#ญี่ปุ่นต้องยอมปูติน
#เพื่อรักษาหุ้นท่อส่งก๊าซ Sakhalin-1
รัฐบาลญี่ปุ่นได้ยืนยันแล้วว่า ทางญี่ปุ่นยังคงถือหุ้นในโครงการท่อก๊าซ Sakhalin-1 ร่วมกับบริษัทน้ำมันของรัสเซียต่อ ด้วยสัดส่วน 30% หลังจากที่รัฐบาลรัสเซียได้ปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้น และยึดหุ้นของ Exxon-Mobil บริษัทน้ำมันจากสหรัฐกว่า 30% กลับคืนเป็นของรัฐเมื่อช่วงเดือนตุลาคม 2022 ที่ผ่านมา
นิชิมุระ ยาสุโทชิ รัฐมนตรีอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า ทางกลุ่มบริษัทน้ำมันของญี่ปุ่น หรือ SODECO ได้ตัดสินใจที่ถือหุ้นส่วนลงทุนในโครงการ Sakhalin-1 30% ตามเงื่อนไขใหม่ของรัฐบาลรัสเซีย โดยรัฐมนตรี นิชิมุระ กล่าวย้ำว่า Sakhalin-1 เป็นโครงการที่สำคัญมากที่จะช่วยรักษาเสถียรภาพด้านพลังงานของญี่ปุ่นได้
ซึ่งทาง SODECO ต้องรีบตอบรับเงื่อนไขใหม่ของรัฐบาลรัสเซียภายในวันที่ 11 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้ ที่เป็นเส้นตายในการยืนยันคำตอบสุดท้าย (มิฉะนั้น หุ้นที่ทางบริษัทญี่ปุ่นเคยถือไว้ตามเงื่อนไขสัญญาเดิมก็จะถูกยึด เช่นเดียวกับที่ Exxon-Mobil โดนมาแล้ว)
การตัดสินใจตอบรับเงื่อนไขใหม่ของรัสเซีย ทางรัฐบาลญี่ปุ่นก็ต้องรับรู้ และเห็นชอบแล้วด้วย เพราะรัฐบาลญี่ปุ่นถือหุ้นในกลุ่ม SODECO อยู่ถึง 50% นั่นหมายความว่า ญี่ปุ่นเตรียมใจยอมรับความเสี่ยงในการลงทุนธุรกิจพลังงานในรัสเซีย ในขณะที่บริษัทน้ำมันชาติตะวันตกอื่นๆถอยหมด หลังจากกรณีข้อพิพาทรัสเซีย-ยูเครน และ มาตรการคว่ำบาตรจากชาติมหาอำนาจตะวันตกที่เตรียมจัดให้แบบสุดซอย
และไม่ใช่เฉพาะโครงการท่อส่งก๊าซ Sakhalin-1 เท่านั้นที่ญี่ปุ่นยอมตกลงตามเงื่อนไขของปูติน แต่ยังมีโครงการ Sakhalin-2 ที่เป็นโครงการคู่ขนานกัน ที่บริษัทญี่ปุ่นก็ยังขอถือหุ้นอยู่ หลังจากที่ปูตินได้ออกกฏหมายล้มกลุ่มบริษัทผู้ถือหุ้นรายเก่าหมด และยึดหุ้นมาจัดระเบียบใหม่ ที่ทำให้ Shell ที่เคยถือหุ้นรายใหญ่สุดต้องบอกลาโดยไม่ได้อะไรเลย
แต่ Mitsubishi และ Mitsui กลุ่มบริษัทน้ำมันของญี่ปุ่นก็ยังยอมทำตามปูตินเพื่อรักษาหุ้นส่วนในโครงการ Sakhalin-2 โดยคณะรัฐบาลญี่ปุ่นออกมาพูดทำนองเดียวกันว่า ยังไงก็ต้องรักษาผลประโยชน์ของชาติ และความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศไว้ก่อนเป็นอันดับแรก
ญี่ปุ่น เป็นอีก 1 ประเทศที่มีความต้องการทางพลังงานสูง ซึ่งนำเข้าน้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ ทั้งจากตะวันออกกลาง และรัสเซีย
ก่อนหน้านี้ ENEOS โรงกลั่นน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น จำเป็นต้องระงับการนำเข้าน้ำมันจากอิหร่านตั้งแต่ปี 2019 เนื่องจากสหรัฐ ภายใต้การนำของโดนัลด์ ทรัมพ์ ออกกฏหมายคว่ำบาตรอิหร่าน รวมถึงชาติที่ทำธุรกรรมกับอิหร่าน เป็นเหตุให้ญี่ปุ่นต้องยอมถอยแม้ต้องขาดทุนก็ตาม
มาคราวนี้ในกรณีข้อพิพาทยูเครน ที่รัสเซียอาจเจอมาตรการคว่ำบาตรแบบอิหร่าน แต่ญี่ปุ่นกลับขอยอมเสี่ยงตาย ลงเรือลำเดียวกับปูติน แบบมาด้วยกัน ไปด้วยกัน Sakhalin เอ๋ย ถ้าได้ ก็ได้ด้วยกัน แต่ถ้าจะเจ๊ง ญี่ปุ่นอาจจะต้องกลับบ้านมือเปล่าตาม Shell และ Exxon หรือเปล่านะ🤔
****************
ติดตามบทความของ "หรรสาระ" เพิ่มเติมได้ที่
Facebook - หรรสาระ By Jeans Aroonrat
Tiktok - @HunsaraByJeans
และ Blockdit - หรรสาระ By Jeans Aroonrat
แพลทฟอร์มคุณภาพ ไม่ปิดกั้นการมองเห็นเนื้อหา
****************
แหล่งข้อมูล
- 31
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
