📝• บันทึกการอ่าน
🧑🏼‍🦲• ปาฏิหาริย์แห่งการตื่นรู้อยู่เสมอ
✍🏻• ติช นัท ฮันห์ เขียน | พระประชา ปสันนธัมโม แปล
【ตามลมหายใจ : วิถีทางแห่งสติ】
⌜ท่านติช⌟
สติเป็นทั้งมรรคและผลในเวลาเดียวกัน
เมื่อเวลาเราฝึกสติเพื่อให้ได้สมาธินั้นสติก็เป็นมรรค
แต่ตัวสติเองก็เป็นหัวใจของความตื่น ความเบิกบาน
สติจึงเป็นผลด้วย
การมีสติก็คือการมีชีวิต สติช่วยให้เราปลอดจาก
ความขี้หลง ขี้ลืม และ ความคิดฟุ้งซ่านต่าง ๆ
สติช่วยให้การมีชีวิตทุกขณะจิตเป็นไปได้
สติทำให้เรามีชีวิต
เราควรรู้จักวิธีหายใจ การหายใจนั้นเป็นเครื่องมือ
ตามธรรมชาติ ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด ในการป้องกัน
ความคิดฟุ้งซ่าน
ลมหายใจเป็นสะพานเชื่อมระหว่างชีวิตและจิตสำนึก
ทำให้ร่างกายและความคิดเป็นเอกภาพกัน หากเกิด
ความคิดฟุ้งกระจายไป เราควรใช้ลมหายใจในการ
รวมจิตเข้ามาอีกครั้งหนึ่ง
หายใจเข้าลึก ๆ อย่างแผ่วเบา รู้ตัวทั่วพร้อมว่า…
เรากำลังหายใจเข้า แล้วค่อย ๆ ผ่อนลมหายใจออก
จากปอดให้หมด โดยรู้ตัวทั่วพร้อม ตลอดเวลาที่
หายใจ
มีสติหายใจเข้า เมื่อหายใจออกยาว ก็รู้ชัดว่า
เราหายใจออกยาว เมื่อหายใจเข้ายาวก็รู้ชัดว่า
เราหายใจเข้ายาว เมื่อหายใจออกสั้น ก็รู้ชัดว่า
เราหายใจออกสั้น เมื่อหายใจเข้าสั้น ก็รู้ชัดว่า
เราหายใจเข้าสั้น
เธอย่อมฝึกตนเองว่า เราเป็นผู้รู้พร้อมซึ่งกาย
(ลมหายใจ) ทั้งปวง
ที่วัดชาวพุทธ ทุกคนจะได้เรียนรู้วิธีใช้ลมหายใจ
เป็นเครื่องมือในการระงับความคิดฟุ้งซ่านที่
กระจัดกระจาย และสร้างพลังสมาธิ
พลังสมาธินั้นเป็นกำลังที่ได้มาจากการฝึกสติ
สมาธินี้เป็นตัวช่วยให้เรา “ตื่นอย่างยิ่ง” และการมี
สติก็เป็นการ “ตื่น” อย่างหนึ่งเหมือนกัน
หากเราเป็นผู้มีสติอยู่ทุกลมหายใจ เขาก็อยู่ใน
สภาวะ “ผู้ตื่น” เช่นเดียวกัน และหากเราต้องการ
ดำรงสติให้อยู่กับเราเสมอไป เราต้องเฝ้าตาม
ลมหายใจของเราอยู่เป็นนิตย์
ตอนนี้เป็นฤดูใบไม้ร่วม การร่วงของใบไม้สีทอง
ทีละใบ ทีละใบ นั้นสวยงามนัก ครูรู้สึกจิตใจมั่นคง
และแจ่มใสขึ้นมาก เมื่อได้เดินเล่นตามลมหายใจ
และดำรงสติสักสิบนาทีไปตามทางเดินใน
ป่าละเมาะ ครูรู้สึกว่าได้รวมเข้าเป็นอันหนึ่งอันเดียว
กับใบไม้แต่ละใบที่ร่วงหล่นลงมา
การเดินทางในชนบทนั้น ช่วยให้ดำรงสติได้ง่ายขึ้น
และถ้ามีเพื่อนเดินไปด้วยกัน แต่ไม่พูดจากัน ต่างคน
ต่างตามลมหายใจของตนเอง การดำรงสติก็ไม่ใช่
เรื่องยากเย็นอะไร แต่อาจจะมีปัญหานิดหน่อย
หากเพื่อนที่เดินไปกับเธอ พูดคุยซักถามเธอ
ถ้าเธอนึกในใจว่า… “ฉันอยากให้เพื่อนคนนี้
หยุดถามเสียที ฉันจะได้มีสมาธิ” นั้นแปลว่า
สติขาดช่วงไปแล้ว
แต่ถ้าเธอนึกใจในอย่างนี้แทนได้ว่า “ถ้าเขาปรารภ
จะถาม ฉันก็จะตอบ แต่ฉันก็จะดำรงสติไว้ด้วยการ
รู้ตัวทั่วพร้อมในคำถามของเขา และในคำตอบ
ของฉัน ฉันสามารถตามลมหายใจของฉันได้ด้วย”
ถ้าเธอนึกอย่างนี้ได้ละก็ เธอก็ดำรงสติอยู่ได้
ไม่ขาดช่วง แต่ยากกว่าการเดินคนเดียว
การปฏิบัติธรรมนั้นยากที่สุดก็คือที่บ้าน
รองลงมาก็คือท่ามกลางฝูงชน และง่ายที่สุดก็คือ
ที่วัด ในสถานการณ์ที่คึกคักตื่นเต้นเท่านั้น
ที่จะเป็นที่ท้าทายสติจริง ๆ
⌜อิคิ ∙ 生き⌟
เช้านี้ อิคิ ∙ 生き รู้สึกมีความขุ่นข้องหมองในใจ
การได้พิมพ์บทความของท่านอาจารย์ ติช นัท ฮันห์ บทนี้
ทำให้ใจของ อิคิ ∙ 生き ได้ค่อย ๆ คลายจาก
ความขุ่นข้องหมองใจ จึงคิดว่า หากนำบทความ
อันละเมียดละไมของท่านอาจารย์ มาแบ่งปัน
กับเพื่อน ๆ ในเช้านี้ ก็อาจจะทำให้เช้านี้ของใครหลายคน เป็นเช้าที่ละเอียดละไมได้เช่นกัน
สวัสดีเช้าวันอาทิตย์ที่ละเมียดละไมนะคะ 🙏🏻😊
🀰🀰🀰🀰🀰🀰🀰🀰🀰🀰🀰🀰🀰🀰🀰🀰🀰🀰🀰🀰🀰🀰🀰
บันทึกโดย : ชีวิต ∙ อิคิ ∙ 生き : ใช้ชีวิตแบบที่อยากมีชีวิต
🀰🀰🀰🀰🀰🀰🀰🀰🀰🀰🀰🀰🀰🀰🀰🀰🀰🀰🀰🀰🀰🀰🀰

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา