3 พ.ย. 2022 เวลา 01:00 • ข่าวรอบโลก
‘ฟักทอง’ สีส้มอร่าม ที่มาพร้อมกับแสงไฟและใบหน้าปีศาจ ถือเป็นสัญลักษณ์ที่ขาดไม่ได้ในเทศกาลฮาโลวีน
บ้านทุกหลังจะต้องมีเจ้าหัวฟักทอง Jack-o’-lantern ประดับประดา
ก่อนที่ในที่สุด จะกลายเป็นขยะของเทศกาล ถูกทิ้งอยู่ในหลุมฝังกลบ
เว้นแต่ในบางกรณี ชุมชนบางแห่ง นึกหวังดี ไม่อยากให้ฟักทองที่ซื้อหามาเสียของกลายเป็นขยะหมักหม่มจนเกิดก๊าซมีเทน จึงหาทางออกด้วยการนำไปทิ้งในป่า หวังให้สัตว์ป่าได้ใช้ประโยชน์อีกทอดหนึ่ง
เรื่องนี้ฟังเหมือนดี แต่ผลลัพท์ที่ได้กลับเป็นเรื่องตรงกันข้าม
ในฝั่งตะวันออกของอังกฤษ ที่ลิงคอล์นเชอร์ หมู่บ้านตามชนบทมักนำฟักทอง Jack-o’-lantern ไปทิ้งไว้ในป่าเป็นประจำทุกปี
จากการศึกษา Woodland Trust องค์กรการกุศลด้านการอนุรักษ์ป่าไม้ของสหราชอาณาจักร พบว่า ฟักทองที่ถูกทิ้งไว้มีส่วนทำให้ ‘เฮดจ์ฮอก’ ป่วยเพิ่มมากขึ้น
‘เฮดจ์ฮอก’ เป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็ก มีลักษณะทั่วไปเหมือนกับเม่น แต่ขนาดเล็กกว่า เป็นสัตว์หากินกลางคืน และชอบกินแมลงเป็นอาหารหลักมากกว่า
ส่วนฟักทองที่ไม่ใช่พืชป่า ถือเป็นสิ่งแปลกปลอม และไม่ใช่อาหารแต่ดั้งเดิมของพวกมัน
‘เฮดจ์ฮอก’ ที่เผลอกินฟักทองเข้าไปมักมีอาการท้องเสีย ประสบภาวะขาดน้ำ ทำให้ร่างกายอ่อนแอ และส่งผลต่อการเอาตัวรอดในช่วงจำศีล
1
เช่นเดียวกับ แบดเจอร์ กวาง และหมูป่า ก็ได้รับผลกระทบจากการทานฟักทองด้วยเช่นกัน
แม้โดยธรรมชาติฟักทองจะไม่เป็นพิษต่อสัตว์อย่างรุนแรง แต่เนื้อผลไม้ที่เป็นเส้นๆ สามารถทำให้สัตว์มีอาการปวดท้องและท้องร่วงได้
นอกจากนี้ ฟักทองที่ถูกทิ้ง หลายๆ ลูก มักมีเศษเทียนไข หรือเครื่องประดับอื่นๆ ติดอยู่ด้วย - สิ่งเหล่านี้สามารถฆ่าสัตว์ได้โดยตรง - เมื่อสิ่งแปลกปลอมถูกกลืนลงท้อง
Woodland Trust ยังอธิบายเพิ่มเติมด้วยว่า ระบบนิเวศของป่าจะได้รับความเสียหายเมื่อฟักทองที่ถูกทิ้งให้เน่า ส่งผลเสียต่อดิน พืช และเชื้อรา
และฟักทองยังดึงดูดหนูให้เข้าไปรุกรานป่าเพิ่มมากขึ้น
นักอนุรักษ์ กล่าวว่า ไม่แน่ใจนักว่าความเชื่อนี้ริเริ่มมาจากไหน แต่มันได้ถูกส่งต่ออย่างรวดเร็วในโลกโซเชียลมีเดีย ทำให้เกิดผู้หวังดี (แต่เข้าใจผิด) นำฟักทองไปทิ้งไว้ตามป่าเป็นจำนวนมาก
คาดว่าช่วงฮาโลวีนที่ผ่านมา จะมีฟักทองมากกว่า 8 ล้านชิ้นถูกนำไปทิ้งไว้ในป่า
Woodland Trust อธิบายว่า การกำจัดฟักทองนั้น ควรเริ่มจากการคว้านเนื้อ เอามาใช้ประโยชน์ให้มากที่สุดก่อนนำมาทำตะเกียง Jack-o’-lantern หรือควรนำไปทำเป็นปุ๋ยหมักจะดีกว่า
อนึ่ง ฟักทองเป็นผักตระกูลฟักชนิดหนึ่ง ถูกพบครั้งแรกในทวีปอเมริกา และมักขึ้นในแถบของอเมริกากลางและเม็กซิโก
ชนพื้นเมืองอเมริกันนำเมล็ดฟักทองไปยังพื้นที่ต่างๆ ทางอเมริกาเหนือ ทำให้พืชพันธุ์เริ่มแพร่กระจายไปทั่วทั้งทวีป
ในยุคที่โคลัมบัสพบทวีปอเมริกา เขาได้นำเมล็ดพันธุ์ฟักทองกลับมายังยุโรป แต่ด้วยสภาพภูมิอากาศต่างๆ จึงไม่เอื้อต่อการเจริญเติบโตของฟักทองเท่าไหร่นัก
ฌัก การ์ตีเย นักสำรวจชาวฝรั่งเศสผู้ค้นพบและบุกเบิกแคนาดา พบฟักทองครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1584 ในตอนนั้นเขาเรียกฟักทองว่า เฟปอน (pepons) ซึ่งเป็นคำภาษากรีกแปลว่า แตงขนาดใหญ่
แต่เมื่อเวลาผ่านไปเขาก็เปลี่ยนชื่อมันเป็นฟักทอง
อ้างอิง
Don't leave Halloween pumpkins in woodlands, people warned https://shorturl.asia/tWvKa
10 ways to help wildlife in autumn https://shorturl.asia/Zs6p9
โฆษณา