28 ก.ย. 2022 เวลา 04:03 • ข่าวรอบโลก
อิตาลี ทำยุโรปเสียวหลังวาบ! ผู้นำหญิงคนใหม่ชาติต้องมาก่อน EU และชื่นชอบปูติน
10
ปี 1919 เบนิโต มุสโสลินี ชาวอิตาลีชาตินิยม ได้จัดตั้งกองกำลังติดอาวุธของเหล่าทหารผ่านศึกที่เรียกกันว่า เชิ้ตดำ (squadristi) ฟื้นฟูระเบียบสังคมด้วยความแข็งกร้าว ปะทะกับกลุ่มการเมืองแนวเสรี และกลุ่มต่างๆ ภายใน 2 ปี กลุ่มเขาเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วจนตั้ง"พรรคชาตินิยมฟาสซิสต์"
5
ปี 1921 มุสโสลินี ชนะการเลือกตั้ง ส.ส.เป็นครั้งแรก ถัดจากนั้นอีกปีเดียว กลุ่มเชิ้ตดำฟาสซิสต์ประมาณ 30,000 คน ได้รวมตัวก่อม็อบในกรุงโรมเพื่อเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีฝ่ายเสรีนิยมลาออก และแต่งตั้งรัฐบาลฟาสซิสต์ขึ้นมาใหม่ , ต.ค.1922 พระเจ้าวิตโตรีโอ เอมานูเอเลที่ 3 แห่งอิตาลี ทรงปฏิบัติตามธรรมนูญถือครองอำนาจทางทหารสูงสุด ยับยั้งการประกาศกฏอัยการศึก จนนำไปสู่การลาออกของผู้นำอิตาลียุคนั้น
1
จากนั้นกษัตริย์ได้ทรงมอบหมายมุสโสลินี จัดตั้งรัฐบาลขึ้นมาใหม่ เพราะเขาเป็นที่นิยมอย่างกว้างขวางในกองทัพ ชนชั้นนำของอุตสาหกรรม และเกษตรกรรม ยับยั้งการเกิดสงครามกลางเมือง ฟื้นฟูกฎหมายและความสงบเรียบร้อยในประเทศ , ปีนั้นมุสโสลินี จัดตั้งรัฐบาลผสมขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีอิตาลีครั้งแรก , ปี 1923 มุสโสลินี ฉายแววอำนาจนิยมเขาส่งกองทัพอิตาลีเข้าบุกเกาะคอร์ฟู และกรีซจำนนต่ออิตาลี
1
หลังครองอำนาจ 5 ปี มุสโสลินี เปลี่ยนประเทศให้เป็นระบอบพรรคการเมืองเดียว รวบอำนาจเบ็ดเสร็จ , ปี 1935 มุสโสลินี ได้ส่งกองทัพเข้าบุกเอธิโอเปีย ทำให้มหาอำนาจตะวันตกประกาศคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่ออิตาลี แต่นายกรัฐมนตรีฮิตเลอร์ แห่งเยอรมนี ต่อต้านอังกฤษ สหรัฐ จึงประกาศสนับสนุนมุสโสลินี อิตาลีจึงกำนัลโดยให้ออสเตรียอยู่ภายใต้เขตอิทธิพลของเยอรมนี และลงนามสนธิสัญญาความร่วมมือประกาศก่อตั้ง "ฝ่ายอักษะ โรม-เบอร์ลิน"
ปี 1936 มุสโสลินี ได้ส่งทหารจำนวนมากไปให้การสนับสนุนแทรกแซงแก่กองกำลังปฏิวัติในสงครามกลางเมืองเสปน จึงขัดแย้งชิงอำนาจกับฝรั่งเศสและอังกฤษ , ปี 1939 นายกรัฐมนตรีฮิตเลอร์ แห่งเยอรมนี บุกโปแลนด์ , ต่อมาปี 1940 ฝรั่งเศสและสหราชอาณาจักร ประกาศสงครามกับเยอรมนี เป็นจุดเริ่มสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่กองทัพฝรั่งเศสพ่ายแพ้ ทำให้มุสโสลินี นำอิตาลีเข้าร่วมสงครามอยู่ฝ่ายเยอรมนี ขณะนั้นกองทัพเครือจักรภพอังกฤษ มีแสนยานุภาพและจำนวนมากกว่ากองทัพอิตาลี
3
มุสโสลินี ส่งกองทัพอิตาลี บุกกรีซ แต่ล้มเหลวอิตาลีถอยทัพกลับไปยังแอลเบเนียแอฟริกาเหนือ , ปี 1941 มุสโสลินี ตัดสินใหผิดพลาดครั้งใหญ่ ส่งกองทัพอิตาลี ร่วมทัพเยอรมนีในการรุกรานสหภาพโซเวียต , ปี 1943 อิตาลี ประกาศสงครามกับสหรัฐ และปีนั้นกองทัพเยอรมนีพ่ายแพ้ศึกในเมืองสตาลินกราด เลนินกราด เคียฟ ต่อกองทัพสหภาพโซเวียติ ทำให้อิตาลีพลอยประสบหายนะตามไปด้วย กองทัพโซเวียติโหดมากได้ทำลายกองทัพอิตาลีในรัสเซียอย่างราบคาบ แทบไม่เหลือรอด
