4 พ.ย. 2022 เวลา 11:33 • ข่าวรอบโลก
UNSC มีมติไม่รับคำร้องให้สอบสวนการพัฒนาอาวุธชีวภาพในยูเครน
สำนักข่าว Al Arabiya รายงานเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2565 ว่า คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (United Nations Security Council : UNSC) มีมติไม่รับคำร้องให้สอบสวนสหรัฐอเมริกา ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการพัฒนาอาวุธชีวภาพในยูเครน โดยรัสเซียและจีนลงมติสนับสนุนร่างข้อเรียกร้องดังกล่าว ขณะที่ฝรั่งเศส สหรัฐอเมริกา และสหราชอาณาจักร ออกเสียงคัดค้านมติ ส่วนสมาชิก UNSC ไม่ถาวร อีก 10 ประเทศ งดออกเสียง
นับเป็นความล้มเหลวอีกครั้งของรัสเซีย ในความพยายามบอกต่อชาวโลกว่า สหรัฐอเมริกาได้ร่วมมือกับยูเครนพัฒนาอาวุธชีวภาพบริเวณชายแดนยูเครน-รัสเซีย อย่างไรก็ตาม ผู้แทนรัสเซียประจำสหประชาชาติแจ้งว่าจะยกประเด็นนี้เข้าสู่การประชุมทบทวนอนุสัญญาห้ามอาวุธชีวะ (Biological Weapons Convention : BWC) อีกครั้งระหว่างวันที่ 28 พฤศจิกายน - 16 ธันวาคม 2565 ที่กรุงเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์
อนุสัญญา BWC มีสาระสำคัญคือ ห้ามรัฐภาคีพัฒนา ผลิต สะสมอาวุธชีวะ และต้องทำลายอาวุธชีวะในครอบครองด้วย โดยอนุสัญญาฉบับนี้มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปี 2518 แต่ในทางปฏิบัติ อนุสัญญา BWC กลับไม่มีประสิทธิภาพที่จะบังคับใช้ เนื่องจากไม่มีระบบควบคุม ภายใต้การตรวจสอบควบคุมระหว่างประเทศที่เป็นกลางและไม่เลือกปฏิบัติ ตัวอย่างเช่น
❌สหรัฐอเมริกา เข้าร่วมเป็นภาคีในปี 2515 ประธานาธิบดีนิกสันได้ยุติโครงการพัฒนาอาวุธชีวภาพ และประกาศว่าจะไม่ใช้อาวุธชีวภาพ แต่สหรัฐอเมริกาก็ปฏิเสธที่จะลงนามในข้อตกลงระหว่างชาติที่ให้ทำลายอาวุธชีวภาพในครอบครอง โดยให้เหตุผลว่า เป็นการทำลายผลประโยชน์ของสหรัฐอเมริกา และจะทำให้ข้อมูลทางธุรกิจที่เป็นความลับเสียหายได้
และต่อมาสหรัฐอเมริกายังได้จัดตั้งหน่วยงานของกองทัพบกชื่อ Medical Research Institute of Infectious Diseases : USAMRID เพื่อดำเนินโครงการพัฒนาทางการแพทย์ในการป้องกันการโจมตีด้วยอาวุธชีวะ มีการศึกษาเชื้อโรคร้ายแรงที่ต้องมีมาตรการป้องกันอันตรายอย่างสูงในห้องทดลอง
❌รัสเซีย ถือเป็นประเทศมหาอำนาจที่มีคลังแสงอาวุธชีวภาพที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีโครงการผลิตอาวุธชีวภาพอย่างลับ ๆ มาตั้งแต่ปี 2516 และมุ่งพัฒนาสารพิษที่ไม่มีประวัติการรักษาได้ ซึ่งเมื่อรัสเซียได้ลงนามในอนุสัญญาห้ามอาวุธชีวะ ในปี 2535 ก็ได้อ้างว่าจะยกเลิกโครงการด้านอาวุธชีวภาพ และยืนยันการทำลายระบบต่าง ๆ ของโครงการด้วย แต่ก็ยังเป็นที่เคลือบแคลงว่าจะมีการแอบซ่อนงานวิจัยอาวุธเคมี-ชีวภาพ ในรูปแบบงานวิจัยอื่น ๆ ทางสันติหรือไม่
❌จีน ได้ลงนามเป็นภาคีของ BWC ตั้งแต่ปี 2527 แต่ก็เชื่อว่ามีการสะสมอาวุธชีวภาพเพื่อเชิงรุกมาตั้งแต่ปี 2523 และน่าจะมีการพัฒนาผลิต รวมทั้งสะสมอาวุธชีวภาพ เนื่องจากจีนมีงานวิจัยทางชีววิทยาในศูนย์วิจัย 2 แห่ง ที่บริหารโดยพลเรือน แต่ควบคุมดูแลโดยฝ่ายทหาร
