23 ก.ย. 2022 เวลา 07:40 • คริปโทเคอร์เรนซี
The Merge: จุดจบการขุดเหมืองคริปโตและผู้ผลิตการ์ดจอของไต้หวันและตะวันตก นรกมาเยือนถึงบ้านทันที
จากรายงานของผู้เชี่ยวชาญ เรียกว่าวันที่ 15 กันยายน 2022 ที่ผ่านมาเป็นวันแห่งความตายของการขุดเหมืองบนการ์ดวิดีโอ และ วันที่เริ่มต้นของฤดูหนาวคริปโต
เพราะมีการเปิดตัว โครงการ “The Merge” ของแพลตฟอร์ม Ethereum blockchain ในวันนั้น ทำให้การขุดเหรียญแบบเก่า เดิมๆ ไม่มีประโยชน์อีกต่อไป และนักขุดกำลังมองหาโอกาสใหม่ เพื่อเปลี่ยนไปใช้ altcoins อื่น ๆ
แต่สำหรับผู้ผลิตการ์ดจอของพวกไต้หวันและตะวันตก ความฉิบหายมาเยือนที่บ้านทันที เพราะไม่มีใครใช้อีกต่อไป ราคาการ์ดจะลดลงอย่างรุนแรง และราคาชิปหายไปตามๆกันมา
ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า มีการเปลี่ยนโปรโตคอลจาก Proof of Work (PoW) มาเป็น Proof of Stake (PoS) ซึ่งเป็นสกุลเงินดิจิทัลที่มีตัวพิมพ์ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของโลก(Ethereum) ที่จริงแล้ว "The Merge" นักพัฒนาระบบได้เตรียมการเปิดตัวตั้งแต่ปี 2015 แต่คงติดขัดเรื่องการเมือง มีคนเสียผลประโยขน์ได้ประโยชน์
นักวิเคราห์ข้อมูลตั้งข้อสังเกตว่า สำหรับแนวความคิด Ethereum โดยผู้ร่วมก่อตั้งแพลตฟอร์มบล็อคเชน Vitalik Buterin ได้พิจารณาและพัฒนาอัลกอริทึม PoS เป็นทางเลือกแทน PoW ที่ได้ทดสอบการทำงานใน bitcoin แล้วนั้น มีผลตอบรับที่ดี
และจากความเห็นของ Buterin ที่กล่าวว่า PoS หมายถึงความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่ามาก เพราะมันไม่ต้องการพลังประมวลผลมหาศาลอย่างPoW
อีกประการหนึ่งคือช่วยการลดความเสี่ยงของการรวมศูนย์การขุดอย่างมีนัยสำคัญ ด้วยอัลกอริธึม PoS และผู้ใช้ที่เป็นเจ้าของสกุลเงินดิจิทัลรายย่อยสามารถมีส่วนร่วมในการสร้างบล็อก
แต่สำหรับการขุดด้วยอัลกอริทึม PoW ต้องใช้อุปกรณ์พิเศษราคาแพง เพื่อใช้สำหรับการขุด และนายทุนผู้ร่ำรวยสามารถครอบงำตลาดและผูกขาดบล็อคเชนได้
บบสรุปสุดท้าย Joseph Lubin หนึ่งในผู้สร้างโครงการ Ethereum เรียกว่าการเปลี่ยนจาก PoW เป็น PoS เป็นการอัปเกรดที่สำคัญและยากที่สุดในประวัติศาสตร์ของ blockchain และเหตุการณ์สำคัญครั้งที่สามในอุตสาหกรรม crypto ทั่วโลก ภายหลังจากการสร้าง Bitcoin และ Ethereum ไปแล้ว
กล่าวต่อว่า ตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน 2022 ที่ผ่านมาเป็นต้นไป ความปลอดภัยของEthereum blockchain ไม่ได้ให้บริการโดยผู้ขุด แต่โดยผู้ตรวจสอบความถูกต้องของ crypto ที่รับผิดชอบในการตรวจสอบธุรกรรมและรับรายได้แบบพาสซีฟโดยการจัดเก็บเหรียญ crypto
นอกจากนี้ด้วยการใช้อัลกอริธึมProof -of-Stake นั้น ระบบบล็อคเชนทั้งหมดจะเร่งความเร็วการทำงานและจะใช้ไฟฟ้าน้อยกว่าเดิมถึง 99%
ในขณะเดียวกันมีการลดการใช้พลังงานทั่วโลกลง 0.2% เนื่องจากไม่ต้องการกราฟิกการ์ดจำนวนมากอีกแล้ว และจำนวนฟาร์มขุดเหมืองขนาดใหญ่ มันจะหายไปหมดเช่นกัน ไชโย
นักวิชาการจาก Tomshardware.com กล่าวสรุปว่า ระบบนิเวศ Ethereum ที่มีมูลค่า 60 พันล้านดอลลาร์ สำหรับการแลกเปลี่ยนคริปโต และบริษัทให้ยืม รวมถึง ตลาดโทเค็นที่ทำงานร่วมกันได้ (NFT) ตลอดจนแอปพลิเคชั่นอื่น ๆ ในตอนนี้มีความปลอดภัยและปรับขนาดได้มากขึ้นกว่าเดิม
โฆษณา