ชัยชนะของฝ่ายซ้ายในบราซิล เป็นความหวังในการกอบกู้วิกฤตสภาพภูมิอากาศ
1 พ.ย. - ชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีของนายลูอิส อินาซิโอ ลูลา ดาซิลวา ในบราซิลเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (31 ต.ค.) กระตุ้นให้เกิดความหวังในการฟื้นฟูป่าดิบชื้นที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง "ป่าแอมะซอน" นายลูลายังให้คำมั่นสัญญาว่าจะต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ (Climate Change) และยกเลิกนโยบายทำลายสิ่งแวดล้อมบางอย่างของอดีตผู้นำฝ่ายขวา
บราซิลจะต้องกลับมาเป็นผู้นำในการต่อสู้กับสภาพภูมิอากาศ
ลูอิส อินาซิโอ ลูลา ดาซิลวา ว่าที่ประธานาธิบดีบราซิล
นายลูลาซึ่งเคยดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีครั้งแรกระหว่างปี 2003 - 2010 และกำลังจะดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีครั้งที่ 2 ในเดือนมกราคม 2023 ที่จะถึงนี้ ประกาศความตั้งใจของเขาในการฟื้นฟูสถานะป่าดิบชื้นที่เปรียบเสมือน "ปอด" ของโลกให้กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง หลังจากถูกทำลายอย่างต่อเนื่องภายใต้การควบคุมของอดีตผู้นำฝ่ายขวา "ฌาอีร์ โบลโซนารู" ซึ่งเป็นคู่แข่งของเขาในการเลือกตั้ง
นโยบายของนายโบลโซนารูอนุญาตให้บริษัทเอกชนเข้าไปทำกิจการเหมือนแร่และโครงการพัฒนาที่ดินอื่นๆ อีกหลายร้อยแห่งในพื้นที่ป่าแอมะซอน มีรายงานการตัดไม้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในสมัยของเขา
กลุ่มสิ่งแวดล้อม กลุ่มสิทธิมนุษยชนและกลุ่มคุ้มครองชนพื้นเมืองภายในบราซิล กลายเป็นศัตรูตัวฉกาจของนายโบลโซนารู เพราะเขาถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ยินยอมให้มีการตัดไม้ทำลายป่า ยินยอมให้เกิดการกดขี่ ไล่ที่ ก่อความรุนแรงกับชนพื้นเมืองที่เคยอาศัยอยู่ในป่าแอมะซอนมาตั้งแต่สมัยก่อน
Greenpeace และ Human Rights Watch ต่างเรียกร้องให้นายลูลาต้องทำตามคำมั่นที่เขาให้ไว้ ต้องก่อตั้งหน่วยงานที่ทำหน้าที่ปกป้องสิ่งแวดล้อมโดยตรงขึ้นอย่างเร่งด่วน แก้ไขปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนของชนพื้นเมืองที่ถูกบังคับใช้กฎหมายอย่างไม่เป็นธรรมในสมัยอดีตผู้นำฝ่ายขวา ซึ่งบราซิลเป็นบ้านของชนพื้นเมืองราว 800,000 คน จากมากกว่า 300 กลุ่มชนที่มีรายละเอียดแตกต่างกัน ตามข้อมูลจากการสำรวจสำมะโนประชากรในปี 2010
สภามิชชันนารีชนพื้นเมืองในบราซิลเผยว่าเฉพาะปี 2021 มีการบันทึกจำนวนคดีความมากกว่า 305 คดีที่เกี่ยวข้องกับ "การบุกรุก การแสวงประโยชน์จากทรัพยากรอย่างผิดกฎหมาย" ซึ่งเกิดขึ้นกับชนพื้นเมืองที่ใช้ชีวิตอยู่ในป่าแอมะซอนมาเป็นเวลาช้านาน ส่งผลกระทบต่อ 226 กลุ่มชนในพื้นที่ 22 รัฐทางตอนเหนือและตะวันตกของบราซิล
Carbon Brief เว็บไซต์สภาพภูมิอากาศในสหราชอาณาจักรรายงานว่าชัยชนะของฝ่ายซ้ายบราซิลในครั้งนี้ อาจทำให้การตัดไม้ทำลายป่าลดลงถึง 89% และจะป้องกันการทำลายป่าได้มากถึง 75,960 ตารางกิโลเมตร
อย่างไรก็ตาม นายลูลา อาจไม่ได้ทำงานอย่างง่ายดายเหมือนการดำรงตำแหน่งในครั้งก่อน เนื่องจากเขาต้องเผชิญหน้ากับกลุ่มเอกชนที่ดำเนินธุรกิจอยู่ในพื้นที่ห่างไกลซึ่งอิทธิพลของรัฐบาลอาจไม่มีความสำคัญมากพอ ซึ่งกลุ่มเอกชนเหล่านี้เป็นฐานเสียงสำคัญให้กับอดีตผู้นำฝ่ายขวา ผู้ที่เอื้อประโยชน์ให้กับพวกเขา
ธุรกิจการเกษตรมีท่าทีต่อต้านนายลูลาอย่างชัดเจน หลังผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการถูกประกาศในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (31 ต.ค.) กลุ่มคนขับรถบรรทุกหลายรายได้ออกมาประท้วงจอดรถปิดกั้นทางหลวงใน 5 รัฐทางตอนใต้ หลังทราบว่าผู้นำฝ่ายขวาของพวกเขาประสบความพ่ายแพ้
ผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศกล่าวว่า นายลูลาซึ่งได้รับชัยชนะด้วยคะแนนเพียง 50.9% จะต้องทำงานอย่างหนักเพื่อสร้างสมดุลการเมืองและสร้างความปรองดองในประชาชนชาวบราซิล ขณะที่คู่แข่งของเขานายโบลโซนารู ได้รับชัยชนะไปด้วยคะแนน 49.1% ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการเมืองบราซิลถูกแบ่งเป็น 2 ขั้วอย่างชัดเจน
- 1
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
