขาไม่ต้องนั่งรถเมล์ไปเล่นเกมฟลายเบิร์ดอีกเพราะว่ามีคนส่งตู้เกมคอมพิวเตอร์มาถึงหน้าบ้าน 1 ตู้ ในชีวิตของเขาไม่เคยเห็นลูกชายดีอกดีใจถึงเพียงนี้ และของก็คืนไม่ได้ จำต้องรับเอาไว้
10 วันให้หลัง เขาทบทวนดูโครงการจัดซื้อนั้นอีก ลังเลอยู่ทั้งวันก่อนเลิกงานค่อยหยิบปากกาเซ็นอนุมัติ
*หมายเหตุ*
ทำไม "เขา" เซ็นอนุมัติโครงการ ซึ่งตั้งใจว่าจะไม่อนุมัติ?
เพราะว่าเขาได้รับการต้อนรับขับสู้จากอีกฝ่ายหนึ่งและรับของขวัญไว้
แต่ว่าพวกเราลองนึกดู "เขา" ได้อะไรบ้าง?
แช่อาหารมื้อเที่ยงโอชะ เหล้า 2 ขวด เสื้อผ้า 1 ชุด ดอกไม้ 1 ช่อ รถรับส่งเวลาลูกชายไปเรียนพิเศษกับตู้เกมคอมพิวเตอร์ 1 ตู้ รวมแล้วไม่มีราคาค่างวดเท่าไหร่
"เขา" ไม่ใช่ยืนกรานว่า จะไม่รับของขวัญใดๆจากอีกฝ่ายหนึ่งดอกหรือ? ทำไมจึงยอมรับ?
นี่คือใครแม็กของเรื่อง...
เพราะว่านั่นล้วนแล้วแต่เป็นของที่ปฏิเสธไม่ได้เมื่อคิดปฏิเสธก็ไม่ทันการณ์
นั่นไม่ใช่เงินล้านเหรียญรถยนต์ 1 คัน ไฟแช็คดูปองด์ 1 อัน หรือนาฬิกา rolex 1 เรือน ของมีราคาค่างวดเหล่านี้ปฏิเสธไม่รับได้
อาหารสั่งมาจากภัตตาคารมีชื่อ คุณคืนได้หรือ?
ผ้าเช็ดหน้าใช้เช็ดคราบสกปรกให้เด็กแล้วคุณทำให้ผ้าเช็ดหน้าไม่แปดเปื้อนได้หรือ?
เสื้อผ้าตัดสั้นแล้ว คุณเ***ชายที่ตัดทิ้งกลับเข้าไปใหม่ได้หรือ?
ดอกแมกโนเลียช่อเดียว คุณเชื่อมต่อติดเข้ากับกิ่งใหม่ได้หรือ?
รถขับไปส่งเด็กแล้ว คุณทำให้เวลาย้อนกลับบังคับรถกลับมาได้หรือ?
ตู้เกมคอมพิวเตอร์วางอยู่หน้าบ้านของคุณ คุณจะส่งคืนให้แก่ผู้ส่งสินค้าที่ไม่รู้จักชื่อได้หรือ? (ถึงแม้คุณเดาออกว่าเป็นใครส่งมา แต่ก็พิสูจน์ไม่ได้)
ความสูงส่งของคนส่งของขวัญอยู่ตรงนี้ เขารู้ดีว่าคุณไม่รับของขวัญ ฉะนั้นส่งของที่คุณจำต้องรับไว้
มีคนชนิดหนึ่งเชื้อเชิญดื่มเหล้า คุณจำต้องดื่มเพราะเขาพูดว่า "ถ้าคุณให้เกียรติผู้น้อง ต้องดื่มถ้วยนี้ผมขอดื่มก่อน"
พูดจบสาดเหล้าเข้าคอ คุณไม่ดื่มได้หรือ? ไม่ดื่มถือว่าไม่ให้เกียรติเขา
ยังมีคนร้ายกาจกว่านี้ เมื่อเขาเทเหล้าเข้าปากจะไม่ลดถ้วยเหล้าลง ใช้สายตาจ้องมองคุณ ดูว่าคุณจะดื่มไหม ถ้าคุณยังไม่ดื่ม เขาจะก้มหัวลง บวชเหล้าที่ "อม" ไว้ในปากลงในแก้วใหม่
ทั้งสกปรกและก็ร้ายเหลือ
ปัญหาอยู่ที่ในโลกนี้มีคนใจซื่อมือสะอาด ยึดมั่นในหลักการไม่น้อย จำเป็นต้องประนีประนอมอย่างนี้
แก๊งยากูซ่าของญี่ปุ่น ถ้าใครทำผิด จะตัดนิ้วก้อยของตัวเอง มอบให้แก่ผู้อาวุโสหรือคนที่เขาติดค้างอยู่ ถ้าอีกฝ่ายหนึ่งยอมรับนิ้วมืออันโชคเลือด ซึ่งห่อด้วยผ้าขาวหมายความว่ายอมยกโทษให้แก่คนที่ทำผิด
มีสักกี่คนที่เผชิญเหตุการณ์อย่างนี้ยังไม่ยอมรับ?
