2 ต.ค. 2022 เวลา 02:50 • ธุรกิจ
“BDMS” เครือโรงพยาบาลไทย ที่ใหญ่สุด อันดับ 3 ของโลก
2
รู้หรือไม่ว่าเศรษฐีหุ้นไทย 10 คนแรกเมื่อ 10 ปีที่แล้ว เกือบทั้งหมดได้หายไปจากการจัดอันดับแล้ว
หลงเหลือเพียงแค่ท่านหนึ่ง ที่ยังคงรักษาตำแหน่งไว้ได้อย่างต่อเนื่อง มาจนถึงปัจจุบัน
5
เรากำลังพูดถึง “นายแพทย์ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ” เจ้าของเครือโรงพยาบาลกรุงเทพ ที่เติบโตมาจากโรงพยาบาลเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง จนปัจจุบันกลายเป็นอาณาจักรโรงพยาบาล ที่มีมูลค่ามากถึง 4.6 แสนล้านบาท
2
เรียกได้ว่าเป็นธุรกิจโรงพยาบาลที่ใหญ่ที่สุด เป็นอันดับที่ 2 ในเอเชีย และอันดับที่ 3 ของโลก
เป็นรองเพียง AIER Eye Hospital ของประเทศจีน
และ Rede D'Or Sao Luiz ของประเทศบราซิล เท่านั้น
2
แล้วจากโรงพยาบาลเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง กลายมาเป็นธุรกิจหลักแสนล้านบาท
นายแพทย์ปราเสริฐ สร้างธุรกิจขึ้นมาอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
4
BDMS เริ่มทำธุรกิจโรงพยาบาลตั้งแต่ปี 2512 ในนามบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด
โดยเริ่มเปิดดำเนินการโรงพยาบาลกรุงเทพเป็นที่แรก เมื่อปี 2515 หรือราว 50 ปีก่อน
ด้วยทุนจดทะเบียนเริ่มแรกแค่ 10 ล้านบาทเท่านั้น
รู้หรือไม่ว่า โรงพยาบาลกรุงเทพแห่งแรก ถูกสร้างขึ้นแถวถนนเพชรบุรีตัดใหม่ เป็นโรงพยาบาล 4 ชั้น ขนาดเพียง 50 เตียงเท่านั้น แล้วจึงค่อยขยายอาคารใหม่อีก 2 แห่ง และเพิ่มจำนวนเป็น 300 เตียง
1
ต่อมา บริษัทตัดสินใจเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ช่วงปี 2534 ภายใต้ชื่อย่อหลักทรัพย์ “BGH”
ก่อนที่จะมีการเปลี่ยนเป็น BDMS ในปี 2558 หรือเมื่อ 7 ปีที่แล้ว และก็ได้ใช้มาจนถึงปัจจุบัน
2
จุดเปลี่ยนที่สำคัญของบริษัท เริ่มต้นในปี 2535 เพราะ BDMS เริ่มมีการใช้กลยุทธ์ที่ทำให้บริษัทกลายมาเป็นยักษ์ใหญ่ในวงการธุรกิจสุขภาพจนถึงทุกวันนี้ โดยกลยุทธ์ที่ว่านั้น ก็คือ “การเข้าซื้อกิจการ”
2
แล้ว BDMS เข้าซื้อกิจการอะไรบ้าง ?
โรงพยาบาลแรกที่กลุ่ม BDMS เข้าซื้อ ก็คือ โรงพยาบาล ส.ไทยเสรี
1
ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็นโรงพยาบาลกรุงเทพพระประแดง ขนาด 145 เตียง
ตั้งอยู่ติดถนนสุขสวัสดิ์ จังหวัดสมุทรปราการ
2
ในปี 2545 BDMS ได้เข้าซื้อหุ้นในเครือโรงพยาบาลสมิติเวช ในสัดส่วน 36.8%
หลังจากนั้นเพียง 2 ปี BDMS ก็ได้เข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุนของสมิติเวช จนกลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในสัดส่วน 92.9%
ซึ่งในปีเดียวกันนั้น บริษัทก็ซื้อหุ้นในโรงพยาบาล BNH ในสัดส่วน 48.5% ด้วยเช่นกัน
2
การเข้าซื้อกิจการอีกแห่งที่สำคัญของกลุ่ม BDMS ก็คือ การเข้าซื้อหุ้นบริษัท ประสิทธิ์พัฒนา จำกัด (มหาชน) เจ้าของโรงพยาบาลพญาไท และโรงพยาบาลเปาโล ในปี 2554
2
ด้วยการแลกหุ้นกับกลุ่มของคุณวิชัย ทองแตง ทำให้กลุ่มของคุณวิชัย ทองแตง กลายมาเป็นกลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ BDMS ด้วย
