1 ต.ค. 2022 เวลา 10:55 • ข่าว
#พันธมิตรชาติอาหรับเบรคหัวทิ่ม
#เมื่อลิซ ทรัสส์ คิดจะย้ายสถานทูตอังกฤษไปเยรูซาเล็ม
1
พันธมิตรชาติอาหรับ พร้อมชาวสภาอังกฤษกรี๊ดสนั่น เมื่อ ลิ๊๊๊๊๊ซ ทรัสส์ นายกรัฐมนตรีหญิงป้ายแดงของอังกฤษต้องการย้ายสถานทูตอังกฤษในอิสราเอล จากกรุง เทล อาวีฟ ไปตั้งในกรุงเยรูซาเล็ม ตามลูกพี่ใหญ่อย่างสหรัฐอเมริกา ซึ่งทางพันธมิตรอาหรับทุกชาติ ออกโรงเตือนด้วยความหวังดีว่า น้องลิ๊๊๊ซ คิดอะไรของเธ๊๊๊อ ยูว์อย่าหาเรื่องจะดีกว่า
ข่าวหลุดที่ว่า ลิซ ทรัสส์ กำลังวางแผนพิจารณาการย้ายสถานทูตอังกฤษไปเยรูซาเล็ม นั้นไม่ใช่แค่ข่าวลือเสียด้วย และมีการพูดคุยกันอย่างเป็นกิจจะลักษณะจริงๆ ระหว่าง ลิซ ทรัสส์ กับ ยาอีร์ ลาปิด นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ที่มีโอกาสเจอกันที่งานประชุมสมัชชาสหประชาชาติ ในนิวยอร์ค ซึ่งเป็นงานฉายเดี่ยวต่างประเทศในฐานะผู้นำอังกฤษครั้งแรกของลิซ ทรัสส์ หลังงานพระบรมศพสมเด็จพระราชินีนาถ เอลิซาเบธที่ 2
และในงานนั้นเอง ที่ลิซ ทรัสส์ บอกว่า ยาอีร์ ลาปิด นายกฯ อิสราเอลว่า เธอกำลังพิจารณาเรื่องย้ายสถานทูตอังกฤษ ไปตั้งในกรุงเยรูซาเล็มให้ โดยได้บอกว่า แผนนี้เป็นความตั้งใจของเธอตั้งแต่ยังดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีต่างประเทศ ซึ่งไม่มีโอกาสได้ทำ แต่มาคราวนี้ เธอเป็นผู้นำอังกฤษแล้ว จึงอยากทำอย่างที่ตั้งใจเสียที
แต่ทว่า จิ้งจกติดฝาบ้านเลขที่ 10 ถนนดาวนิ่ง นำสืบมาแล้วว่า อันที่จริง ลิซ ทรัสส์ ได้เคยตกลงไว้กับกลุ่ม "Conservative Friends of Israel" ซึ่งเป็น กลุ่มการเมืองภายในพรรคอนุรักษ์ ที่มีความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นมากๆกับ พรรคลิคุด ของอิสราเอล ที่เป็นพรรคการเมืองใหญ่และมีอิทธิพลมากในสภาอิสราเอล
โดยลิซ ทรัสส์ ขอให้กลุ่ม "Conservative Friends of Israel" ช่วยลงคะแนนให้เธอได้รับชัย ขึ้นเป็นผู้นำพรรคอนุรักษ์ ที่จะกลายเป็นผู้นำอังกฤษต่อจากนาย บอริส จอห์นสัน และเมื่อลิซ ทรัสส์ สมหวังแล้ว การพิจารณาแผนการย้ายสถานทูตอังกฤษ ก็น่าจะเป็นหนึ่งในข้อตกลงที่เธอได้สัญญาไว้กับกลุ่ม Conservative Friends of Israel นั่นเอง
เมื่อมีข่าวออกมา แนซ ชาห์ สมาชิกพรรคแรงงานยื่นจดหมายตรงถึงลิซ ทรัสส์ ให้ยกเลิกความคิดที่จะย้ายสถานทูตเสีย เพราะอาจเกิดความเสียหายที่ไม่สามารถควบคุมได้ในอนาคต
และยังเตือนสติให้นายกฯ หญิง ไตร่ตรองให้ดีๆ โดยยึดเอาผลประโยชน์ และความมั่นคงของชาติเป็นที่ตั้ง ไม่ใช่ผลประโยชน์ของพรรคการเมืองฝ่ายใด ฝ่ายหนึ่ง หากหลีกเลี่ยงได้ รัฐบาลอังกฤษก็ไม่ควรอยู่ดีๆไปแกว่งเท้าหาเสี้ยน หาเรื่องไปลุยไฟเล่น
เท่านั้นยังไม่พอ เหล่าบรรดาเอกอัครราชทูตของกลุ่มประเทศอาหรับในกรุงลอนดอน ออกมาเตือนลิซ ทรัสส์ โดยพร้อมเพรียงกันว่า รัฐบาลอังกฤษ ไม่ควรละเมิดกฏหมายระหว่างประเทศ หรือตัดสินใจอย่างไร้วิจารณญาณ
แม้แต่กลุ่มประเทศใน EU ก็ออกมาแสดงความคิดเห็นว่า การที่ทางอังกฤษจะย้ายสถานทูตไปเยรูซาเล็ม เป็นเรื่องที่ไม่ค่อยฉลาดเท่าไหร่ ที่จะให้นายกฯหญิง ใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวไปตัดสินใจทำอะไรที่อาจเสี่ยงต่อความไม่สงบได้ในภายหลัง
