"เซเลนสกี" เตรียมดึงนาโตเข้าสู่สงคราม หลังเร่งนาโตรับเป็นสมาชิก
ล่าสุด!! ประธานาธิบดี Zelensky เตรียมยกระดับสงคราม หลังใช้ข้ออ้างการผนวกดินแดน เป็นแรงหนุน เร่งให้นาโตรับเป็นสมาชิกโดนด่วนที่สุด
ประธานาธิบดียูเครน Volodymyr Zelensky กล่าวเมื่อวันที่ 30 /9 ว่า
"เราได้แสดงความสามารถของเรา
ในการบรรลุมาตรฐานของพันธมิตร
เราใช้ขั้นตอนเด็ดขาดด้วยการลงนามในใบสมัคร
เพื่อเข้าถึง NATO อย่างรวดเร็ว"
แถลงการณ์ดังกล่าวจัดทำโดย Zelensky
ที่แสดงความเร่งรีบ ในการกดดันให้นาโตเร่งการตัดสินใจรับยูเครนเป็นสมาชิกโดยด่วนที่สุด
โดยใช้ข้ออ้างว่า รัสเซียได้ทำการผนวกดินแดนใน 4 ภูมิภาคของยูเครน
โดยประธานาธิบดีปูตินของ รัสเซียประกาศว่า.. ได้ผนวก 4 จังหวัดของโดเนตสค์, ลูกาสค์, ซาโปริซเซีย และเคอร์ซอน ทางตะวันออกและทางใต้ของยูเครน
ซึ่งการผนวกดินแดนเข้าร่วมกับรัสเซีย เกิดขึ้นหลังประชาชนใน 4 ภูมิภาคของยูเครน ได้ลงคะแนนประชามติเลือกการผนวกเข้ากับยูเครน ด้วยคะแนนที่สูง
จากนั้นปูตินได้ลงนามในข้อตกลงควบรวมดินแดนเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียกับผู้นำใน 4 ภูมิภาคเหล่านี้
และเรียกร้องให้ยูเครนหยุดกิจกรรมทางทหาร
และกลับไปที่โต๊ะเจรจา
อย่างไรก็ตาม เซเลนสกีได้ปฏิเสธที่จะเจรจากับรัสเซีย เหมือนเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา ทั้งที่ทางรัสเซียได้เปิดโอกาสและกล่าวว่าพร้อมเจรจาสันติภาพกับยูเครนมาโดยตลอด
โดนประธานาธิบดีเซเลนสกี ได้กล่าวว่า..
"ในขณะที่ประธานาธิบดีปูตินอยู่ในตำแหน่ง
"ยูเครน" จะไม่ทำการเจรจาใดๆ
เราจะเจรจากับประธานาธิบดีรัสเซียคนใหม่เท่านั้น"
- เซเลนสกี้ กล่าว
รัสเซียไม่ได้แสดงความคิดเห็นต่อคำกล่าวของประธานาธิบดียูเครน
ด้าน Jens Stoltenberg เลขาธิการ NATO กล่าวว่า.. "การตัดสินใจยอมรับยูเครนจะต้องได้รับฉันทามติจากสมาชิกทั้งหมดในกลุ่ม"
ึ่ซึ่ง สาเหตุหลักประการสำคัญ ของการแทรกแซงทางทหารในยูเครนของรัสเซีย ก็คือการที่ยูเครนต้องการเข้าเป็นสมาชิกนาโต้ จนเกิดความขัดแย้งในปัจจุบันกับประเทศเพื่อนบ้านรัสเซีย
ยูเครน ได้รวมเป้าหมายการเข้าเป็นสมาชิกนาโตนี้ไว้ในรัฐธรรมนูญปี 2019 แม้ว่ารัสเซียจะร้องขอตลอดช่วงที่ผ่านมาว่า..
"รัสเซียให้ความเคารพต่อการตัดสินใจใดๆของประเทศเพื่อนบ้าน แต่การตัดสินใจนั้นจะต้องไม่เป็นการกระทบกระเทือนต่อความมั่นคง
และการดำรงอยู่ของประเทศ"
ซึ่งหากยูเครนเข้าร่วมกับนาโต จะกระทบกระเทือนต่อความมั่นคงของรัสเซียอย่างรุนแรง ทำให้กองทัพนาโตเพิ่มขีดความสามารถในการส่งกำลังและอาวุธมาประชิดพรมแดนรัสเซีย ซึ่งถือเป็นภัยคุกคามด้านความมั่นคงและการดำรงอยู่ของประเทศที่ยอมรับไม่ได้
ก่อนเริ่มปฏิบัติการทางทหารในเดือนกุมภาพันธ์ รัสเซียได้ออกมา แสดงข้อกังวลและเรียกร้องไปยังสหรัฐฯ และตะวันตก หลายครั้ง เพื่อให้พิจารณาตามคำขอของรัสเซีย
แต่ สหรัฐฯ และกลุ่มพันธมิตรนาโต ได้เพิกเฉยต่อข้อกังวล ที่เกี่ยวกับความมั่นคงของรัสเซีย รวมทั้งยูเครนที่แสดงท่าทีก้าวร้าว และคล้อยตามตะวันตก
จนนำไปสู่ การแทรกแซงทางทหารแบบพิเศษในยูเครน เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ค่ะ
โฆษกเครมลิน Dmitry Peskov ได้เคยออกมาเตือนเมื่อวันที่ 14 กันยายนว่า..
"รัสเซียจะเพิ่มความรุนแรงของการดำเนินงาน
ในยูเครนหากได้ลงนามในข้อตกลงด้านความมั่นคงกับสหรัฐอเมริกาและตะวันตก
โดยเอกสารที่ทางมอสโกประเมินคือ
การแสดงให้เห็นว่า.. ยังมีที่ว่างสำหรับการปรับตัวของยูเครนในการเข้าร่วม NATO"
เแม้ว่าตามความเหมาะสมแล้ว นาโต ไม่ควรรับประเทศที่อยู่ในสถานะสงครามเป็นสมาชิก
แต่การเผชิญแรงกดดันจากเซเลนสกี ที่ได้กระแสหนุนจากกรณีที่รัสเซียผนวกดินแดนใน 4 ภูมิภาคยูเครน จนทำให้แรงสนับสนุนยูเครนในระดับนานาชาติเพิ่มขึ้น
อาจทำให้นาโตต้องคิดให้หนักและรอบคอบ
การรับสมาชิกประเทศใดประเทศหนึ่งของนาโต จะทำให้ประเทศนั้น ได้รับความคุ้มครองจากประเทศพันธมิตรนาโตทั้งหมด
และมาตราที่ 5 ของนาโตที่บัญญัติไว้จะทำให้
การโจมตีประเทศสมาชิกนาโต
เป็นพันธกรณีที่สมาชิกนาโตทั้งหมดต้องช่วยเหลือ
ดังนั้นหากยูเครน เข้าร่วมนาโตได้จริงๆ ก็เท่ากับว่า
นาโตจะเข้าร่วมสงครามครั้งนี้อย่างเต็มตัว
References
เรียบเรียงโดย
สาระอัปเดต @SaraUpdate
October 1, 2022
- 6
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
