26 ต.ค. 2022 เวลา 02:08 • หุ้น & เศรษฐกิจ
วิเคราะห์การเติบโต “หุ้นกลุ่มกัญชา” และ Plant Based Food
หุ้นกลุ่มกัญชา เป็นหนึ่งในเมกะเทรนด์ใหม่ของโลกหลังจากที่หลายประเทศเริ่มที่จะผ่อนคลายกฎหมายเกี่ยวกับกัญชาจากเดิมที่ถูกจัดให้เป็นยาเสพติดเปลี่ยนมาเป็นการปลูกและผลิตเพื่อการแพทย์และบางประเทศอนุญาตให้ใช้งานในเชิงสันทนาการได้แล้ว ทำให้หุ้นในกลุ่มผู้ผลิตกัญชาเริ่มได้รับการจับตามองมากขึ้น
กัญชากับการใช้งานเชิงพาณิชย์
กัญชาเคยถูกมองว่าเป็นสารเสพติดที่มีผู้ใช้งานเฉพาะกลุ่มและมีเพียงแค่บางประเทศเท่านั้นที่รับรองว่าเป็นสิ่งถูกกฎหมาย แต่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาบางประเทศเริ่มให้การยอมรับกัญชาโดยเริ่มจากการใช้งานทางการแพทย์ก่อน จากนั้นก็เริ่มขยายไปยังการเป็นส่วนหนึ่งของการผลิตอาหารและเครื่องดื่ม ทำให้การใช้งานกัญชาถูกนำมาใช้ในวงกว้างในที่สุดและภาคธุรกิจต่างๆเริ่มผลิตสินค้าที่มีกัญชาเป็นส่วนประกอบออกมาอย่างต่อเนื่อง
ETF ที่ลงทุนในหุ้นกลุ่มกัญชา
ETFMG Alternative Harvest ETF เน้นลงทุนในบริษัทที่อยู่ในอุตสาหกรรมการเพาะปลูกและแปรรูปกัญชา โดยอิงกับดัชนี Prime Alternative Harvest Index ปัจจุบันลงทุนในบริษัทกัญชา 40 บริษัททั่วโลก เช่น บริษัท Canopy Growth บริษัท Aurora Cannabis เป็นต้น โดย 90% ของเงินลงทุนจะอยู่ในประเทศแคนาดา สหรัฐอเมริกา และ อังกฤษ
AdvisorShares Pure US Cannabis ETF หรือ MSOS ความน่าสนใจของ ETF นี้ก็คือจะลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับกัญชาทางอ้อมด้วยรวมถึงบริษัทสตาร์ทอัพ เหมาะสำหรับผู้ที่มองว่าบริษัทขนาดเล็กมีโอกาสจะเติบโตได้ในอนาคต
หุ้นกัญชาในระดับโลก
หลายๆประเทศเริ่มที่จะเปิดเสรีในเรื่องของ ธุรกิจกัญชา ไม่ว่าจะเป็นการเพาะปลูก การนำไปใช้ในเชิงการแพทย์ การผลิตในเชิงพาณิชย์ ตลอดจนใช้ในเชิงสันทนาการ โดยประเทศที่ได้ชื่อว่าเสรีมากที่สุดก็คือแคนาดา ส่วนตลาดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดก็คือสหรัฐอเมริกา แม้ว่าจะมีเพียงแค่บางรัฐอย่างแคลิฟอร์เนียเท่านั้นที่อนุญาตให้ทำธุรกิจเกี่ยวกับกัญชาได้
บริษัทหรือหุ้นที่ดำเนินธุรกิจกัญชาขนาดใหญ่ระดับโลกส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ในประเทศสหรัฐอเมริกา แคนาดาและอังกฤษ เกือบทั้งหมดจดทะเบียนอยู่ในตลาด NASDAQ อย่างเช่น Aurora Cannabis,Tilray,Cronos Group,Village Farms และ Canopy Growth Corp หุ้นที่มีขนาดใหญ่ที่สุดคือ Aphria Inc ซึ่งจดทะเบียนอยู่ในตลาดหุ้นแคนาดาและ NASDAQ
ทั้งนี้บริษัทที่เกี่ยวข้องกับกัญชามีตั้งแต่การเป็นผู้ผลิตต้นน้ำ ผู้แปรรูปกลางน้ำและปลายน้ำ รวมถึงธุรกิจที่นำมากัญชามาผลิตเป็นสินค้า
กระแสเนื้อสัตว์ทดแทนจากพืช
การกินเนื้อสัตว์ทดแทนจากพืชหรือ Plant-Based กำลังเป็นที่นิยมทั่วโลกจากเทรนด์ดูแลสุขภาพและใส่ใจในอาหารการกิน จากที่บริโภคเนื้อสัตว์ก็เริ่มมองหา สิ่งอื่นมาท ฃดแทนแต่ได้คุณประโยชน์ เช่น เนื้อบด สเต็ก หรือไส้กรอก ซึ่งเหล่านี้ทำมาจากพืชแต่รูปร่างหน้าตาสีสันค่อนข้างคล้ายคลึงกับเนื้อสัตว์ดั้งเดิมนั่นเอง
โดยหุ้นที่เกี่ยวข้องกับ Plant Based ที่เป็นผู้นำก็คือ Beyond Meat จดทะเบียนอยู่ในตลาด NASDAQ โดยนอกจากทำตลาดหลักในสหรัฐอเมริกาแล้วยังมีการขยายช่องทางขายไปยังภูมิภาคอื่นอย่างเอเชียและยุโรปแล้ว
แม้การเติบโตของเนื้อสัตว์ทดแทนจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่องแต่ปัจจัยที่จะตัดสินว่าจะเข้าสู่ตลาดแมสได้หรือไม่นั่นคือราคาขายที่ตอนนี้ยังมีราคาแพงอยู่ แต่ถ้าราคาเริ่มใกล้เคียงกับเนื้อสัตว์รูปแบบปกติก็จะช่วยให้ความนิยมใน Plant Based เพิ่มสูงขึ้น
 
ถ้าหากสนใจลงทุนใน ETF ที่เกี่ยวกับเนื้อสัตว์ทดแทนคือ the VanEck Future of Food ETF หรือ YUMYและ VegTech Plant-based Innovation & Climate ETF หรือ EATV
วิเคราะห์การเติบโตของหุ้นกลุ่มกัญชา
การที่กัญชาถูกนำไปใช้ในหลากหลายธุรกิจทำให้ความต้องการใช้งานกัญชาเพิ่มสูงขึ้นนอกจากนี้หลายประเทศกำลังปลดล๊อกให้กัญชาเป็นสิ่งถูกกฎหมายทำให้หุ้นในกลุ่มนี้มีแนวโน้มการเติบโต
อย่างไรก็ตามกัญชายังต้องถูกกระแสต่อต้านจากคนบางกลุ่มที่ไม่เห็นด้วยกับการเปิดเสรี ประกอบกับการที่มีผู้ผลิตหน้าใหม่เข้ามาในตลาดทำให้ซัพพลายออกสู่ตลาดมาเกินไปจนทำให้ราคาขายตกลง
จุดเด่น
** หลายประเทศทั่วโลกกำลังปลดล๊อกให้กัญชาถูกกฎหมายและใช้งานเชิงพาณิชย์ได้
** กัญชาสามารถนำไปผลิตได้ทั้งอาหารและยาที่หลากหลายทำให้ตลาดเติบโตขึ้น
จุดอ่อน
** กระแสต่อต้านการใช้กัญชายังคงมีอยู่ในหลายประเทศ
** การเร่งเพาะปลูกในช่วงก่อนหน้านี้ทำให้ซัพพลายของกัญชาออกสู่ตลาดมากเกินไปจนส่งผลต่อราคาขาย
หุ้นกลุ่มกัญชา แม้ว่าจะมีแนวโน้มเติบโตในระยะยาวแต่ยังมีความเสี่ยงอีกมากจากกระแสต่อต้านและความผันผวนของการเพาะปลูก ผู้ลงทุนอาจต้องจับจังหวะที่วัฐจักรของราคากลับมาเป็นขาขึ้นเสียก่อนที่จะเข้าลงทุน
โฆษณา