3 ต.ค. 2022 เวลา 04:16 • คริปโทเคอร์เรนซี
Ethereum (ETH) กับก้าวสำคัญที่จะทำให้มันไม่ใช่ผู้ร้ายของภาวะโลกร้อนอีกต่อไป
ไหน ๆๆๆ แถวนี้ใครเล่นคริปโตบ้าง สำหรับคนที่เล่นคริปโตแล้วชื่อที่คุ้นเคยนอกเหนือจาก Bitcoin และต่อให้คุณจะได้ถือมันไว้หรือไม่ก็ตามก็น่าจะต้องรู้จักมันแน่ ๆ คือ Ethereum หรือ ETH นั่นเอง
ที่ผ่านมา วงการคริปโตและกระบวนการที่เกี่ยวข้อง ถูกประณามอย่างหนักในฐานะที่เป็นกระบวนการและกิจกรรมที่สิ้นเปลืองพลังงานอย่างมหาศาลจนถึงกับมีผู้คนไม่น้อยที่ต่อต้านทุกสิ่งอย่างที่เกี่ยวกับคริปโต เพียงเพราะมันทำตัวไม่น่ารักกับสิ่งแวดล้อมเลย
แต่วันนี้ ข้อกล่าวหานั้น จะเริ่มต้นใช้ไม่ได้กับ ETH แล้วนะคะ เพราะล่าสุด ETH ซึ่งเป็นหน่วยคริปโตยอดนิยมของตลาด NFT ได้เปลี่ยนรูปแบบการขุดเหรียญของมันเอง จากเดิมที่เป็นกระบวนการขุดเหมือนเจ้าอื่นๆ ที่เรียกว่า Proof-of-Work ซึ่งอธิบายให้เข้าใจง่ายที่สุดคือระบบที่ต่างคนต่างขุด ใครมีคอมมีอุปกรณ์ครบก็แข่งกันขุดไป ซึ่งอีนี่นี่แหละที่เป็นที่มาของการใช้พลังงานอย่างมหาศาลจนถูกหยามเหยียดจากทั่วโลกมาเป็นระบบที่เรียกว่า Proof-of-Stake
ซึ่งด้วยระบบใหม่นี้ไม่ใช่ใคร ๆ ก็ขุดได้ แต่คนที่จะขุดจะต้องเป็นคนที่วาง ETH เป็นทุนประกัน (Staking ที่พูดง่าย ๆ คือจำกัดเฉพาะคนที่ถือเหรียญอยู่นั่นเอง) เพื่อช่วยยืนยันธุรกรรมแทน โดยจะได้ผลตอบแทนระหว่าง 5-10% ขึ้นอยู่กับจำนวนผู้เข้ามา Stake และปริมาณธุรกรรมบนเครือข่ายด้วยซึ่งข้อนี้น่าจะตอบโจทย์สำหรับผู้ที่หมั่นไส้ระบบทุนนิยมและรักษ์โลกด้วยในขณะเดียวกัน
คาดการณ์กันว่า การเปลี่ยนระบบในครั้งนี้ของ ETH จะช่วยลดการใช้พลังงานไฟฟ้าลงถึง 99.988% และลดการปล่อยพลังงานคาร์บอนลงไป 99.982% คุณพระ... นี่มัน eco friendly cryptocurrency ที่แท้จริง และด้วยตัวเลขการลดลงของค่าต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องขนาดนี้ งานนี้ ETH เลยได้มงคริปโตรักษ์โลก ไปแบบสวย ๆ สบาย ๆ
เอาล่ะ ใครที่รักโลกก็รัก คริปโตก็อยากเล่น NFT ก็เป็นแพสชั่น ต่อไปนี้ ก็คงรู้สึกสบายใจได้ซะทีนะคะที่จะถือ ETH และเข้าสู่วงการ NFT ได้แบบไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจอีกต่อไป
ติดตามข่าวคราวสิ่งแวดล้อมและความเคลื่อนไหวโลกร้อนอื่น ๆ ได้ที่
โฆษณา