24 ก.ย. 2022 เวลา 08:42 • กีฬา
#TSN : โอกาสสุดท้าย : การแก้ตัวก่อนอำลาวงการลูกหนังของ ‘หลุยส์ ฟาน กัล’
การแต่งตั้ง หลุยส์ ฟาน กัล กลับมาคุมทัพอัศวินสีส้มเป็นรอบที่ 3 เกิดคำถามจากนักวิจารณ์หลายคนว่า “ทำไมทีมที่มีอนาคตอย่างเนเธอร์แลนด์ ต้องกลับไปตั้งผู้จัดการทีมวัย 70 ปีอย่างฟาน กัล มาคุมทีม?”
โดยเฉพาะที่คนยังจดจำความย่ำแย่ในสมัยที่เขาคุมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด อย่างไรก็ตาม อย่าลืมว่านี่คือคนที่เข้าใจในปรัชญาของฟุตบอลสไตล์เนเธอร์แลนด์มากที่สุดคนหนึ่ง และปฎิเสธไม่ได้ว่าเขายังเป็นคนเก่งคนหนึ่งเช่นกัน
นี่คือโอกาสสุดท้ายที่ หลุยส์ ฟาน กัล จะประกาศฝีมือกับเวทีฟุตบอลระดับสูง ไปพร้อมกับทีมชาติบ้านเกิดของเขา
[ผลงานคราวก่อน]
ผลงานที่ย่ำแย่ในฟุตบอลยูโร 2020 ของทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ที่ตอนแรกมาแววดี น่าจะมีโอกาสเป็นม้ามืด แต่ความจริงกลับมืดมน เมื่อผู้จัดการทีมชุดนั้น อย่าง แฟรงค์ เดอ บัวร์ ที่ทำผิดพลาดเป็นว่าเล่น
ทั้งที่เนเธอร์แลนด์ในช่วงนั้นก็มีนักเตะที่น่าสนใจ หากมีวิธีการที่ดีก็น่าจะนำพาทีมไปได้ไกล แต่กลับตกรอบ 16 ทีมสุดท้าย ด้วยทีมที่อ่อนชั้นกว่าอย่างทีมชาติสาธารณรัฐเช็ก
ก่อนจะเป็นโอกาสอีกครั้งของชายที่ชื่อหลุยส์ ฟาน กัล ที่ประกาศรีไทร์จากงานโค้ชไปแล้ว กลับมาคุมทีมอีกครั้ง
หากจำกันได้ฟุตบอลโลก 2014 ที่เนเธอร์แลนด์มีผู้จัดการทีมเป็นหลุยส์ ฟาน กัล พวกเขาโดดเด่น และเล่นฟุตบอลได้สนุกมาก ๆ ฟุตบอลโลกเมื่อ 8 ปีก่อน เนเธอร์แลนด์คือหนึ่งในทีมที่มีสีสันสุด ๆ เล่นสนุกและดูจะมีอนาคตในการสร้างทีมต่อไปยาว ๆ
ก่อนที่ฟาน กัล จะเลือกกลับไปคุมทีมในระดับสโมสร กับแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่งก็ไม่ได้ออกมาดีอย่างที่หลายคนคาดหวังเอาไว้ การกลับมาคุมทีมชาติเนเธอร์แลนด์ของเขาในคราวนี้อาจเป็นการพิสูจน์ตัวเองครั้งสุดท้ายว่า เขานี่แหละคือของจริง
[ปรัชญาเดิม]
ถือเป็นที่รู้กันว่าปรัชญาของทีมฟุตบอลภายใต้ชายที่ชื่อหลุยส์ ฟาน กัล คือฟุตบอลที่สร้างขึ้นด้วยการเล่นแบบการครอบครองบอล ก่อนสร้างเกมขึ้นไปในพื้นที่สุดท้ายด้วยการใช้นักเตะจำนวนมาก ยึดพื้นที่สุดท้ายเพื่อให้ได้เล่นเกมบุกอย่างเต็มที่
