23 ก.ย. 2022 เวลา 05:02 • หุ้น & เศรษฐกิจ
ปั้นพอร์ตให้โตอย่างมั่นคงไปกับ Passive Fund
อยากรวย อยากมั่งมี อยากมั่งคั่ง
แต่ก็อยากมั่นคงด้วย
ต้องลงทุนอย่างไร?
วันนี้ LUMPSUM มีคำตอบ
วิธีสร้างความมั่งคั่งและมั่นคงไปกับ Passive Fund
สนใจโฆษณาติดต่อ :
👉 Tel: 081-773-6258 (จอย)
Passive Fund เป็นกองทุนรวมที่เน้นสร้างผลตอบแทนให้ได้ใกล้เคียงกับดัชนีอ้างอิง (Benchmark) ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ จึงมีอีกชื่อเรียกว่า “Index Fund” อย่างไรก็ตาม Passive Fund มีโอกาสที่ผลตอบแทนอาจจะสูงหรือต่ำกว่า Benchmark ได้ เนื่องจากสินทรัพย์ที่กองทุนไปลงทุนอาจไม่ได้เหมือนกับดัชนีอ้างอิงแบบ 100%
ส่วน Active Fund มีเป้าหมายสร้างผลตอบแทนสูงกว่าดัชนีอ้างอิง (Benchmark) หรือต้องการเอาชนะตลาด ผู้จัดการกองทุนจะต้องใช้ความสามารถในการเลือกหลักทรัพย์เข้าพอร์ต โดยมีแนวทางการวิเคราะห์ในการเลือกหลักทรัพย์ 2 แบบได้แก่
1. Top-down Analysis คือวิเคราะห์จากภาพรวมเศรษฐกิจ และลงไปในระดับอุตสาหกรรม ก่อนที่จะเลือกหุ้นแต่ละตัวจากปัจจัยพื้นฐาน
2. Bottom-up Analysis จะตรงกันข้ามจากวิธี Top-down คือเป็นการเลือกตัวหลักทรัพย์ก่อนที่จะพิจารณาปัจจัยด้านอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจ
การลงทุนระยะยาวถูกพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพมากพอที่จะสร้างความมั่งคั่งได้อย่างยั่งยืน เห็นได้จากงานวิจัยที่พบว่า “การจัดสรรสินทรัพย์ลงทุน” เป็นส่วนสำคัญที่มีผลต่อการกระจายความเสี่ยงในการลงทุน ด้วยสัดส่วนสูงถึง 91.5% (Index Fund ได้กระจายการลงทุนอย่างดีพอแล้ว) ขณะที่การคัดเลือกสินทรัพย์ลงทุน และการจับจังหวะตลาด ช่วงสร้างผลตอบแทนสูงเป็นครั้งคราวในระยะสั้น แต่ในระยะยาวไม่สามารถสร้างผลตอบแทนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สอดคล้องกับ Warren Buffett ที่เสนอแนวคิดที่น่าสนใจไว้ว่า “ไม่มีนักลงทุนคนไหนที่สามารถเอาชนะตลาดได้ในระยะยาว” และสิ่งที่เป็นศัตรูของนักลงทุนมากที่สุดก็คือ “ค่าใช้จ่าย” และ “อารมณ์”
ด้วยกลยุทธ์ที่ต้องการให้ได้ผลตอบแทนใกล้เคียงกับตลาด Passive Fund จึงมีค่าธรรมเนียมและความเสี่ยงต่ำกว่า Active Fund เนื่องจากเป็นการลงทุนตามดัชนีอ้างอิง ช่วยลดต้นทุนในการบริหารจัดการ และลดความเสี่ยงจากการเลือกหุ้นผิดตัว
หลายคนอาจมีข้อสงสัยว่าทำไมถึงต้องเลือกลงทุนเพื่อให้ได้ผลตอบแทนตามตลาด แทนที่จะลงทุนเพื่อให้ผลตอบแทนสูงกว่าตลาด คำตอบก็คือในตลาดที่มีประสิทธิภาพ จะไม่มีใครสามารถทำผลตอบแทนได้ดีกว่าตลาดระยะยาวนั่นเอง
ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุนแบบเชิงรับ (Passive Fund) จึงเหมาะสำหรับการลงทุนระยะยาว เพราะนอกจากจะทนทานต่อภาวะวิกฤติแล้ว เวลาที่นานพอจะช่วยลดความเสี่ยงจากความผันผวน และช่วยสะสมความมั่งคั่ง แถมยังมีต้นทุนในการบริหารจัดการต่ำอีกด้วย
ขั้นตอนเลือก Passive Fund
1. เน้นกองทุนที่ได้ 3 ดาวขึ้นไป ตามการจัดอันดับของ Morningstar
2. ดู Tracking Error เน้นกองทุนที่ค่า Tracking Error ต่ำ เพราะ Passive Fund เป็นกองทุนที่เน้นให้ผลการดำเนินงานใกล้เคียงกับดัชนีอ้างอิงให้มากที่สุด
3. ดูค่าธรรมเนียม (ปกติจะใกล้เคียงกัน)กองทุน Passive Fund ที่นำมายกตัวอย่าง ทั้งหมดเป็นกองทุนรวมหุ้นที่เน้นลงทุนให้ได้ผลตอบแทนใกล้เคียงกับดัชนีอ้างอิงของตลาดหุ้นประเทศนั้น ๆ
กองทุน Passive Fund ที่นำมายกตัวอย่าง ทั้งหมดเป็นกองทุนรวมหุ้นที่เน้นลงทุนให้ได้ผลตอบแทนใกล้เคียงกับดัชนีอ้างอิงของตลาดหุ้นประเทศนั้น ๆ
โฆษณา