27 ต.ค. 2022 เวลา 15:00 • ข่าวรอบโลก
รู้จักผู้มาเยือนดอนเมืองวันนี้ “โรงพยาบาลดวงตาลอยฟ้า” หนึ่งเดียวในโลก...โครงการ Orbis ที่เดินทางรักษาดวงตาคนทั่วโลกมาแล้วกว่า 40 ปี
วันนี้มีอีกหนึ่งเครื่องบินสุดแปลกที่ไม่ได้จะเห็นกันได้บ่อยๆมาเยือนท่าอากาศยานดอนเมือง นั่นคือเครื่องบินแบบ McDonnell Douglas MD-10-30F ทะเบียน N330AU ทำการบินในเที่ยวบิน ORBIS1 จากท่าอากาศยานกวม สหรัฐอเมริกา มาแวะพักยังท่าอากาศยานดอนเมือง ประเทศไทย เป็นเวลาสั้นๆในวันนี้ โดยเป็นการแวะพักเพื่อเติมน้ำมัน ก่อนบินต่อไปยังโดฮา ประเทศกาตาร์ ในช่วงเย็นที่ผ่านมา เครื่องบินลำนี้มีที่มาอย่างไร รวมถึงเรื่องราวของเจ้าของเครื่องบินลำนี้มีความน่าสนใจอย่างไร ลองไปติดตามกัน...
📌เครื่องบินแบบ McDonnell Douglas MD-10-30
เครื่องบินแบบ MD-10 เป็นเครื่องบินที่ Boeing ทำการปรับปรุง McDonnell Douglas DC-10 ภายหลังจากการควบรวมกิจการ McDonnell Douglas เข้ามา ที่เห็นได้ชัดเจนคือการปรับห้องนักบินให้เป็นแบบ Glass Cockpit ทำให้ลดจำนวนนักบินจาก 3 เหลือ 2 คน
ห้องนักบินของ McDonnell Douglas MD-10-30F
สำหรับ MD-10 ลำในภาพนี้นี้ มีการส่งมอบครั้งแรกให้กับสายการบิน Trans International Airlines ในปี 1973 ก่อนที่จะเปลี่ยนมือไปกับหลายสายการบิน ทั้งในสหรัฐอเมริกา ไนจีเรีย สุดท้ายถูกดัดแปลงให้เป็นเครื่องบินขนส่งสินค้า ก่อนอยู่กับ FedEx ตั้งแต่ปี 1984 ก่อนที่จะมีการบริจาคตัวเครื่องให้กับโครงการ Orbis ที่เรากำลังจะกล่าวถึงต่อไป
📌ประวัติของโครงการ Orbis อีกหนึ่งโครงการที่ไม่เหมือนใครในโลก
โครงการนี้ดำเนินการภายใต้องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร Orbis International ที่ก่อตั้งอย่างเป็นทางการในปี 1982 ด้วยความร่วมมือจาก องค์การเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกา (United States Agency for International Development – USAID) และผู้บริจาคบุคคลหลายราย
วัตถุประสงค์ของโครงการนี้ มีเป้าหมายหลักในการรักษา และให้ความรู้ด้านจักษุวิทยาให้กับพื้นที่ต่างๆทั่วโลก โดยเริ่มต้นมาจากความคิดของจักษุแพทย์ชาวอเมริกัน Dr. David Paton ตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1960 ที่เล็งเห็นถึงการขาดการดูแลดวงตาและความรู้เกี่ยวกับโรคตาในประเทศกำลังพัฒนา ทำให้ประเทศเหล่านั้นมีภาวะตาบอดของผู้คนอย่างแพร่หลาย แต่แหล่งความรู้ยังมีจำกัด รวมทั้งค่าเล่าเรียนที่สูง ทำให้บุคลากรทางการแพทย์ส่วนใหญ่ในประเทศที่มีรายได้น้อยไม่สามารถเดินทางมาสหรัฐอเมริกาเพื่อรับการฝึกอบรมได้
Dr. David Paton ผู้เล็งเห็นถึงการขาดการดูแลดวงตาและความรู้เกี่ยวกับโรคตาในประเทศกำลังพัฒนา
โครงการ Orbis เริ่มขึ้นในปี 1973 โดยเป็นการส่งแพทย์ไปให้ความรู้ในที่ต่างๆทั่วโลก ก่อนที่จะกลายมาเป็น “โรงพยาบาลและศูนย์การเรียนรู้ลอยฟ้า” ในปี 1982
📌เครื่องบินของโครงการ
เครื่องบินลำแรกของโครงการในปี 1982 คือเครื่องบินแบบ Douglas DC-8-21 ทะเบียน N220RB ที่ได้รับบริจาคมาจาก United Airlines ก่อนที่จะใช้งานประมาณ 10 ปี จึงได้จัดหา McDonnell Douglas DC-10 ทะเบียน N220AU มาใช้งานแทน เนื่องจากมีขาดลำตัวที่กว้างกว่า สามารถบรรทุกอุปกรณ์ทางการแพทย์ รวมถึงดัดแปลงให้มีห้องผ่าตัดระดับเดียวกับในโรงพยาบาล
เครื่องบินลำแรกของโครงการในปี 1982 คือเครื่องบินแบบ Douglas DC-8-21 ทะเบียน N220RB ที่ได้รับบริจาคมาจาก United Airlines ก่อนที่จะใช้งานประมาณ 10 ปี ปัจจุบันถูกจัดแสดงไว้ที่พิพิธภัณฑ์การบินจีน กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ภาพจาก https://www.abcdlist.nl/photo/dc8/n220rb.html
หลังจากนั้นในปี 2008 ก็เปลี่ยนเครื่องบินอีกครั้ง เป็นรุ่น McDonnell Douglas DC-10 เช่นเดิม โดยมีทะเบียน N220AU บริจาคโดย United Airlines ก่อนที่ในปี 2012 จะเปลี่ยนเป็นเครื่องบินลำล่าสุดที่มาเยือนดอนเมืองในวันนี้นั่นเอง
ปัจจุบันเครื่องบินลำแรกของโครงการอย่าง Douglas DC-8-21 ทะเบียน N220RB ถูกจัดแสดงไว้ที่พิพิธภัณฑ์การบินจีน กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน
📌ความสำคัญของโครงการนับถึงปัจจุบัน
ปัจจุบัน Orbis Flying Hospital ยังคงทำภารกิจเพื่อมนุษยธรรมทั่วโลก โดยใช้เครื่องบินลำดังกล่าว ที่ติดตั้งอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัย รวมถึงห้องผ่าตัดที่สามารถรักษาอาการทางจักษุได้แทบทุกอาการ เดินทางไปยังประเทศต่างๆทั่วโลก ทั้งเพื่อรักษา และยังไปให้ความรู้กับบุคลากรทางการแพทย์ของประเทศนั้น ๆ ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยระดับโลก
ข้อมูลจากรายงานประจำปี 2021 ของ Orbis ระบุว่า มีคนกว่า 3.6 ล้านคน ผ่านการตรวจและรักษาดวงตาจาก Orbis มีการผ่าตัดที่เกี่ยวกับดวงตาไปกว่า 22,000 ครั้ง และตัดแว่นสายตาไปเกือบ 100,000 ชิ้น ให้ยา Azithromycin เพื่อป้องกันการติดเชื้อในดวงตาไปกว่า 12 ล้านโดส
สำหรับใครที่สนใจ สามารถบริจาคสมทบทุนโครงการได้ที่ https://www.orbis.org/en/how-you-can-help
โฆษณา