1
และจุดนี้เองทำให้คุณวิชัย ทองแตง กลายเป็นเศรษฐีหุ้นไทยอันดับที่ 4 ในปี 2554 ซึ่งเป็นการก้าวกระโดดจากอันดับที่ 297 ในระยะเวลาเพียง 1 ปี
2
นอกจาก BDMS จะใช้กลยุทธ์การเข้าซื้อกิจการแล้ว
บริษัทยังเลือกใช้กลยุทธ์ การหาพาร์ตเนอร์มาร่วมลงทุนด้วย
เพื่อแบ่งเบาภาระการลงทุนของบริษัทไม่ให้สูงเกินไป เช่น การร่วมลงทุนกับตระกูลหงษ์หยก
เพื่อสร้างโรงพยาบาลกรุงเทพภูเก็ต โดย BDMS มีสัดส่วนการถือหุ้นอยู่ที่ 48%
3
นอกจากนี้ BDMS ยังเป็นผู้บุกเบิกการก่อสร้างโรงพยาบาลเฉพาะทางในไทย
เช่น โรงพยาบาลหัวใจกรุงเทพ โรงพยาบาลมะเร็งกรุงเทพ วัฒโนสถ และโรงพยาบาลเด็กสมิติเวช
3
เราลองมาดูพัฒนาการที่สำคัญของ BDMS กัน
ปี 2542 มีจำนวนเตียงให้บริการทั้งหมด 1,500 เตียง
ปี 2552 มีจำนวนเตียงให้บริการทั้งหมด 4,360 เตียง
ปี 2564 มีจำนวนเตียงให้บริการทั้งหมด 8,215 เตียง
8
การบริหารธุรกิจโรงพยาบาลเป็นเครือข่ายของ BDMS
ช่วยแก้ปัญหาการเข้าถึงบุคลากรทางการแพทย์ได้เป็นอย่างดี
เพราะสามารถส่งต่อคนไข้ ไปยังโรงพยาบาลในเครือข่ายที่มีความพร้อมมากกว่าได้
1
เมื่อสามารถส่งต่อคนไข้ภายในเครือข่ายได้ การลงทุนในอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่มีราคาแพง ก็ไม่จำเป็นต้องติดตั้งทุกโรงพยาบาล แค่ลงทุนติดตั้งไว้เฉพาะโรงพยาบาลใหญ่ ๆ ก็เพียงพอแล้ว
ปัจจุบัน กลุ่ม BDMS ก็มีโรงพยาบาลทั้งในไทยและกัมพูชา
ซึ่งก็ยิ่งเป็นการเสริมความแข็งแกร่ง ของเครือข่ายโรงพยาบาล ออกไปสู่ระดับภูมิภาค
1
ไม่เพียงแต่การมุ่งเน้นขยายเครือข่ายโรงพยาบาลเท่านั้น
ทางกลุ่ม BDMS ได้ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีทางการแพทย์ด้วย
จะเห็นได้จากการร่วมมือกับคณะแพทย์จากมหาวิทยาลัย Johns Hopkins ในการสาธิตการผ่าตัดข้ามทวีปด้วยหุ่นยนต์ระบบดาวเทียมเป็นครั้งแรกของโลก เมื่อปี 2540
2
นอกจากธุรกิจโรงพยาบาลแล้ว ปัจจุบันกลุ่ม BDMS ยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจอื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น ธุรกิจผลิตสินค้าทางการแพทย์ ธุรกิจค้าปลีกยา และธุรกิจขนส่งผู้ป่วยทางอากาศ เพื่อลดต้นทุนและเสริมศักยภาพให้ธุรกิจหลักอย่างต่อเนื่อง
2
จากโรงพยาบาลขนาด 50 เตียง เมื่อ 50 ปีก่อน
ในวันนี้ BDMS เติบโตกลายเป็นเครือข่ายโรงพยาบาล
ที่มีมูลค่ามากถึง 4.6 แสนล้านบาท เป็นธุรกิจที่มีมูลค่าบริษัทมากเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย
และเป็นถึงเครือธุรกิจโรงพยาบาล ที่มีมูลค่ามากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลกไปแล้ว เป็นที่เรียบร้อย..
1
หนังสือ BRANDING THE NATION หนังสือที่เล่าถึงการสร้างแบรนด์ของแต่ละประเทศที่ทำให้ แต่ละประเทศเป็นแบบทุกวันนี้
เช่น ทำไมเยอรมนีเป็นประเทศแห่งรถยนต์ ทำไมฝรั่งเศสเป็นประเทศแห่งแบรนด์หรู สั่งซื้อเลยที่
1
References
-แบบ 56-1 ปี 2542 ของบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน)
-รายงานประจำปี 2564 ของบริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด (มหาชน)
โฆษณา