25 ส.ค. 2022 เวลา 01:27 • ข่าวรอบโลก
เพื่อนบ้านไม่กลัวต่างชาติแย่งงานแถมได้ทักษะ
เอกชนเวียดนามเตรียมตั้ง 'Silicon Valley' ดึงนักวิทย์ฯ
สิงคโปร์ดันนโยบายดูดผู้เชี่ยวชาญนวัตกรรมล้ำสมัย
โลกยุคนี้ คือยุคของการเร่งการพัฒนาประเทศ เพื่อเสริมขีดความสามารถด้านต่างๆ โดยเฉพาะการสร้างความแข็งแกร่งทางด้านเศรษฐกิจและเทคโนโลยี เพื่อยักระดับหรือรักษาระดับการเป็นประเทศชั้นนำต่อไป
1
ไม่ใช่เพียงแค่ความพยายามดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศเท่านั้น แต่หลายชาติกำลังพยายามดึงดูดแรงงานระดับหัวกะทิจากต่างชาติให้เข้ามาทำงานในประเทศตัวเอง โดยเฉพาะด้านวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี เพื่อเป็นการกระตุ้นให้เกิดการแข่งขันเพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมขั้นสูง มากกว่าแค่เป็นประเทศผู้รับจ้างผลิตสินค้าราคาถูกไปวันๆ และการที่ดึงหัวกะทิเข้ามานั้นจะยิ่งกระตุ้นให้คนในประเทศนั้นๆ ต้องเร่งพัฒนาตัวเองหากยังอยากเป็นตัวเลือกในตลาดแรงงาน ท่ามกลางโลกที่ไร้พรมแดนอีกต่อไป
ซึ่งเทรนนี้กำลังเกิดขึ้นทั่วโลกที่แม้ว่าในประเทศฝั่งยุโรปหรืออเมริกาจะเกิดขึ้นมานานแล้ว แต่ในฝั่งเอเชียหรืออาเซียน กำลังเดินไปในทิศทางดังกล่าวมากขึ้น
🔵 ‘Vingroup’ พร้อมทุ่มเงินดึงดูดผู้เชี่ยวชาญต่างชาติระดับโลกให้มาปักหลัก
โดยประเทศเวียดนาม กลุ่มบริษัทเอกชนที่ใหญ่ที่สุดอย่าง ‘Vingroup’ ได้ประกาศแผนการที่จะจัดตั้ง 'Silicon Valley' ของเวียดนาม และเตรียมดึงดูดนักวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีของโลกเข้ามาทำงาน
แผนดังกล่าวได้รับการเปิดเผยโดย Nguyen Viet Quang ซีอีโอของ Vingroup ในระหว่างการประชุมเกี่ยวกับการพัฒนาตลาดแรงงานในประเทศ
แผนก็คือ ภายใน 3 ปีข้างหน้า Vingroup จะเปิดศูนย์การเชื่อมต่อทางปัญญาระดับโลกในจังหวัด Khanh Hoa ทางตอนใต้ตอนกลางของประเทศ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญและนักวิทยาศาสตร์จะมารวมตัวกันและทำการวิจัยขั้นสูงเกี่ยวกับเทคโนโลยี และพร้อมทุ่มเงินมหาศาลในการสนับสนุนการพัฒนาแอปพลิเคชันต่างๆ เพื่อให้เวียดนามสร้าง 'Silicon Valley' ของตัวเองขึ้นมา
Vingroup คาดว่าจะจ้างพนักงานประมาณ 150,000 คนในอีก 2 ปีข้างหน้าโดยมีผู้สมัครตั้งแต่แรงงานไร้ฝีมือไปจนถึงคนงานอาวุโสในด้านการวิจัยเทคโนโลยี การค้า และการบริการ
และในอีก 5 ปีข้างหน้า เตรียมวางแผนที่จะสร้างบ้านเพื่อสังคม 500,000 หลัง และริเริ่มโครงการก่อสร้างหลายโครงการทางตอนเหนือของจังหวัด Quang Ninh จังหวัด Khanh Hoa และที่นครโฮจิมินห์ซิตี้
ทั้งนี้บริษัทเพิ่งเปิดโรงงานแบตเตอรี่แห่งใหม่ในจังหวัด Ha Tinh ทางภาคเหนือ และขยายการผลิตโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของบริษัท VinFast ที่เมือง Hai Phong เพิ่มอีกด้วย
ทั้งนี้คาดว่าจะมีแรงงานประมาณ 80,000-100,000 คนได้รับการคัดเลือกเพื่อเข้าร่วมในโครงการ 'Silicon Valley'