แน่นอนนั่นเป็นวิธีการที่จะต้องใช้พละกำลัง ไม่แปลกว่าเขาจะเชื่อมั่นในดาวรุ่งอยู่เสมอ เขาพร้อมจะให้โอกาสในเด็กรุ่นใหม่ด้วยความเชื่อมั่น เหมือนกับทุก ๆ ทีมที่เขาเคยให้โอกาสดาวรุ่ง ที่เขาทำตั้งแต่สมัยประสบความสำเร็จกับอาหยักซ์ในยุค 90s
แทคติคของฟาน กัล ชัดเจนเสมอ อย่างประตูในเกมล่าสุดที่ โคดี้ กัคโป ตัวรุกจากพีเอสวี ไอนด์โฮเฟ่น ยิงใส่โปแลนด์ในเกมยูฟ่า เนชันส์ ลีก มีการจ่ายบอลติดต่อกันถึง 21 ครั้งก่อนที่จะนำไปสู่การทำประตู ซึ่งถือว่ามากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2014 ของทีมชาติเนเธอร์แลนด์ หรือก็ตั้งแต่มรดกจากยุคเดิมของฟานกัล
หรือว่าการส่งตัวผู้เล่นลงไปในสนาม ฟาน กัลเองก็รู้ว่าเขาต้องการอะไร พื้นฐานที่ดีจากนักเตะอาหยักซ์นำไปต่อยอดอะไรได้บ้าง โดยเขาก็ส่งนักเตะจากทีมนี้ไปถึง 6 คนเลยทีเดียว ในเกมล่าสุดของทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ซึ่งถือว่ามากที่สุดนับตั้งแต่ปี 1996 นู่นเลย
ทั้งที่ใช้เด็ก และนักเตะในประเทศมากขนาดนี้ แต่ผลออกมาคือพวกเขาทำผลงานได้ดีแบบต่อเนื่องจนกลายเป็นที่พูดถึงมากขึ้น
[ผลงานดีต่อเนื่อง]
ในช่วงเริ่มต้นนัดแรก ๆ ที่ หลุยส์ ฟาน กัล เริ่มคุมทีมชาติเนเธอร์แลนด์หนนี้ แม้ว่ามันจะมีผลงานที่ดีแล้วก็ตาม รวมถึงทรงบอลก็ชัดเจนกับการครองบอลเฉลี่ยใน 3 เกมแรกอยู่ที่ 70 เปอร์เซ็นต์ และยิงได้ถึง 11 ประตู แต่คนก็ยังคิดว่าจะไปได้สักกี่น้ำ สำหรับผู้จัดการทีมคนนี้ที่หลายคนติดภาพความล้มเหลวของเขากับแมนฯ ยูไนเต็ดไปแล้ว
แต่เมื่อเวลาผ่านไปจนถึงในตอนนี้ เนเธอร์แลนด์ของฟาน กัลยังคงยอดเยี่ยมด้วยปรัชญาฟุตบอลแบบเดิมไม่เคยเปลี่ยน พร้อมด้วยผลลัพท์ที่ดีจนน่าเหลือเชื่อ ในการคุมทีมตั้งแต่นัดแรกที่เสมอทีมชาตินอร์เวย์ 1-1 เป็นต้นมา เนเธอร์แลนด์ชุดนี้ชนะ 10 เสมอ 4 โดยที่ยังไม่แพ้ใคร และ ยิงได้ 40 ประตูจาก 14 เกม กล้าบอกได้เลยว่านี่คือทีมที่คุณจะมองข้ามไม่ได้เลยในฟุตบอลโลกปลายปีนี้
ด้วยผลงานที่ยอดเยี่ยมขนาดนี้ มันเลยทำให้เนเธอร์แลนด์ชุดปัจจุบันที่นำโดยหลุยส์ ฟาน กัลกลายเป็นทีมม้ามืดที่น่าสนใจมากๆสำหรับฟุตบอลโลกในคราวนี้ น่าติดตามมากๆว่าทีมของพวกเขาจะสามารถโชว์ฟอร์มได้โดดเด่นแบบที่เราได้เห็นช่วงก่อนการแข่งขันหรือไม่
#TheSportingNews #Netherland #Football #ฟุตบอล #ฟุตบอลต่างประเทศ
โฆษณา