และยิ่งไม่ต้องพูดถึงกลุ่มประเทศที่สนับสนุนฝ่ายปาเลสไตน์ ได้ออกมายื่นจดหมายถึงรัฐบาลอังกฤษกันถ้วนหน้า คัดค้านแผนการย้ายสถานทูตไปตั้งในกรุงเยรูซาเล็ม เพราะเท่ากับเป็นการรับรองความชอบธรรมให้กับฝ่ายอิสราเอล ที่ใช้กำลังทหารขับไล่ชาวปาเลสไตน์ออกนอกพื้นที่ เพื่อยึดครองอย่างผิดกฏหมาย
นอกจากนี้การยึดครองกรุงเยรูซาเล็มทั้งหมด และประกาศเป็นเมืองหลวงของตนก็ถือว่าละเมิดกฏหมายสากล และข้อตกลง 194 ที่ทำไว้กับองค์การสหประชาชาติ ที่ระบุว่า กรุงเยรูซาเล็มต้องเป็นเขตปลอดทหาร
ด้านอดีตนักการทูตคนหนึ่งของอังกฤษได้ออกมาวิจารณ์การแสดงจุดยืนเอาใจอิสราเอลของลิซ ทรัสส์ ว่า เธอแค่คิดว่าอยากจะทำตามแบบ โดนัลด์ ทรัมพ์ อดีตผู้นำสหรัฐ ที่กล้าลุยไฟย้ายสถานทูตสหรัฐไปอยู่ในเยรูซาเล็มเป็นชาติแรก เมื่อปี 2018 เพียงแต่สหรัฐฯ นั้นใหญ่คับโลกพอที่จะทำอะไรก็ได้โดยไม่จำเป็นต้องแคร์ใคร แต่อังกฤษนั้นไม่ใช่ ไม่ใช่เลย
ถามว่าอิสราเอล เรียกร้องให้อังกฤษย้ายสถานทูตมาเยรูซาเล็มไหม? ก็เปล่า! อิสราเอลไม่ได้คาดหวังอะไรจากอังกฤษด้วยซ้ำ เพราะเขาได้ประเทศมหาอำนาจระดับยาน ID-4 อย่างสหรัฐอเมริกามาตั้งสถานฑูตให้แล้ว และความสัมพันธ์ระหว่างอังกฤษ กับอิสราเอล ก็จัดว่าดีเยี่ยม เราไม่จำเป็นต้องเอาใจเขาเพิ่มโดยไม่จำเป็น
แต่ในทางกลับกัน อังกฤษต่างหากที่ไปสร้างความบาดหมางกับพันธมิตรชาติอาหรับ และฝ่ายที่สนับสนุนปาเลสไตน์ ที่ไม่เป็นผลดีกับการดำเนินนโยบายต่างประเทศในตะวันออกกลาง รวมถึงข้อตกลงทางการค้ากับกลุ่มประเทศเหล่านั้น
1
ปิดท้ายด้วยความเห็นของ ฮูซาม ซอมลอท เอกอัคราชทูตปาเลสไตน์ในกรุงลอนดอน ออกมาเชือดนิ่มว่า ประเทศใดก็ตามที่ริอาจไปตั้งสถานทูตของตนในเขตเยรูซาเล็ม ถือว่าทำผิดกฏหมายต่างประเทศอย่างร้ายแรง ซ้ำยังละเมิดข้อตกลง Two-state solution และความขัดแย้งในดินแดนปาเลสไตน์ที่ผ่านมา ต้นเหตุก็มาจากอังกฤษนั่นเอง ถือเป็นความผิดพลาดทางประวัติศาสตร์ที่อังกฤษสมควรแสดงความรับผิดชอบ แต่นี่ยังคิดจะเติมเชื้อไฟให้มันหายนะขึ้นไปอีก
ซึ่งจุดเริ่มต้นของโครงการตั้งรัฐยิวในดินแดนปาเลสไตน์ก็เกิดขึ้นที่อังกฤษจริงๆ ในสมัยนายกรัฐมนตรี อาร์เธอร์ บัลโฟร์ ที่ได้ร่างคำประกาศ บัลโฟว์ ในปี 1917 ถึง ลีโอเนล รอธส์ไชลด์ ผู้นำองค์กร Zionist ว่ารัฐบาลอังกฤษจะสนับสนุนการก่อตั้งรัฐยิวในดินแดนปาเลสไตน์ โดยแลกกับแหล่งเงินทุนสนับสนุนกองทัพอังกฤษในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 นั่นเอง
และจากจุดเริ่มต้นนั้นก็ได้สร้างความบาดหมางให้แก่ชาวอาหรับ-ปาเลสไตน์ที่เคยอยู่เดิม กับชาวยิวอพยพที่ย้ายมาสร้างประเทศใหม่ตามความเชื่อเรื่องดินแดนพันธสัญญา ที่ยังรบพุ่ง ไล่ที่กันอยู่จนถึงทุกวันนี้
1
ปัจจุบัน มีเพียง 4 ประเทศ ที่ยกสถานทูตมาตั้งในกรุงเยรูซาเล็ม ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ฮอนดูรัส โคโซโว และ กัวเตมาลา แต่ถ้าอังกฤษอยากจะไปเติมเป็นประเทศที่ 5 โดยไม่กลัวทัวร์ลง ก็คงต้องเอาที่น้องลิ๊๊๊๊ซสบายใจนาจ๊า
1
****************
ติดตามบทความของ "หรรสาระ" เพิ่มเติมได้ที่
Facebook - หรรสาระ By Jeans Aroonrat
Tiktok - @HunsaraByJeans
และ Blockdit - หรรสาระ By Jeans Aroonrat
แพลทฟอร์มคุณภาพ ไม่ปิดกั้นการมองเห็นเนื้อหา
****************
1
แหล่งข้อมูล
โฆษณา