นิ้วมือตัดออกมาแล้วเชื่อมต่อติดไม่ได้ คุณจะใจแข็งไม่ยอมรับหรือ?
ท่านปรมาจารย์นิกายเซ็นคือเว้ยโห ตอนแรกกราบท่านโพธิ์ที่ทำเป็นอาจารย์ ท่านโพธิธรรมความจริงไม่รับ ต่อมาทำไมจึงรับเป็น ศิษย์ ก้นกุฏิ?
เพราะว่าท่านเว้ยโห ฟันแขนตัวเองส่งให้
แม้แต่ท่านโพธิธรรมซึ่ง "นิ่ง" ถึงเพียงนั้นยังเปลี่ยนความตั้งใจ
ลองนึกย้อนขึ้นไป ก่อนคริสตศักราช 227 ปี ไท่จื่อตันใช้วิธีอะไร ทำให้จิงเคอเดินทางไปปลงพระชนม์จิ๋นซีฮ่องเต้อย่างอาจหาร
เหตุผลทั้งธรรมดา และไม่ธรรมดา
ขณะที่จิงเคอ ติดตามไท่จือตันออกท่องเที่ยว เก็บเศษกระเบื้องขึ้นมาขว้างเล่น ไท่จือตันก็หยิบยื่นก้อนทองคำ ให้ใช้แทนกระเบื้อง
เมื่อพวกเขาควบขับม้าพันธุ์ลี้วิ่งวันละ พันลี้ออกไปจิงเคอ พูดโดยไม่ตั้งใจว่า "ตับของม้าพันธุ์นี้งามมาก" ไท่เจือตันก็ฆ่าม้าพันธุ์ลี้ ควักตับม้า มอบให้
เวลาจิงเคอ ดูสาวงามดีดพิณ เที่ยวชมเชยว่า "ช่างเป็นมือที่แคล่วคล่องนัก"
ไท่เจือตัน ก็ฟันมือทั้งสองของสาวงาม บรรจุใส่ถาดหยก ยกให้แก่จิงเคอ
ไท่เจือตัน ที่ใจคออำมหิตนัก และเป็นผู้ล่วงรู้ "วิถีแห่งการส่งของขวัญนัก" เพราะเขารู้ว่า ของขวัญที่ร้ายที่สุดเป็นของขวัญที่อีกฝ่ายหนึ่งคิดปฏิเสธ แต่ก็ไม่ทำการณ์ ถึงแม้ว่าตับของม้าพันธุ์ลี้ กับมือของสาวงามล้วนเป็นการเสียสละ ที่ไม่ชอบด้วยเหตุผล แต่ก็เป็นเช่นเดียวกับมือของเว่ยคอ จำต้องรับน้ำใจนี้ไว้
มีนาคมเรา จิเคอ จึงรำพึงว่า "ไท่เจือตันดีต่อถ้าไปแล้ว"
สรุปแล้ว คนส่ง "ของขวัญเป็นรูปเป็นร่าง" ให้คุณไม่น่ากลัว ที่น่ากลัวคือรูปแบบที่เหลือเชื่อ ไม่ชอบด้วยเหตุผล ของขวัญที่ทำให้คุณจำต้องรับไว้ ถึงแม้ไม่รับก็ยังซึ้งในน้ำใจ
ถ้าหากเผชิญกับคนประเภทนี้ จะทำอย่างไร?
หนึ่ง คุณต้องรักษาความตื่นตัว ก่อนที่เขาจะเปิดเหล้า หักดอกไม้ หลวงผ้าเช็ดหน้า ชิงห้ามปรามเขาก่อน
สอง คุณต้องใช้แผนทรหดสู้กับแผนทรหด สิงโตเกมคอมพิวเตอร์อยู่หน้าบ้าน ปล่อยให้ตากแดดตากฝน หรือบริจาคให้แก่หน่วยงานสวัสดิการสาธารณะ
บริจาคเสื้อผ้าชุดรูนั้นให้องค์การกุศล เพื่อนำไปประมูลขาย แล้วบรรจุเงินใส่ซองอั่งเปา มอบให้แก่คนขับรถที่ส่งเด็กไปเรียนพิเศษ
ใช้วิธีการพิเศษรับมือกับคู่มือพิเศษคือหลักการที่แน่แท้
โฆษณา