ปัจจุบันเวียดนามกำลังต้องการแรงงานที่มีทักษะสูงอย่างมาก และกำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยในการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการวางแผนและการลงทุน กล่าวว่าการกระจายตัวของแรงงานไม่สม่ำเสมอระหว่างภูมิภาคและท้องถิ่น การขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะจะผลกระทบต่อการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศในภาคอุตสาหกรรมไฮเทค
รัฐบาลมีนโยบายเพื่อสนับสนุนองค์กรระดมเครือข่ายปัญญาชนเวียดนามในประเทศและต่างประเทศ ส่งเสริมการพัฒนาสถาบันฝึกอบรม และกระจายรูปแบบของความร่วมมือระหว่างสถาบันฝึกอบรม สมาคม และองค์กรต่างๆ เพื่อส่งเสริมการพัฒนาตลาดแรงงานและทรัพยากรมนุษย์ โดยมุ่งเน้นที่การปรับปรุงเงินเดือน โบนัส และสวัสดิการที่น่าจูงใจ
🔵 สิงคโปร์ ประกาศแผนดูดคนมีความสามารถจากต่างประเทศ รักษาความเป็นผู้นำ
สำหรับสิงคโปร์ ประเทศที่พัฒนาชาติขึ้นมาจากการเป็นศูนย์กลางการลงทุน และการเงิน ก็พร้อมก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางทางด้านนวัตกรรมขึ้นสูง เพื่อรักษาตำแห่งประเทศหัวแถวของโลกเอาไว้ โดยนายลี เซียนลุง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ กล่าวว่า สิงคโปร์เตรียมเปิดตัวโครงการใหม่เพื่อดึงดูดผู้มีความสามารถจากต่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับภาคส่วนสำคัญทุกๆ ด้าน เพื่อให้เป็นแหล่งรวมคนเก่งที่มีความสามารถระดับโลก
โดยกระทรวงแรงงาน กระทรวงการค้าและอุตสาหกรรม และหน่วยงานทางเศรษฐกิจจะประกาศว่า สิงคโปร์ต้องการสร้างประเทศให้เป็นแหล่งพัฒนาผู้มีความสามารถระดับแนวหน้าในทุกๆ ระดับ ที่ให้ความสนใจในการเข้ามาอยู่อาศัยและทำงานในสิงคโปร์
นายกรัฐมนตรีสิงคโปรกล่าวว่า แม้ว่าประเทศมีแผนที่จะดึงดูดและรักษาผู้มีความสามารถระดับสูงไว้อยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี แต่ก็จำเป็นต้องดำเนินการให้มากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคส่วนที่มีศักยภาพที่ดี
สิงคโปร์มองเห็นความพยายามดึงดูดผู้คนที่มีศักยภาพสูงในระดับนานาชาติของประเทศอื่นๆ ที่ต่างก็พยายามสุดฤทธิ์ที่จะทำอย่างไรก็ใด้ให้เข้ามาลงหลักปักฐานในประเทศนั้นๆ อย่างล่าสุดที่เยอรมนีมีการสนับสนุนให้ผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศที่มีทักษะสูงสามารถอาศัยอยู่ที่นั่นก่อนได้งานทำ และการออกวีซ่าพิเศษฉบับใหม่ของสหราชอาณาจักรสำหรับผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยชั้นนำของโลก 50 แห่ง ที่เข้ามาทำงานได้เลย ซึ่งรวมถึงผู้ที่สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีนันยาง
1
สิงที่นายลีมองเห็นคือ การที่จะทำให้สิงคโปร์ยังคงอยู่ในฐานะผู้นำของโลก และส่องประกายในฐานะศูนย์กลางด้านนวัตกรรม จำเป็นต้องดึงดูดให้คนเก่งๆ อยากมาอยู่ที่สิงคโปร์ เพื่อมีส่วนร่วมในการสร้างประเทศให้มีพลังและโดดเด่น
