30 ก.ย. 2022 เวลา 07:29 • ข่าวรอบโลก
เยอรมันเข้าขั้นวิกฤตเดินสู่ภาวะถดถอย พร้อมกับอุตสาหกรรมยานยนต์หยุดผลิตทั้งหมด
นักวิจัยสถาบัน Destinis กล่าวเตือนว่า เยอรมันกำลังมุ่งหน้าสู่ภาวะถดถอย โดย GDP ของประเทศเยอรมัน คาดว่าจะลดลง 0.7% ในปี 2023
เนื่องมาจากการวิเคราะห์ข้อมูลของสถาบัน Destinis พบว่า ราคาพลังงานพุ่งขึ้นสูง 139.0% ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา และราคาไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 174.9% เมื่อเทียบเป็นรายปี
1
รวมถึงดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ไม่รวมพลังงานเพิ่มขึ้น 14% จากปี 2021 ตลอดจนการเพิ่มขึ้นของราคาโลหะซึ่งเพิ่มขึ้น 19.9% จากเดือนสิงหาคม 2022
ในขณะเดียวกัน หัวหน้าหน่วยงานควบคุมเครือข่ายพลังงานของประเทศเยอรมัน ได้ออกมาแจ้งเตือนการบริโภคก๊าซธรรมชาติภายในครัวเรือน ปัจจุบันยังอยู่สูงเกินไปจากระดับค่าเฉลี่ยของเดือนเดียวกันในปี 2021
และการบริโภคก๊าซธรรมชาติของอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ยังคงสูงขึ้นเช่นกัน ถึงจะประหยัดแล้วก็ตาม ตัวเลขที่สูงนี้ น่ากังวลมาก
หากไม่มีการประหยัดลงบ้าง ก็จะเป็นการยากที่จะหลีกเลี่ยงสถานการณ์ฉุกเฉินในฤดูหนาวนี้
นักวิชาการชี้ว่า วิกฤตพลังงานในยุโรปคราวนี้ ราคาพลังงานพุ่งสูงขึ้น 8 ถึง 10 เท่าจากราคาเดิม ทำให้ต้นทุนของอุตสาหกรรมยานยนต์สูงขี้น 10 เท่า
ประกอบกับการซ้ำเติมจากเหตุการณ์ท่อส่งก๊าซระเบิดคราวนี้ มีผลให้การจัดหาก๊าซธรรมชาติของรัสเซียจำเป็นต้องหยุดชะงักลง
ดังนั้นอุตสาหกรรมยานยนต์จะต้องดึงก๊าซธรรมชาติที่สำรองไว้​ เอามาใช้ก่อนและคิดว่าไม่นานก็คงหมด
และส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยานยนต์ของยุโรป โดยเฉพาะในเยอรมัน อาจจำเป็นหยุดสายการผลิตทั้งหมด ในเร็วๆนี้
บัดนี้อุตสาหกรรมยานยนต์ของเยอรมัน เสมือนหัวรถจักรระดับชั้นยอดในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของยุโรปนั้น
ถึงช่วงเวลาที่ยากลำบากอย่างยิ่งในการดำเนินธุรกิจต่อไป และจำเป็นต้องตัดสินอะไรบางอย่างเพื่อธุรกิจ ให้เดินต่อไปได้ ถ้าพลังงานของประเทศเยอรมัน ขาดเสถียรภาพด้านราคาและขาดแคลน
ผู้บริหารของ Volkswagen ได้ออกความเห็นว่า หากปัญหาด้านการจัดหาก๊าซธรรมชาติไปยังเยอรมัน และประเทศในยุโรปตะวันออกยังคงมีอยู่
เราพร้อมที่จะโอนโรงงานผลิตไปยังภูมิภาคอื่น ๆ ของยุโรป และไปยังประเทศที่สามารถเข้าถึงทะเลได้ และมีท่าเรือสำหรับรับก๊าซธรรมชาติได้แก่ โปรตุเกส สเปน และเบลเยียม
