29 ก.ย. 2022 เวลา 07:01 • หุ้น & เศรษฐกิจ
คนนึงเหยียบเบรก อีกคนจะเหยียบคันเร่ง คนนึงจะเผาบ้านอีกคนดับไฟ
เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นในอังกฤษแล้วน่ากลัวจริงๆ
มาลองไล่กันดูครับ
  • วันพฤหัส BoE ประกาศเริ่มทำ QT เพื่อถอนกระตุ้น จัดการความเสี่ยงเงินเฟ้อ
  • วันศุกร์ รัฐบาลอังกฤษ ประกาศลดภาษี ที่ financed โดยการกู้เงิน จนหลายคนห่วงเรื่องความยั่งยืนด้านการคลังและดุลการชำระเงิน ค่าเงินปอนด์ร่วง อัตราดอกเบี้ยพุ่ง ยังกะวิกฤตประเทศเกิดใหม่
  • วันจันทร์ Chief Economist แบงก์ชาติอังกฤษออกมายืนยันว่าอาจจะต้องขึ้นดอกเบี้ยเพื่อพยุงค่าเงินปอนด์และ offset ผลกระทบของแผนการลดภาษีของรัฐบาล
  • วันอังคาร ธนาคารกลางอังกฤษ ประกาศหยุดการทำ QT เปลี่ยนมาเป็นประกาศเข้าสู่ crisis mode ซื้อพันธบัตรระยะยาวทุกวันวันละ 5 พันล้านปอนด์ไปอีกสองสัปดาห์ เพื่อป้องกันไม่ให้ตลาดพันธบัตรพังพินาศ หลังจากอัตราดอกเบี้ยพุ่งขึ้นแรงมาก
สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากบริษัท #pension funds ที่นิยมใช้กลยุทธ liability driven investment strategy หรือ #LDI ที่ใช้ตราสารอนุพันธ์ในการเพิ่ม duration ของการลงทุน เพื่อไป match กับ duration ของภาระในอนาคต
ปกติเวลาดอกเบี้ยขึ้น มูลค่าปัจจุบันของ liability ก็จะลดไปพร้อมกับมูลค่าปัจจุบันของการลงทุน กองทุนก็เฉยๆ เผลอๆดีขึ้นเล็กน้อย
แต่ปัญหาคือการลงทุนแบบนี้มีการใช้ leverage เวลาดอกเบี้ยขยับแรงๆแบบที่เกิดขึ้น (แน่นอนว่าใหญ่กว่าที่เคยเกิดขึ้นในอดีต และใหญ่กว่าในโมเดลความเสี่ยงปกติ)
แม้ด้านภาระ (liability) จะลดลงก็จริง แต่ด้านการลงทุนอาจจะต้องถูก margin calls หรือ forced sells แบบต่อเนื่อง
ประมาณกันว่า การลงทุนแบบนี้ อาจจะมีมูลค่าถึง 1.5 ล้านล้านปอนด์
ถ้าไม่ทำอะไรมีหวังตลาดพังแน่ๆ
และทำให้ตลาดเริ่มถามว่าแบบนี้ ธนาคารกลางอื่นๆ จะกลับมาอุ้มตลาดทุกครั้งมีปัญหาหรือไม่ เลยเห็นดอกเบี้ยพันธบัตรลดลงทั่วโลก
แต่มาตรการนี้คงเป็นแค่แผ่นปิดแผล เพราะถ้ายังไม่ได้แก้ปัญหาพื้นฐานคือนโยบายที่ไม่สมเหตุสมผล ไม่สอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานและสถานการณ์ แรงกดดันพวกนี้ก็คงไม่หายไป และจะไปเต๊ะปลั๊กอื่นหลุด หรือพาเศรษฐกิจหรือตลาดการเงินไปเจอปัญหาอะไรอีกก็ไม่รู้
จับตาดูกันดีๆครับ…
โฆษณา