23 ก.ย. 2022 เวลา 13:41 • ปรัชญา
เรื่องที่ว่าเกิดมามีสังขาร มีลมหายเข้าออก เรือนกายเป็นที่อาศัยของจิต ในเรือนกายก็มีอารมณ์ อารมณ์ที่บีบบังคับให้รักกายรักชีวิตของตน หมดกายเมื่อไหร่ จิตก็ไม่มีที่อาศัย
การที่จิตมาอาศัยกาย ที่เค้าเรียก ว่ากายกรรม กายของผู้ที่มีกรรม กายกรรมที่เติบโต ตั้งแต่ทารก ไปจนแก่เฒ่าชรา จิตที่มาอาศัย ก็ต้องใช้กาย นี้ให้เป็น ดูดนมเป็นตั้งแต่แรกเกิด พ่อแม่ป้อนนมให้ ไม่ดูดนมกิน ก็ไม่รอด มันก็ต้องฝึกหัดเรื่องการกินตั้งแต่เด็ก
พอเด็กเริ่มรู้จักรสชาติ อะไรที่ชอบไม่ชอบ อาหารการกินก็เปลี่ยนแปลงไปมี ฟันน้ำนมขึ้น พอโตขึ้นมาหน่อย เริ่มพูดได้ ..เริ่มพูดหลอกเป็นโกหกเป็น เค้าก็เรียกว่า มายาของโลกเริ่มเข้ามาสู่จิต ก็ค่อยๆ รู้จักเรียกร้อง อยากได้สิ่งนั้นสิ่งนี้ ได้สิ่งไหนไม่ถูกใจ ก็โมโห ..โกรธ ก็มีอารมณ์โลภโกรธหลง ไหลมาให้ใช้ไปตลอด
ชีวิตประจำวันมันก็ต้องใช้อารมณ์ ไปทำมาหากิน หาปัจจัยมาหล่อเลี้ยงสังขาร ไม่มีปัจจัยที่จำเป็น ..ชีวิตก็ต้องเดือดร้อน มันก็เป็นเรื่องจำเป็นต้องดิ้นรน เพื่อให้ได้มาซึ่งปัจจัย แต่การเสาะแสวงหาหาปัจจัยของคนเรา มันมีความยากลำบาก ไม่เหมือนกัน
บางคนทำงานทั้งวันก็ไม่พอ บางคนทำงานนิดหน่อยเงินทองก็ไหลมา มันมีเหตุหลายอย่างที่ทำให้ชีวิตต้องเป็นไป ในสิ่งที่เค้าเรียกว่าเนื้อนาบุญที่สะสมมาไม่เท่ากัน มีวิบากกรมที่ไม่เหมือนกัน มีการคล้องกรรม อุปถัมภ์กันมาก็ไม่เหมือนกัน แม้บางคนเป็นญาตพี่น้อง ก็น่าจะช่วยเหลือกัน แต่ว่าบางทีก็เกิดมาในสถานะทวงกรรม แก้แค้น อาฆาตก็มี
เมื่อเราได้ทำความรู้จักเรือนกายของเราชัดเจนมากขึ้น เข้าใจในเรื่องกายนี้ก็เป็นมายา เมื่อเราอยู่กับกาย เราต้องใช้กาย เราก็เสาะแสวงหาปัจจัย มาเพื่อให้กายนี้อยู่รอด คือ นำมาเพื่อประทังสังขารให้อยู่ได้ นั่นเฉพาะในส่วนที่จิตเราอาศัยอยู่ เรื่องที่หลับที่นอน ก็ลองนอนกับพื้น เอาหนังสือมาหนุนนอน เวลาหลับมันก็ไม่รับรู้อะไร ว่านอนตรงไหน มีอะไรบ้าง ไม่รับรู้เหมือนกันเวลานอนหลับ
เมื่อเราหัดฝึกตัวเองได้ เราสร้างบุญกุศลเป็นสละปัจจัยที่เราหามาได้ แบ่งปันเป็นบุญกุศล เผื่อแผ่คนนั้นคนนี้ไปบ้าง ให้ทาน ให้บุญกุศล อุทิศส่วนกุศลไปเรื่อยๆ จิตใจเราก็ไม่แคบ ก็ค่อยขยายกว้างขวางขึ้น มีความเห็นอกเห็นใจกัน ความเห็นแก่ได้..เห็นแก่ตัวก็น้อยลงไป อารมณ์หงุดหงิด รำคาญ ฟุ้งซ่านมันก็ลดน้อยลง อารมณ์อะไรเข้ามาเราก็ลดละ มีสติเพิ่มขึ้น ที่รู้จักเท่าทันอารมณ์ พิจารณาอารมณ์นั่นว่า จะนำจิตไปทางใด พาไปหาทุกข์หรือสุข
แล้วเราก็ทำสิ่งดีเป็นให้จิตเรามีบุญ กายมีบุญ นั่นมิใช่การเห็นแก่ตัว แต่เป็นการที่เรารักจิตของเราเป็น เพราเวลาเราทุกข์ ไม่มีใครเค้าทุกข์ด้วย เวลาเราเจ็บ ก็ไม่มีใครเค้าเจ็บด้วย เราก็ต้องช่วยเหลือดูแลจิตของตัวเองเป็น เรือนกายพ่อแม่นี้มีคุณ คือ เกิดมาก็เพียรทำสิ่งที่ดี สร้างบุญกุศล ให้รู้จักกรรมแล้ว อาศัยกายนี้ปฏิบัติธรรม เพื่อหนีกรรม
โฆษณา