แบงก์ชาติอังกฤษ แทรกแซงระบบการเงิน เพื่อรักษาเสถียรภาพ
ล่าสุด ธนาคารกลางอังกฤษ หรือ BOE ได้เริ่มเข้าแทรกแซงตลาดพันธบัตรรัฐบาล
เพื่อรักษาเสถียรภาพระบบการเงินของประเทศ
หลังจาก Yield หรือผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลระยะยาว ดีดตัวขึ้นสู่จุดสูงสุด ในรอบ 20 ปี
โดยการแทรกแซงดังกล่าวคือการที่ BOE จะรับซื้อพันธบัตรรัฐบาลรุ่นระยะยาวเป็นจำนวนมาก
เพื่อกดให้ Yield ของพันธบัตรต่ำลง
ซึ่งจะทำให้ ราคาของพันธบัตร ปรับตัวสูงขึ้น
นอกจากนี้เอง ทาง BOE จะเลื่อนเวลาการขายพันธบัตรรัฐบาลในมือ
ที่ปัจจุบันมีมูลค่าอยู่ประมาณ 34 ล้านล้านบาท ออกไปก่อน
จนกว่า ตลาดการเงินจะกลับเข้าสู่เสถียรภาพ
จากที่ตอนแรกตั้งใจจะเริ่มการขาย ตั้งแต่สัปดาห์หน้า
สำหรับมาตรการดังกล่าว ทาง BOE จะดำเนินการไปจนถึงวันที่ 14 ตุลาคม
ภายหลังจากการแทรกแซงนี้
ผลตอบแทนของพันธบัตรรัฐบาลก็ร่วงลงทันที
โดยผลตอบแทนพันธบัตรรุ่นอายุ 30 ปี ร่วงลง 0.75%
ส่วนผลตอบแทนพันธบัตรรุ่นอายุ 10 ปี ร่วงลง 0.49%
สำหรับสาเหตุสำคัญที่ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหราชอาณาจักรพุ่งสูงขึ้นขนาดนี้
ก็เพราะว่าเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัฐบาลได้เปิดเผยมาตรการปรับลดภาษีครั้งใหญ่
รวมถึงมาตรการช่วยเหลือทั้งภาคครัวเรือนและธุรกิจ เพื่อลดผลกระทบจากราคาพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้น
จนทำให้นักลงทุนกังวลต่อสถานะทางการคลังของอังกฤษจากการก่อหนี้เพิ่มขึ้นของรัฐบาล
บวกกับการที่ธนาคารกลางสหรัฐเร่งขึ้นดอกเบี้ยสูงกว่าหลายประเทศเพื่อกำราบเงินเฟ้อ
จนนักลงทุนทั่วโลก ต่างหันมาถือครองเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐมากขึ้น
จึงส่งผลให้นักลงทุน เทขายพันธบัตรรัฐบาลอังกฤษ ในปริมาณที่มาก
จนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล อายุ 30 ปี พุ่งขึ้นสูงไปที่ระดับมากกว่า 5% ครั้งแรกในรอบ 20 ปี
ส่วนเงินปอนด์ก็อ่อนค่าลงไปอยู่ระดับที่ต่ำที่สุดในประวัติศาสตร์ ที่ 1.04 ดอลลาร์สหรัฐต่อปอนด์
ทั้งนี้ ถ้าทาง BOE ไม่เข้ามาช่วงพยุงราคาพันธบัตรไว้
ก็มีโอกาสสูงมาก ที่เงินทุนจะไหลออกจากประเทศอังกฤษต่อไป มากยิ่งขึ้น
ซึ่งถ้าไม่ทำอะไรเลย เราอาจมีโอกาสได้เห็น 1 ดอลลาร์สหรัฐ มีค่าเท่ากับ 1 ปอนด์ ก็เป็นได้
ดังนั้นก็ต้องติดตามกันต่อไป ว่าการเดิมพันของสหราชอาณาจักรครั้งนี้ จะช่วยประเทศได้แค่ไหน…
- 21
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