ผู้บริหารของ Mercedes ออกว่ากล่าว เราเตรียมแผนจะเปลี่ยนมาใช้ระบบไฟฟ้า ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลยสำหรับการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและแบตเตอรี
2
เพราะเราต้องการพลังงานราคาถูกจำนวนมาก และตอนนี้ไม่มีที่ไหนเลยที่จะมีมัน
ดังนั้นการก้าวสู่ยานยนต์ไฟฟ้าถูกเลื่อนออกไปอย่างไม่มีกำหนด รวมถึงความสูญเสียจากการขาดวัตถุดิบราคาถูกเพิ่มมากขึ้น
นอกจากนี้ปัญหาเก่าเดิมยังคงมีอยู่ เนื่องจากอุปทานของชิปอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ยังขาดช่วงนานมาก
นักวิเคราะห์การผลิต ตั้งข้อสังเกตว่า ในปี 2022 นี้ บริษัทรถยนต์ในยุโรปทั้งหมดประสบปัญหาการขาดแคลนวัตถุดิบที่สำคัญ เช่น โลหะหายาก นิกเกิล และนีออน
ทำให้การจัดหาชิ้นส่วนประกอบนั้นได้หยุดชะงักลง ส่งผลให้โรงงานบางแห่งของ Porsche BMWและ MINI ได้ระงับการผลิตรถยนต์ไป
และอีกปัญหาหนึ่งมาจากเสถียรภาพของราคาพลังงานที่ไม่แน่นอน มีแนวโน้มปรับขึ้น อาจจะขาดแคลนอีกด้วย
นักวิชาการฟันธงจากหลายๆเหตุผล มีส่วนทำให้อุตสาหกรรมยานยนต์ยุโรปทั้งหมดล้มหายไปจากยุโรป
และผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเยอรมันจะไม่ใช่หัวรถจักรของเศรษฐกิจสหภาพยุโรปอีกต่อไป
แต่อย่างไรก็ตามนักวิชาการแจ้งข่าวดีว่า เยอรมันได้ดำเนินการทำตามแผนฉุกเฉินสำหรับแก้ปัญหาการขาดแคลนก๊าซของรัสเซีย คือ
1
รัฐบาลเยอรมันตกลงกู้เงิน มูลค่า 2 แสนล้านยูโร เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานที่เพิ่มขึ้นสำหรับผู้บริโภคและธุรกิจต่างๆ
และภายใต้แผนการรับเงินกู้ใหม่นี้ เบอร์ลินควรจะมีมาตรเบรกราคาฉุกเฉินสำหรับก๊าซและไฟฟ้า และต้องยกเลิกการจัดเก็บก๊าซธรรมชาติสำรองที่วางแผนไว้สำหรับผู้บริโภคด้วย
รัฐมนตรีเศรษฐกิจเยอรมัน เตือนว่าเยอรมันยังอาจเผชิญกับปัญหาการขาดแคลนก๊าซธรรมชาติ
ถึงแม้ว่าโรงเก็บก๊าซธรรมชาติจะเต็มความจุแล้วก็ตาม แต่ก็จะหมดลงทั้งหมดในช่วงปลายฤดูหนาวนี้
เนื่องจากเบอร์ลินซื้อก๊าซธรรมชาติรัสเซียน้อยลง ตามนโยบาย EU และเบอร์ลินจะต้องดำเนินการค้นหาแหล่งซื้อก๊าซธรรมชาติใหม่ เพื่อชดเชยก๊าซธรรมชาติรัสเซียที่หายไปอย่างเร็วที่สุด
1
แต่อย่างไรนักวิชาการ ให้ข้อคิดว่า เงินกู้มูลค่า 2 แสนล้านยูโร นั้น จะช่วยเหลือผู้บริโภคและผู้ประกอบการอุตสาหกรรมได้ ในระยะสั้นเท่านั้น การวางแผนแก้ปัญหาระยะกลางและระยะยาวยังไม่ชัดเจน
และคาดว่าปัญหาพลังงานและวัตถุดิบที่ใช้ในอุตสาหกรรม ยังคงมีอยู่ต่อไป จนกว่าจะเลิกคว่ำบาตรทั้งจีนและรัสเซีย เลิกเดินตามเจ้าโลกก็จบแล้ว แก้ง่ายมาก ใครๆก็หาทางออกได้
Refer to
โฆษณา