14 ก.ย. 2022 เวลา 13:00 • ธุรกิจ
3 สัญญาณครั้งใหญ่ ที่บอกว่าธุรกิจอาจจะไม่ได้ไปต่อ
การทำธุรกิจในทุกๆประเภท ย่อมมีทั้งช่วงที่ค้าขายได้ดี และมีช่วงที่เผชิญกับอุปสรรค ผู้ประกอบการบางรายอาจจะเพิกเฉย หรือไม่สามารถแก้ปัญหาได้ทัน จนก่อให้เกิดเป็นปัญหาใหญ่ นั่นคือ ธุรกิจต้องหยุดชะงักหรือปิดตัวไปอย่างกระทันหัน ทางที่ดีแล้วควรจะพึงสังเกตสัญญาณต่างๆภายในธุรกิจตนเองอย่างสม่ำเสมอ เพื่อช่วยในแง่การป้องกันปัญหา รู้เท่าทันปัญหา และทำให้แก้ไขสถานการณ์ที่เกิดขึ้นได้ทันท่วงทีนั่นเอง
อย่างไรก็ดีการทำธุรกิจนั้นย่อมมีหลากหลายเรื่องให้ผู้ประกอบการได้พบเจอ สิ่งที่ควรปฎิบัติอยู่เสมอคือ ต้องไม่เพิกเฉย และทำตัวให้เท่าทันสิ่งต่างๆรอบตัวอยู่ตลอดเวลา คิดวิเคราะห์ธุรกิจของตนเองให้อยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง มีเหตุและผล อย่าใช้เพียงแต่ความเชื่อ หรือสัญชาตญาณในการทำธุรกิจอย่างเดียว ต้องอาศัยหลายๆสิ่งควบคู่กันไป เพื่อจะได้อยู่อย่างยั่งยืนทุกๆการเปลี่ยนแปลงของสังคม
สัญญาณทางธุรกิจสำคัญขนาดไหน
สัญญาณทางธุรกิจสำคัญอย่างมากชนิดที่ว่ามองข้ามไม่ได้ ไม่ว่าเรื่องเล็กหรือเรื่องใหญ่ก็ควรให้ความสำคัญ เช่น ลูกค้าตำหนิสินค้าเดิมๆ 2-3 ครั้ง แต่เพิกเฉย เพราะเห็นว่าเป็นเพียงเสียงส่วนน้อย
นั่นอาจจะทำให้อนาคตธุรกิจของเราอาจจะไปไม่รอด เพราะลูกค้าอาจจะบอกต่อๆกันจนทำให้รู้ว่า สินค้านั้นๆไม่ได้คุณภาพ แถมร้านยังเพิกเฉย ไม่มีการปรับปรุงแก้ไข ส่งผลให้ลูกค้าหันไปสนใจบริโภคกับเจ้าอื่นแทน และไม่แน่ว่าอาจจะเป็นคู่แข่งของเราก็เป็นได้ ฉะนั้นอย่าปล่อยให้โอกาสในการค้าขายของเราหลุดลอยไป เพราะเพิกเฉยต่อสิ่งต่างๆ เมื่อคิดจะทำธุรกิจแล้วต้องรับฟังได้ แก้ไขเป็น
3 สัญญาที่ควรระวัง เพราะอาจจะส่งผลให้ธุรกิจไม่สามารถไปต่อได้
1.ลูกค้าเก่าไม่มา ลูกค้าใหม่ไม่มี
สัญญาณแรกๆที่ทำให้เราสามารถวัดผลและเริ่มสังเกตการณ์ได้ก็คือ ลูกค้า หากช่วงแรกลูกค้ามีการเข้ารับบริการในธุรกิจเราบ่อย มีลูกค้าขาประจำ และลูกค้าใหม่ๆเข้ามาไม่ขาดสาย แต่อยู่ๆผู้คนก็เริ่มลงลด แม้กระทั่งขาประจำก็ไม่เคยมาให้เห็นอีกต่อไป ก็อาจจะหมายความว่าคุณภาพ ประสิทธิภาพในการให้บริการของเราลดลงอย่างมาก ต้องกลับมาแก้ไขให้ทัน และต้องรู้ต้นตอด้วยว่าเกิดจากสาเหตุอะไร หากไม่รู้จริงๆ ให้สอบถามจากลูกค้าโดยตรงเพื่อเป็นข้อมูลประกอบ
2.สินค้าไม่เป็นที่ต้องการแบบเดิม
ในส่วนของการขายสินค้านั้น เรื่องกระแสและความต้องการในปัจจุบันมักจะนิยมเป็นช่วงๆ หากใครที่ขายหรือให้บริการ
สินค้าตามกระแสอาจจะประสบปัญหาสินค้าขายได้แค่ช่วงสั้นๆ หลังจากนั้นก็ซาลง ควรปรับเรื่องสินค้าที่ขาย หรือทำโปรโมชั่นเพื่อให้ลูกค้ากลับเข้ามาซื้อ รวมไปถึงการระบายสต็อกก็อาจจะช่วยให้ไม่ต้องเจ็บตัวหนัก
3.ปัญหาทางราคา
ราคาในธุรกิจประเภทเดียวกันที่ขึ้นๆลงๆ มีการแข่งขันสูงเนื่องจากมีคู่แข่งทางการตลาดเกิดใหม่ขึ้นมาก นั่นอาจจะหมายถึงสงครามทางราคา ซึ่งส่งผลกระทบกับธุรกิจ พอเกิดสงครามทางราคาขึ้นก็ทำให้หาช่องทางในการเติบโตได้ยาก เพราะมีแต่คนที่พยายามจะดีดตัวเองออกจากสงครามนี้แต่ทว่าก็มีไม้น้อยที่ไม่สามารถรอดจากสงครามนี้ไปได้ ทางที่ดีต้องรู้เรื่องตลาด การทำราคา กลยุทธ์โปรโมชั่น
การปรับเปลี่ยนทิศทางการบริหาร เมื่อแผนเดิมๆใช้ในตลาดไม่ได้ผล ต้องพยายามวางแผนและสร้างสิ่งใหม่นั่นเอง
ติดตาม Zero to Profit ช่องทางอื่นได้ที่
โฆษณา