3
อิตาลี พ่ายแพ้ยับเยินถูกขับไล่ออกจากแอฟริกาเหนือ สภาใหญ่แห่งฟาสซิสต์อิตาลีได้ลงมติไม่ไว้วางใจต่อมุสโสลินี และกษัตริย์ ทำตามคำแนะนำของสภาลงนามให้มุสโสลินี พ้นออกจากตำแหน่งผู้นำคณะรัฐบาลและควบคุมตัวเขาคุมขัง แล้วแต่งตั้งนายกรัฐมนตรีคนใหม่แทนต่อจากเขา ต่อมาพลร่มหน่วยคอมมานโดเยอรมนี บุกที่คุมขังช่วยเหลือเขาออกมา เยอรมนีแต่งตั้งมุสโสลินีเข้าไปปกครองสาธารณรัฐซาโล ในรัฐภาคเหนือของอิตาลี
1
ปี 1945 เยอรมนี ลงนามยอมพ่ายแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 โดยนายกรัฐมนตรีฮิตเลอร์ฆ่าตัวตาย มุสโสลินี ได้พยายามหลบหนีไปยังสวิตเซอร์แลนด์ แต่ถูกจับกุมโดยพรรคคอมมิวนิสต์อิตาลี ที่เป็นฝ่ายสหภาพโซเวียติ และลงโทษประหารชีวิตเขา ร่างของเขาถูกนำไปแขวนประจานไว้ที่หน้าสถานที่ราชการที่เมืองมิลาน เพื่อเป็นการยืนยันการตายของเขาแก่สาธารณชนเป็นเยี่ยงอย่างคนอิตาลีรุ่นหลังว่าอย่าคิดเป็นปฏิปักษ์ต่อสหภาพโซเวียติ
3
ปี 2022 เวลาผ่านไป 77 ปี นายกรัฐมนตรีมาริโอ ดรากี แห่งอิตาลี ประกาศนำชาติเป็นปฏิปักษ์คว่ำบาตรรัสเซีย สนับสนุนอาวุธ และร่วมกับผู้นำเยอรมนี ฝรั่งเศสเดินทางไปพบประธานาธิบดีเซเลนสกี้ แห่งยูเครน ทำให้รัสเซีย ตัดพลังงานก๊าซ และน้ำมันที่จ่ายไปอิตาลีในทันที ต้องหันไปซื้อพลังงานราคาแพงขึ้นกว่า 15 เท่า และถ่านหินสุดแพงปานทองคำขนมาจากสหรัฐ เพื่อนำมาผลิตไฟฟ้า
2
ธุรกิจ อุตสาหกรรม เกษตร ในอิตาลี ล้มละลายและปิดกิจการกว่า 60% หรือกว่า 100,000 แห่ง ชาวอิตาลีตกงานแล้วกว่า 300,000 คน เกิดวิฤติสารพัดม็อบยึดชัทดาวน์เมืองหลวง และเมืองต่างๆ บังคับให้นายกรัฐมนตรีดรากี ต้องลาออกไป เกิดการปะทะระหว่างตำรวจปราบจราจล และม็อบอย่างรุนแรงเกิดจราจลขึ้นในหลายเมือง
ชาวอิตาลีจุดไฟเผาบิลค่าไฟที่แพงมหาโหดจนจ่ายไม่ไหว ความยากจนกดดันสังคม ผู้คนบางส่วนคุ้ยเขี่ยถังขยะหาอาหารประทังชีวิต ผ่านไปเกือบ 5 เดือน นายกรัฐมนตรีดรากีถูก "ประหารชีวิตทางการเมือง" พรรคร่วมรัฐบาลไฟว์สตาร์โหวตไม่ไว้วางใจเขาในสภาระงับกฎหมายกู้เงินแก้ปัญหาราคาพลังงาน เขากระเด็นตกจากตำแหน่งผู้นำ ต่อมาหลังถอดหัวโขนเขาร่วมอภิปรายในเวทีสาธารณะว่า "เป็นการตัดสินใจผิดพลาดครั้งใหญ่ในชีวิตของเขาที่เป็นปฏิปักษ์ต่อรัสเซีย"
6
ปลาย ก.ย.2022 อิตาลีจัดการเลือกตั้งใหญ่ โดยนางอัวร์ซูลา ฟ็อน แดร์ ไลเอิน ชาวเยอรมัน ประธานคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรป (EU) ประกาศขู่ห้ามชาวอิตาลีเลือกพรรค Brothers of Italy ที่มีแนวคิดชาตินิยมแบบอดีตนายกรัฐมนตรีเบนิโต มุสโสลินี ถ้าไม่ฟังคำสั่งนักการเมือง EU จะลงโทษชาวอิตาลีอย่างสาสม ด้วยการคว่ำบาตรระงับเงินกู้ก้อนใหญ่พยุงเศรษฐกิจอิตาลีที่หนี้สินมากล้นพ้นตัวจนต้องผิดนัดขอขยายเวลาชำระหนี้นอกประเทศ
