26 ก.ย. 2022 เวลา 11:09 • ข่าวรอบโลก
การปล่อยตัวเชลยสงครามยูเครนคือชัยชนะของ MBS
ภาพการเป็นคนกลางในการช่วยปลดปล่อยเชลยชาวตะวันตกในสงครามยูเครนจากรัสเซีย ถือว่าเป็นชัยชนะทางการทูตของมกุฎราชกุมารแห่งซาอุดิอาระเบีย เจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน (MBS)
1
หลังจากเกิดเหตุการณ์การเสียชีวิตของนายจามาล คาช็อคกีในสถานทูตซาอุดิอาระเบียในตุรกีเมื่อปี 2018 โดยผู้ที่ถูกระบุว่าเป็นกลุ่มผู้ต้องสงสัยคือเจ้าหน้าที่ผู้ใกล้ชิดกับเจ้าชายบิน ซัลมาน
ภาพลักษณ์การยอมรับจากประเทศตะวันตกของพระองค์ก็ดูตกต่ำลงไป
แน่นอนว่าไมตรีที่มีระหว่างเจ้าชายบิน ซัลมานกับวลาดิมีร์ ปูติน ในฐานะพันธมิตรด้านพลังงานในกลุ่ม OPEC+ ก็เหมือนเป็นเครดิตในด้านลบเสียมากกว่า
1
ยิ่งหลังความล้มเหลวของการเดินทางเยือนซาอุดิอาระเบียของประธานาธิบดีโจ ไบเดนของสหรัฐฯ เพื่อโน้มน้าวให้ซาอุดิอาระเบียเพิ่มกำลังการผลิตน้ำมัน เพื่อสร้างแรงกดดันให้ราคาน้ำมันลดลงบ้าง ดูจะไม่เป็นผล
1
ช่องทางที่จะกลับมาไยดีกันในเวทีโลกระหว่างซาอุดิอาระเบียกับประเทศโลกตะวันตก เลยดูเหมือนจะมืดมนพอสมควร
1
แต่แล้วพลันที่เกิดกรณีการปล่อยตัวเชลยสงครามยูเครนโดยส่วนหนึ่งเป็นชาวอังกฤษ 5 คนและชาวอเมริกัน 2 คน โดยที่มีซาอุดิอาระเบียเป็นคนกลาง
1
ฟ้าที่ดูมืดก็พลันเหมือนมีแสงลอดส่องลงมาอีกครั้ง
บวกกับช่วงเดียวกันก็มีการแลกตัวเชลยชุดใหญ่จำนวนเกือบ 300 คน ระหว่างยูเครนกับรัสเซียผ่านตุรกีที่เป็นคนกลางอีกทาง
ยิ่งทำให้ข่าวการเป็นผู้ไกล่เกลี่ยที่ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ในตอนแรกของซาอุดิอาระเบีย มีความเด่นชัดในเวทีโลกมากยิ่งขึ้น
ทางด้านเจ้าชายไฟซาล บิน ซาราน รัฐมนตรีต่างประเทศซาอุดิอาระเบียกล่าวถึงเรื่องนี้ว่า
การเจรจาเพื่อให้รัสเซียปล่อยตัวเชลยชาวตะวันตก มีแรงจูงใจเดียวคือหลักมนุษยธรรมที่เรามีร่วมกัน
เรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการฟื้นฟูภาพลักษณ์ของ MBS แต่อย่างใด
การพูดว่า MBS ทำสิ่งนี้เพื่อภาพลักษณ์ของตนเอง ถือเป็นการดูหมิ่นเป็นอย่างมาก
เรามองว่าการเจรจาคือหนทางยุติความขัดแย้งที่เกิดขึ้นได้ดีที่สุดเท่านั้น
เจ้าชายไฟซาลยังเสริมอีกว่า การเจรจาปล่อยตัวเชลย ไม่ได้เป็นเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น เรามีการเจรจามาตั้งแต่เดือนเมษายนหลังการเดินทางเยือนซาอุดิอาระเบียของบอริส จอห์นสัน อดีตนายกรัฐมนตรีอังกฤษ
โดย MBS ได้ช่วยพูดกับวลาดิมีร์ ปูตินว่า นี่เป็นเรื่องของท่าทีในการแสดงออกถึงความมีมนุษยธรรมที่คุ้มค่า..
ปัจจุบันซาอุดิอาระเบียล้วนมีความสำคัญทั้งกับมอสโคว ในแง่ของพันธมิตร OPEC+ ที่มีส่วนร่วมสำคัญในการกำหนดทิศทางราคาน้ำมันของกลุ่ม
และมีความสำคัญต่อวอชิงตันในแง่ของอุปทานน้ำมันรายใหญ่ของโลก ที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจทั้งดีและไม่ดีต่อทุกประเทศทั่วโลก ไม่เว้นแม้แต่สหรัฐฯ
1
ติดตามอ่านบทความได้ที่
โฆษณา