ถ้าเป็นในประเทศไทย มักเกิดคำถามว่าการดึงดูดคนต่างชาติเข้ามาทำงาน ก็มีแต่จะมาแย่งงานคนไทยทำ เพราะคนไทยอาจสู้ต่างชาติไม่ได้ หรือไม่ก็ต้องเป็นลูกน้องต่างชาติในบ้านตัวเอง ซึ่งคำถามที่คล้ายกันนี้ก็เกิดขึ้นในสิงคโปร์เช่นกันว่า การดูดคนเก่งจากต่างประเทศ จะสามารถทำให้คนสิงคโปร์พัฒนาได้อย่างไร
สิงคโปร์มองในมุมที่ต่างออกไป โดยนายกรัฐมนตรีลีระบุว่า การที่สิงคโปร์พัฒนามาได้อย่างรวดเร็วจนถึงทุกวันนี้ ก็เพราะได้รับการพัฒนาทักษะของผู้คนจากผู้เชี่ยวชาญต่างชาติตั้งแต่ในอดีต เช่น ภาคส่วนชีวการแพทย์ ซึ่งกำลังเฟื่องฟูในทุกวันนี้ ก็ต้องขอบคุณความพยายามตั้งแต่ในปี 1990 ที่ขณะนั้นประเทศพยายามดึงดูดผู้เชี่ยวชาญชั้นนำของโลกจากต่างประเทศเข้ามาทั้ง นักวิทยาศาสตร์ นักวิจัย และวิศวกร
ซึ่งได้มาทำงานในสิงคโปร์ พร้อมกับฝึกฝน ให้คำปรึกษาแก่ผู้มีความสามารถในท้องถิ่น วางรากฐานการพัฒนาทักษะฝีมือและทรัพยากรมนุษย์เอาไว้ จนทำให้เกิดการเติบโตของผู้มีความสามารถขั้นสูงที่เป็นคนท้องถิ่น ต่อยอดมาจนถึงการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมที่ล้ำสมัยในปัจจุบัน จนกลายเป็นศูนย์กลางของบริษัทสตาร์ทอัพมากมายที่เติบโตเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ของโลก
ส่วนภาคชีวการแพทย์ของสิงคโปร์มีพนักงาน 25,000 คน และความสำคัญต่อเศรษฐกิจประเทศที่สร้างมูลค่าถึง 1 ใน 5 ของ GDP สิงคโปร์
นายกรัฐมนตรีลีกล่าวเพิ่มเติมว่า หากตอนนั้นสิงคโปร์ไม่แสวงหาผู้มีความสามารถระดับแนวหน้าตั้งแต่เมื่อ 30 ปีที่แล้ว ประเทศก็คงจะไม่สามารถพัฒนาได้มากขนาดนี้ จนสร้างทีมนักวิจัยและพัฒนาคนเก่งในท้องถิ่น นี่คือความแตกต่างที่เกิดขึ้นกับประเทศของเขา
แม้ว่าจะมีความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบที่เกิดขึ้นบ้างเมื่อมีชาวต่างชาติเข้ามาอยู่ในสิงคโปร์ ในสัดส่วนที่มากกว่าผู้คนท้องถิ่น แต่รัฐบาลก็สามารถแก้ไขปัญหาได้เป็นอย่างดีโดยเฉพาะการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มงวดร่วมกัน และการที่ผู้คนทุกชนชั้น เชื้อชาติ ได้คุณภาพชีวิต รายได้ และสวัสดิการที่เพียงพอต่อการอยู่อาศัยนประเทศที่มีรายได้และค่าครองชีพสูงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก และยังคงดึงดูดมนุษย์ผู้พัฒนาทักษะขั้นสูงจากต่างชาติอย่างต่อเนื่อง
และสิงคโปร์ถือว่าเป็นประเทศที่เหมาะแก่การเข้ามาลงหลักปักฐานเพื่อการทำงาน หรือการศึกษาต่อในระดับสูง ที่มีความปลอดภัยและต้อนรับชาวต่างชาติ ในขณะที่ภาคธุรกิจต่างก็ต้องการลงทุนในประเทศที่มีบุคลากรที่มีความพร้อมในทุกด้าน มีการเมืองและนโยบายที่มีเสถียรภาพ และการทำงานที่เป็นมาตรฐานสากล
╔═══════════╗
ไม่พลาดบทความสาระดีๆ ที่ Reporter Journey ตั้งใจสร้างสรรเพื่อผู้ติดตามทุกท่าน อย่าลืมกดติดตามเพจ ติดตาม Reporter Journey ได้ทุกช่องทางที่
╚═══════════╝
.
ติดตาม Reporter Journey ได้ทุกช่องทางที่
Line : @reporterjourney
โฆษณา