[วินทร์ เลียววาริณ] สงครามโลกครั้งที่ 1 อุบัติขึ้นในปี 1914 สิ้นสุดในปี 1918 ด้วยการเซ็นสัญญาสงบศึก (armistice) บนตู้โดยสารรถไฟคันหนึ่ง โดยที่ฝ่ายเยอรมันถูกบีบทุกข้อ ราคาของสงครามคือ 20 ล้านชีวิต ความตายจำนวนมากเกิดขึ้นท

สำรวจ
ลงทุน
คำถาม

มีบัญชีอยู่แล้ว?หรือ

•

23 พ.ย. 2022 เวลา 00:00 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์

สงครามโลกครั้งที่ 1 อุบัติขึ้นในปี 1914 สิ้นสุดในปี 1918 ด้วยการเซ็นสัญญาสงบศึก (armistice) บนตู้โดยสารรถไฟคันหนึ่ง โดยที่ฝ่ายเยอรมันถูกบีบทุกข้อ

ราคาของสงครามคือ 20 ล้านชีวิต ความตายจำนวนมากเกิดขึ้นที่ 'western front' คือสมรภูมิรบของฝ่ายเยอรมันกับฝรั่งเศส

หนังเกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่ 1 มีหลายเรื่อง แต่เรื่องที่โดดเด่นที่สุดเรื่องหนึ่งคือนวนิยายเรื่อง All Quiet on the Western Front ของ Erich Maria Remarque ตีพิมพ์ครั้งแรกในภาษาเยอรมันตั้งแต่ปี 1928 เคยสร้างเป็นหนังมาก่อนในปี 1930

ล่าสุดคือเวอร์ชั่นใหม่โดยผู้กำกับชาวเยอรมัน Edward Berger

เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 1 ดำเนินไปได้สามปี ชายหนุ่มนาม Paul Bäumer อาสาไปรบที่แนวหน้าด้วยความคิดแบบอุดมคติ รบเพื่อปิตุภูมิ แต่เมื่อเข้าสู่สมรภูมิจริง ภาพที่เขาเห็นกับประสบการณ์จริงที่เขาพบ ไม่ใช่อุดมคติโดยสิ้นเชิง มันคือการเผยตัวตนเลวร้ายทุกอย่างของมนุษยชาติ

All Quiet on the Western Front เวอร์ชั่นนี้ไม่ใช่หนัง หากคือประสบการณ์การเข้าสู่สงครามเอง

มืดหม่น อัดแน่นด้วยอารมณ์ เข้มข้นทุกท่อน

หนังยาวแต่ไม่มีตอนใดน่าเบื่อ ผู้กำกับรักษาจังหวะได้ดีเยี่ยม มุมกล้องดีเยี่ยม ภาพสวยงามและเรียลิสติกมาก ผมจำไม่ได้ว่าเคยเห็นหนังสงครามเรื่องไหนที่ถ่ายทอดละอองเลือดในอากาศในสมรภูมิเช่นเรื่องนี้

หนังเสนอภาพที่ขัดแย้ง ย้อนแย้ง ขันขื่น เช่น ภาพนายพลกินขนมปังกับกาแฟ ดื่มไวน์แดง ขณะที่ทหารในแนวหน้าคลุกน้ำโคลนขุ่นสีกาแฟ และหลั่งเลือดสีไวน์แดง

คนสั่งรบไม่ได้รบเอง

ฉากที่สะเทือนใจที่สุดฉากหนึ่งคือทหารแปลกหน้าสองคนฆ่ากัน โดยไม่มีความแค้นส่วนตัว แต่จำต้องฆ่ากัน เผยความรู้สึกทุกอย่างของทหารที่ร่วมรบในสงครามออกผ่านสีหน้า แววตา และคำขอโทษ แค่ฉากนี้ฉากเดียว หนังก็สมควรได้คะแนนเต็มแล้ว

All Quiet on the Western Front เวอร์ชั่นนี้ยอดเยี่ยมในทุกระนาบ เป็นสุดยอดแห่งหนังต่อต้านสงคราม มันแสดงให้เห็นความไร้สาระของสงคราม

สงครามโลกครั้งที่ 1 อุบัติขึ้นในปี 1914 สิ้นสุดในปี 1918 ด้วยการเซ็นสัญญาสงบศึกบนตู้โดยสารรถไฟขบวนหนึ่ง

22 ปีต่อมา ฮิตเลอร์ยาตราทัพสู่ปารีส สั่งให้หาตู้โดยสารรถไฟคันนั้น บังคับให้ฝรั่งเศสเซ็นยอมแพ้บนตู้โดยสารรถไฟตู้เดียวกัน แล้วระเบิดตู้โดยสารรถไฟนั้นทิ้ง

'western front' ของสงครามโลกครั้งที่ 2 ขยายไปทั่วโลก ราคาของสงครามคือ 80 ล้านชีวิตที่ทอดร่างบนโคลนสีกาแฟและเลือดสีไวน์แดง

เช่นเคย คนสั่งรบไม่ใช่คนออกรบ

ใครก็ตามที่สนับสนุนให้สงครามในยูเครนดำเนินต่อไป สมควรดูหนังเรื่องนี้ บางทีมันอาจช่วยละลายความคลั่งสงครามออกไปจากหัวใจได้บ้าง เพราะสงครามไม่มีความงาม ไม่มีเกียรติยศ ไม่มีวีรบุรุษ มีแต่ความไร้สาระ

10/10

Netflix

โฆษณา

ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน

ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน