29 ก.ย. 2022 เวลา 05:30 • หุ้น & เศรษฐกิจ
ถามตัวเองแบบนี้ ก่อนทำประกัน..
1. เป้าหมายทางการเงินเราคืออะไร เราต้องการอะไรจากการลงทุน?
อาจจะฟังดูไม่เกี่ยว แต่เวลาคนเราวางแผนการเงิน เพราะเราต้องการให้เงินนำไปใช้เพื่อบางสิ่งบางอย่าง เช่น การวางแผนเกษียณ การนำเงินไปส่งต่อเป็นมรดกให้ลูกหลาน การที่จะมีชีวิตสบาย การลงทุนเพื่อให้คนรอบตัวเราสบาย ไม่เดือดร้อน แน่นอนว่าเป้าหมายแต่ละคนไม่เหมือนกัน เป้าหมายทางการเงินแต่ละอย่างก็จะมีสินค้าทางการเงินที่เหมาะสมต่างกันไป
ใครชอบการลงทุนก็ต้องไปซื้อกองทุน ซื้อหุ้น ซื้อหุ้นกู้ ตามความเสี่ยงที่เรารับได้ เวลาเราจะลงทุน เราคิดถึงแต่เรื่องลงทุนไม่ได้หรอก เพราะชีวิตของคนเรา สิ่งสำคัญคือ Health เหมือนคำพูดที่ว่า Health is wealth
2. เรามีความรักไหม รักตัวเอง รักครอบครัว?
ประกันเหมาะกับคนมีความรัก รักตัวเองก็ซื้อประกันตัวเอง ซื้อประกันให้ครอบครัว ซื้อประกันชีวิต เพื่อเวลาที่เกิดอะไรขึ้นกับเรา เงินนี้สามารถไปให้พ่อแม่เราได้ ถือเป็นการที่ได้เลี้ยงดูพ่อแม่ต่อ ในขณะที่เราไม่อยู่แล้ว หรือการส่งต่อมรดกให้ลูกหลานได้
หรือถ้ารักตัวเอง ก็มีประกันพวกสะสมทรัพย์ ประกันที่จะช่วยในการเก็บเงินของเรา หรือป้องกันความเสี่ยงจากการเสียเงินตอนเข้ารพ. วันนี้ไม่ต้องรักใครก็ได้ แค่รักตัวเอง เราก็ควรมีประกันไว้บ้าง
ถ้าเราอยากเกษียณอย่างมั่นใจก็อาจจะมองดูพวกประกันออมทรัพย์ หรือประกันสุขภาพ เพื่อตอนเราเจ็บป่วย เราได้รับการรักษาที่ดี ในรพ. ที่ดี
3. วันนี้เรามีหนี้ ถ้าเราเกิดเป็นอะไร จ่ายไม่ได้ ใครจะรับผิดชอบ?
หลายคนไปกู้ธนาคาร ธนาคารอาจจะขายประกันชีวิตให้เรา เพื่อที่ธนาคารจะได้ยอดประกัน ขณะที่ให้ดอกเบี้ยเราต่ำกว่าเดิม เพื่อเป็นแรงจูงใจ ซึ่งจริงๆ ประกันชีวิตมีข้อดีที่ว่า เมื่อเรายังมีหนี้อยู่แล้วสินทรัพย์ที่เราไปซื้อก็ยังไม่เป็นของเรา แต่เป็นของธนาคาร เพราะงั้นถ้าเราเกิดเป็นอะไรไป คนที่อยู่กับเรา หรือคนที่มีสิทธิได้ในสินทรัพย์ที่เรามีอยู่ ก็จะไม่ได้มันไป เพราะหนี้ยังไม่หมด ประกันชีวิตสามารถมาช่วยตรงนี้ได้
เช่น มีหนี้บ้าน 5,000,000 หรือหนี้อื่นๆ 3,000,000 บาท เราอาจจะทำประกันชีวิต 8,000,000 บาทก็ได้ เพื่อที่ว่าต่อให้เราเป็นอะไรไป บ้านจะยังอยู่ และภาระหนี้ต่างๆ ไม่ได้ส่งต่อให้คนรอบข้าง
4. ถ้าวันหนึ่งเรามีครอบครัว มีภรรยา มีลูก แล้วเราเป็นอะไร คนรอบข้างจะอยู่ยังไง?
วันหนึ่งมีครอบครับ มีภรรยา มีลูก ความเป็นห่วงก็จะมีมากขึ้น ยิ่งถ้าเราเป็นหนึ่งในเสาหลักที่หารายได้ ถ้าสมมติไม่มีเราขึ้นมา รายได้ลด ความเป็นอยู่จะลดลงไหม ลูกจะเรียนจบไหม เพราะฉะนั้นประกันชีวิตสามารถนำมาช่วยป้องกันความเสี่ยงตรงนี้ได้ และช่วยให้มั่นใจว่าเราจะมีเงินพอให้ลูกเรียนจบ ให้ลูกมีเงินก้อน หรือภรรยาก็ได้เงินก้อน
5. วันนี้เราดูแลพ่อแม่ หรือคนที่เลี้ยงดูเรา ดีหรือยังไง? เราจะทำยังไงให้ดีขึ้น?
วันนี้เราอาจจะดูแลพ่อแม่ดีแล้ว แล้วถ้าไม่มีเราพ่อแม่จะอยู่ยังไง จะดีไหมถ้าเราไม่อยู่แล้ว แต่ยังทำหน้าที่ลูกในการดูแลพ่อแม่ต่อได้ ประกันชีวิตก็จะช่วยในส่วนนี้ คือพ่อแม่ก็จะได้เงินก้อน ในกรณีที่เราเสียชีวิต
6. ถ้าเราป่วย เข้าโรงพยาบาลหนัก เรามีเงินพอไหมตอนนี้? ถ้าต้องใช้เงินหลายแสนในการรักษา มีเงินหรือยัง?
1
ถ้าวันนี้คำตอบคือยัง...ไม่มีเงินหรอกเป็นล้านกับค่ารักษา ไม่ต้องพูดถึงล้าน แค่ไม่กี่แสนก็ไม่มีแล้ว.....เพราะงั้นจะดีกว่าไหมถ้าจ่ายเบี้ยประกันสุขภาพปีละ 20,000 แต่สามารถคุ้มครองได้ 5,000,000 บาท? ไม่มีใครอยากเข้าโรงพยาบาล แต่บางทีมันเป็นเรื่องที่เขาควบคุมไม่ได้ จะดีกว่าไหมถ้าเราต้องเข้าโรงพยาบาลจริงๆ แต่ไม่ได้เดือดร้อนการเงิน?
7. มีเงินน้อย เอาไปลงทุนดีกว่า เงินไม่พอทำประกันแล้ว?
เงินจะน้อยจะมาก เราต้องอย่าลืมรากฐานของสามเหลี่ยมทางการเงิน ก็คือ เงินเก็บฉุกเฉินมีหรือยัง เงินเตรียมไว้สำหรับด้านสุขภาพ หากเราไม่มีสิ่งเหล่านี้ ฐานการเงินของเราก็อาจจะไม่มั่นคงได้ แต่แน่นอนว่าบางทีของเหล่านี้ก็สามารถทำไปพร้อมกันได้ แต่ก็ตามฐานะและความสามารถ ณ ขณะนั้น
เช่น เราสามารถเก็บเงินได้ 10,000 บาท ต่อเดือน เราคิดแล้วเราอาจจะจ่ายประกัน x บาท และเก็บเงิน x บาท ก็ต้องบริหารจัดการให้ดี ถ้าให้ดีสำหรับลงทุนควรจะอยู่ระดับ 10% - 40% หรือมากกว่านั้น หากภาระน้อย ขณะที่เบี้ยประกันไม่ควรเกิน 10% ของรายได้ทั้งปี
8. ลงทุนอย่างอื่นดีกว่า ผลตอบแทนดีกว่าประกัน ทำไมต้องทำประกัน?
ประกันมีหลายแบบ ซึ่งมีเป้าหมายที่แตกต่างกันออกไป ประกันชีวิตใช้เป็นการส่งต่อมรดกได้ การทำเพื่อให้มั่นใจว่าลูกได้มีเงินใช้จนเรียนจบ พ่อแม่สามารถสบายต่อให้เราไม่อยู่แล้ว เพื่อให้พอจำนวนหนี้ หนี้จะได้ไม่เป็นภาระคนอื่นต่อ เพื่อให้สินทรัพย์ยังเป็นของเรา ประกันสุขภาพใช้เพื่อให้เราได้รับการดูแลรักษา ไม่ต้องเสียเงินก้อนกับการรักษาที่สูง
ลองคิดอีกแบบ วันนี้เราเก็บเงินลงทุนเพื่อเกษียณอย่างเดียว แล้วสุดท้ายแล้ว ต้องมาเสียเงินให้กับสุขภาพ เราจะเอาเงินจากไหนจ่าย? เราจะใช้วิธีถอนจากพอร์ตการลงทุนของเราเรา แล้วถ้าตอนนั้นติดลบ เท่ากับว่าเราถูกบังคับให้ Cut Loss เพื่อนำเงินมาจ่ายค่ารักษา เราเสียเงินขึ้นมากกว่าเดิม เรารับได้ไหม?
แล้วถ้าเราต้องเสียเงินกับสุขภาพจำนวนมากๆ เงินที่เราเก็บจากการลงทุนเพื่อเกษียณ มันส่งผลให้เราเกษียณได้ด้วยจำนวนเงินเท่าเดิมไหม เช่น เราตั้งใจเก็บ 10 ล้านบาท แต่เป็นโรคก่อน เสียไป 2,000,000 บาท แล้วต้องรักษาต่อเนื่องอีก เราจะทำยังไง?
9. เก็บเงินเกษียณก็หมดเงินแล้ว ไม่มีเงินจ่ายเบี้ยหรอก
เก็บเงินเพื่อเกษียณได้ แล้วทำไมเราจะเก็บเงินเพื่อสุขภาพเราไม่ได้ หรือเก็บเงินเพื่อให้มั่นใจว่าตอนเกษียณเรามีเงิน
ประกันบำนาญก็เป็นอีกทางเลือกที่หลายคนเลือกลงทุน ถึงแม้คิดผลตอบแทนออกมาแล้วจะน้อย แต่!! มีความแน่นอน บางครั้งเราอาจจะเลือกแบบนี้มาผสมกับพอร์ตของเราได้ เพื่อให้มั่นใจว่ามีกระแสเงินสดออกมาใช้ทุกปีที่แน่นอน เพราะบางครั้งเรามีพอร์ตแต่ลงทุนในตลาดหมด เกิดความผันผวน บางอย่างอาจจะไม่แน่นอนได้ ซึ่งเวลาเราเข้าสู่วัยเกษียณก็คือการที่เราลดความเสี่ยงลงมา ด้วยการลดสัดส่วนการลงทุนในหุ้น และเลือกลงทุนในตราสารหนี้มากขึ้น
จริงๆแล้ว สินค้าประเภทประกันบำนาญ ก็คล้ายกับการที่เราลงทุนในตราสารหนี้ อีกทั้งประกันบำนาญยังช่วยประหยัดภาษีได้อีกด้วย
10. ถ้าเกิดเราเสียชีวิต กลัวคนอื่นแย่งมรดกกันเยอะ
รู้ไหม ถ้าเกิดเราเสียชีวิต ประกันเป็นการส่งต่อมรดกที่ง่าย เพราะมีการระบุชื่อที่ชัดเจน และไม่ต้องมาทำเรื่องจัดการมรดก ตั้งผู้จัดการมรดกให้ยุ่งยาก
11. ประกัน ค่อยทำตอนมีเงินก็ได้?
เราอาจจะรอวันที่มีเงินเพื่อทำประกัน ก็ทำได้ แต่เบี้ยประกันสุขภาพแพงกว่าเดิม เพราะอายุที่มากขึ้น จ่ายแพงกว่าเอาไหม? ทำตอนนี้แต่ทำที่เหมาะสมกับเงินที่มี แล้วค่อยทำเพิ่ม ดีกว่าที่ที่ทำทีหลังเพราะจำเป็นต้องทำแล้ว แต่เป็นโรคแล้ว จ่ายเงินเพื่อประกันก็ไม่รับ หรือถ้ารับก็จะเป็นข้อยกเว้นในประกัน มันไม่คุ้มเลย
12. ตอนนี้ยังสุขภาพดี จำเป็นต้องทำหรอ?
ไม่มีใครรู้สุขภาพได้ดีหรอก บางทีโรคบางโรคก็มาจากครอบครัวที่ส่งต่อมา บางทีตอนนี้เราสุขภาพดี แต่อนาคตก็ไม่แน่ เมื่ออายุมากขึ้น เพราะฉะนั้นทำไมเราถึงมั่นใจว่าเราจะสุขภาพดีไปตลอดจนตาย? แล้วอุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ตลอด จะดีกว่าไหม ถ้าวันนี้ต่อให้เราสุขภาพไม่ดี เราก็อุ่นใจ?
13. มีประกันสังคม กับประกันกลุ่มของบริษัทแล้ว ไม่ต้องทำก็ได้ประกันสุขภาพ?
ประกันสังคมก็ช่วยเราได้ระดับหนึ่ง แต่จะดีกว่าไหมถ้าได้ไปเอกชนดีๆ มีงบในการรักษา มากกว่าการพึ่งประกันกลุ่มของบริษัท ที่บางครั้งให้ไม่เยอะ เพราะจำนวนพนักงานน้อย จ่ายเบี้ยน้อยก็ดี
14. เป็นข้าราชการ มีสิทธิใช้รพรัฐอยู่แล้ว ไม่ต้องทำประกัน?
รพ.รัฐ กับเอกชน อยากเข้าอันไหนกว่ากัน? เวลาเราไปหาเอกชน เราอาจจะได้รับการบริการที่ดีกว่าได้ เนื่องจากบางครั้งคนก็ไม่เยอะเท่ากับรพ.รัฐ รวมถึงในเรื่องของการรอคิว การได้ห้องต่างๆ เอกชนก็จะดีกว่า
เพื่อไม่ให้พลาดคอนเทนต์ดีๆ จากเพจเด็กการเงิน ไปที่หน้าเพจ แล้วตั้งค่าเป็น "รายการโปรด" หรือ "Favorites" ได้เลยนะคร้าบบ
LINETODAY 👉https://today.line.me/th/v2/publisher/10240
โฆษณา