รัสเซียถูกกล่าวหาว่า พยายามเผยแพร่ทฤษฎีสมคบคิด เรื่องห้องทดลองลับในยูเครน โดยนายนิโคไล ปาตรูเชฟ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติรัสเซียกล่าวว่า ห้องทดลองอาวุธชีวภาพของสหรัฐอเมริกาในยูเครน สร้างอันตรายต่อทหารรัสเซีย และเชื่อว่ามีห้องทดลองที่สหรัฐอเมริกาสร้างขึ้นทั่วยูเครนมากกว่า 30 แห่ง ซึ่งการปฏิบัติการพิเศษทางทหารของรัสเซียในยูเครน พบข้อเท็จจริงหลายอย่างที่ยืนยันว่ามีห้องทดลองที่ใช้ในการพัฒนาอาวุธชีวภาพ และมีการจัดส่งอาวุธเหล่านั้นจริง ซึ่งแน่นอนสหรัฐอเมริกาได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าวของรัสเซีย
แต่กลับมีการเผยแพร่คลิปวีดีโอสั้นที่สมาชิกวุฒิสภา มาร์โก รูบิโอ (Marco Rubio) ตั้งคำถามต่อ วิกตอเรีย นูแลนด์ (Victoria Nuland) ปลัดกระทรวงกิจการการเมือง กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐอเมริกา ว่า "ยูเครนมีอาวุธเคมีหรืออาวุธชีวภาพหรือไม่" นางนูแลนด์ กล่าวว่า "ยูเครนมี สิ่งอำนวยความสะดวกด้านการวิจัยทางชีวภาพ (Biological Research Facilities) ซึ่งตอนนี้เราเป็นกังวลว่ากองกำลังรัสเซียจะควบคุมที่นั่นไว้ได้ ขณะนี้เราทำงานร่วมกับยูเครนในการป้องกันวัสดุการวิจัย (Research Materials) ไม่ให้ตกไปอยู่ในมือของรัสเซีย
แถลงการณ์ของสถานทูตสหรัฐอเมริกาในยูเครนระบุว่า โครงการในยูเครนนั้น มีขึ้นเพื่อรวบรวมและเก็บตัวอย่างเชื้อโรคและสารพิษต่าง ๆ เพื่อระบบจัดการโรคระบาดที่เกิดจากเชื้อโรคอันตราย ซึ่งจะสร้างภัยคุกคามด้านความมั่นคง โดยโครงการวิจัยดังกล่าวได้รับเงินทุนจากสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป และองค์การอนามัยโลก
นอกจาก "อาวุธชีวภาพ" ที่รัสเซียใช้เป็นกระแสโจมตีสหรัฐอเมริกาและยูเครนแล้ว เรื่อง "อาวุธเคมี" ก็กำลังเป็นที่กังวลใจของประชาคมโลก เนื่องจากกระทรวงกลาโหมรัสเซียออกมากล่าวหาว่า ยูเครนอาจใช้ "dirty bomb" หรือระเบิดกัมมันตรังสี ในการทำสงครามกับรัสเซีย ซึ่ง dirty bomb นั้น แม้จะไม่ใช้วัสดุอย่างที่ใช้ในการผลิตอาวุธนิวเคลียร์ แต่ก็มีวัสดุกัมมันตรังสี เช่น ยูเรเนียม รวมอยู่ด้วย และด้วยส่วนประกอบมีใช้อยู่ในอุปกรณ์การแพทย์ที่ใช้ในโรงพยาบาล โรงไฟฟ้า หรือห้องแล็บ จึงสามารถนำมาทำ dirty bomb ได้ง่ายและมีราคาถูก
และนี่ก็เป็นอำนาจวาทกรรม ของคู่สงคราม ซึ่งปัจจุบันอาศัยกระแสสื่อใน Social Network เป็นหลักโดยเฉพาะใน Weibo และเป็นที่น่าสนใจว่า การที่เฟซบุ๊ก (Meta) ทำการปิดกั้นการเข้าถึงบัญชีโซเชียลมีเดีย ทั้งเฟซบุ๊กและอินสตาแกรมของ รัสเซีย ทูเดย์ (Russia Today) และเพจสปุตนิก (Sputnik) ของรัสเซีย ทำให้ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง และประธานาธิบดี วลาดีมีร์ ปูติน กระชับความร่วมมือด้านสื่อกันแนบแน่นยิ่งขึ้น นอกเหนือจากที่ได้จัดให้มีการประชุมสื่อจีน-รัสเซีย ทุกปี
ประธานาธิบดี ปูติน เคยกล่าวว่า "Weibo ถูกสร้างขึ้นเพื่อทำลายการผูกขาดของแองโกล-แซกซอนในกระแสข้อมูลทั่วโลก"
ข้อมูลบางส่วนจาก : สำนักข่าวรอยเตอร์ส, Al Arabiya และVOA
1
โฆษณา