28 ก.ย. 2022 เวลา 08:21 • ยานยนต์
‘แผนสิ่งแวดล้อมของผู้ผลิตยานยนต์’ พายุลูกใหญ่ที่โหมกระหน่ำซัพพลายเชน
‘แผนสิ่งแวดล้อมของผู้ผลิตยานยนต์’ พายุลูกใหญ่ที่โหมกระหน่ำซัพพลายเชน
การขับเคลื่อนของอุตสาหกรรมยานยนต์ไปสู่อนาคตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและสะอาดยิ่งขึ้นกำลังเป็นความท้าทายใหญ่สำหรับบริษัทต่าง ๆ ในห่วงโซ่อุปทาน และจะเหลือเพียงไม่กี่รายที่สามารถอยู่รอดได้
จากภาวะเงินเฟ้อและราคาพลังงานที่พุ่งทะยานอยู่ในขณะนี้ ทำให้ซัพพลายเออร์ยานยนต์หลายรายมีทางเลือกไม่มากนักต้องจำใจแบกรับต้นทุนเพิ่มขึ้นในการทำให้ชิ้นส่วนมีความยั่งยืนเพื่อตอบสนองเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมของผู้ผลิตรถยนต์
ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ต่างมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อตอบรับกับนโยบายและข้อกำหนดต่าง ๆ ที่กำลังเปลี่ยนไปใช้รถยนต์ไฟฟ้า
ยกตัวอย่างเช่น BMW ซึ่งคาดหวังว่าซัพพลายเออร์เหล็กกล้าและโลหะจะเปลี่ยนมาใช้พลังงานหมุนเวียน ในขณะที่ Volvo ตั้งเป้าใช้พลาสติกรีไซเคิลมากถึง 25% ของพลาสติกที่ใช้ในการผลิตยานยนต์หนึ่งคันภายในปี 2025
ด้าน Mercedes-Benz มีเป้าหมายใช้วัสดุรีไซเคิลและเหล็กที่ผลิตด้วยกระบวนการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้มากเท่าที่จะเป็นไปได้ และสร้างพลังงานหมุนเวียนไว้ใช้ในรถยนต์
Volkswagen ตั้งเป้าลดการปล่อย CO2 สำหรับรถยนต์ลง 30% รวมถึงซัพพลายเชนด้วย
ด้วยการเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ ทำให้ซัพพลายเออร์หลายรายจำเป็นต้องหั่นกำไรเพื่อปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีให้รองรับรถยนต์ไฟฟ้าและซัพพลายเชนที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ในขณะที่การขอขึ้นราคาชิ้นส่วนกลับเป็นเรื่องยาก เนื่องจากผู้ผลิตยานยนต์ยังคงมุ่งเป้าไปที่การลดต้นทุนเพื่อชดเชยกับการลงทุนเพื่อปรับตัวให้เข้ากับยุคที่ต้องปล่อยก๊าซคาร์บอนลดลงเช่นเดียวกัน
การปรับเปลี่ยนธุรกิจให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมนั้นเป็นเรื่องยากแม้แต่กับซัพพลายเออร์รายใหญ่ ยกตัวอย่างเช่น TE Connectivity ซัพพลายผลิตภัณฑ์ที่รีไซเคิลได้ให้กับ Volkswagen, Volvo, และ BMW โดยนาย Ralf Klaedtke หัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยี แสดงความเห็นว่า ซัพพลายเออร์ที่ไม่ผ่านเกณฑ์ด้านความยั่งยืนจะถูกตัดออกจากกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง
อ่านข่าวและบทความอื่น ๆ ได้ที่ https://www.mreport.co.th/?utm_source=bd
ติดตาม M Report ได้ที่
LINE Official : https://bit.ly/357ySYm
โฆษณา