5
ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ ชาวอิตาลีไปเลือกตั้งนาง Giorgia Meloni แห่งพรรค Brothers of Italy และพันธมิตรฝ่ายชาตินิยมของเธอได้รับชัยชนะสามารถรวมเสียงข้างมากในสภาได้เกินกึ่งหนึ่ง ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนคณะกรรมการเลือกตั้งอิตาลีรับรองผลอย่างเป็นทางการ , พรรค Brothers of Italy ของนางเมโลนี กำเนิดขึ้นมาภายใต้ความเชื่อในแนวทางฟาสซิสต์ ส่วนนาง Giorgia Meloni เคยพูดมาตลอดว่า"ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูตินคือหนึ่งในคนที่เธอชื่นชอบเป็นไอดอลมาก"
7
แม้เมลานีจะเคยออกมากล่าวสนับสนุนยูเครนในช่วงแรกสงคราม แต่ก็ไม่ได้สุดโต่งไปในแนวเป็นปฏิปักษ์ต่อรัสเซียเหมือนบรรดาผู้นำชาติตะวันตกคนอื่นๆ แต่เมื่อม็อบชาวอิตาลีโผล่พรึบทุกมุมเมืองทำให้สถานการณ์การเมืองเปลี่ยนไป ว่าที่ผู้นำอิตาลีคนใหม่ประกาศนโยบายชาตินิยมอย่างชัดเจนคือ "ชาวอิตาลีต้องมาก่อนสหภาพยุโรป" โดยจะปกป้องเศรษฐกิจอิตาลีเบอร์ 3 ยุโรปก่อนเป็นอันดับแรกไม่สน EU ซึ่งนโยบายจะคล้ายนายกรัฐมนตรีฮังการี , ผู้นำเซอร์เบีย และรัฐบาลผสมชุดใหม่ชาตินิยมสวีเดน
10
ในความจริงแล้วรัสเซีย ไม่เคยเห็นอิตาลีเป็นปฏิปักษ์ แต่เพราะรัฐบาลอิตาลีชุดที่ผ่านมายอมฟังคำสั่งสหรัฐ จนนำพาชาติหายนะ เป้าที่รัสเซีย ต้องการสวนกลับก่อนคือ เยอรมนี เบอร์ 1 ยุโรปโทษฐาน "ทรยศ" ละเมิดต่อสนธิสัญญาโมโลตอฟ–ริบเบินทร็อพ ฉบับที่ 2 ที่เคยลงนามร่วมกันว่าจะไม่เป็นปฏิปักษ์ต่อกัน แต่นายกรัฐมนตรีโอลาฟ โชลซ์ แห่งเยอรมนี ละเมิดสัญญาก่อน หันไปยอมทำตามสหรัฐ ส่งอาวุธให้ยูเครน และคว่ำบาตรรัสเซีย
9
สรุป..รัฐบาลชาติที่ถูกรัสเซียหมายหัว คือ อังกฤษ บริวารตัวกลั่นสหรัฐ และเยอรมนี ผู้หักหลังมิตรภาพยาวนาน ส่วนอิตาลี จึงไม่ใช่เป้าหมายหลักของรัสเซีย ถ้าว่าที่ผู้นำหญิงคนใหม่อิตาลี ศึกษาประวัตินายกฯ ฮิตเลอร์ เยอรมนี และนายกฯ เบนิโต มุสโสลินี อิตาลี ผู้เป็นไอดอลของเธอ ก็จะรู้ว่าผลลัพท์จุดจบสุดท้ายการเป็นปฏิปักษ์ต่อโซเวียติ - รัสเซียจะลงเอยต่อรัฐบาลของเธอ และชาวอิตาลีอย่างไร
4
นาทีนี้การพลิกปลีกตัวจาก EU หันไปเป็นพันธมิตรด้านพลังงาน และเจรจาประนีประนอมกับรัสเซีย จะช่วยให้อิตาลีรอดหายนะครั้งใหญ่ของชาติตนที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วเมื่อ 77 ปีก่อน เวลา 7 เดือนที่ผ่านมาสหรัฐ มีแต่กระทืบซ้ำเติมให้อิตาลีจมลง จึงมีเพียงรัสเซียเท่านั้น ที่มีศักยภาพจะดันอิตาลีขึ้นแซงฝรั่งเศส เยอรมนี ขึ้นเป็นเบอร์ 1 ในยุโรปได้
5
ผู้นำชาตินิยม คุยกับผู้นำชาตินิยม ด้วยกันแค่มองตาก็รู้ใจ ลุยหักกับยุโรป และ G7 ให้แตกแล้วอิตาลีจะพ้นภัยจากอาวุธร้ายแรงและนิวเคลียร์ทางเศรษฐกิจคราวนี้..คว่ำบาตรรัสเซีย สู้เพื่อสหรัฐต่อไป ยุโรปแตกร้าวแน่นอน 🤭😂
12
ที่มา : newsweek , cgtn , texttospeech , reuters
#WorldUpdate
2
ช่องทางติดตามบทวิเคราะห์ข่าวเชื่อมโยงกัน
โฆษณา