11 พ.ย. 2022 เวลา 08:45 • ข่าวรอบโลก
Zero Covid จีนใกล้จบหรือยัง?
Blockdit Originals โดย ดร.อาร์ม ตั้งนิรันดร
1
ช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นช่วงเวลาที่มีข่าวลือแพร่สะพัดว่าจีนอาจถึงจุดที่ต้องพิจารณากลับลำนโยบาย Zero Covid ที่แสนเคร่งครัด แต่จนถึงบัดนี้ รัฐบาลจีนก็ยังคงนั่งยันนอนยันว่าจะยืนหยัดนโยบาย Zero Covid ในภาพใหญ่ต่อไป แม้จะมีการผ่อนคลายมาตรการลงบางส่วนในวันนี้ เช่น ลดจำนวนวันการกักตัวจากต่างประเทศ
6
จีนจากที่เคยเป็นประเทศ FIFO (First in First Out) จากวิกฤตโควิด กลับกลายมาเป็นประเทศ FILO (First in Last Out) จนถึงบัดนี้ก็ยังมองไม่เห็นชัดๆ ว่าจีนจะผ่อนคลายมาตรการโควิดอย่างเต็มที่กว่านี้ได้เมื่อไหร่
2
แนวโน้มคือ ใจรัฐบาลจีนน่าจะอยากยืนหยัดนโยบาย Zero Covid ในภาพใหญ่ต่อไปจนกว่าจะพ้นช่วงฤดูหนาว ซึ่งจะไปสิ้นสุดปลายเดือนกุมภาพันธ์ หากมีการผ่อนคลายมาตรการ ก็จะเป็นอย่างค่อยเป็นค่อยไปและอย่างระมัดระวัง สาเหตุง่ายๆ ก็คือ ลำบากอดทนมาถึงจุดนี้แล้ว จะมาเลิกทั้งหมดทันทีตอนกำลังจะเข้าสู่ฤดูหนาวที่เป็นช่วงโควิดระบาดหนักที่สุดไม่ได้
7
แถมการระบาดของโควิดในฤดูหนาวในยุโรปและสหรัฐฯ ที่ได้ตัดสินใจ “อยู่กับโควิด” มานานแล้ว ก็ยังมีความไม่แน่นอนสูง เชื้อจะกลับมาระบาดหนักเพียงใด จะมีการกลายพันธุ์ของเชื้อหรือไม่ เชื้อจะกลายพันธุ์ดุขึ้นไหม (ซึ่งไม่ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้) เพราะยิ่งมีการระบาดเป็นวงกว้าง โอกาสการกลายพันธุ์ของเชื้อก็มีสูงขึ้น
6
แต่ก็อาจเกิดปัจจัยไม่คาดคิดก่อนฤดูหนาว เช่น เกิดสถานการณ์ที่จีนถูกบังคับให้ต้องจำยอมเปิดเมืองเร็วขึ้น หลายคนมองว่าขณะนี้กำลังเข้าใกล้จุดวิกฤต การระบาดใหญ่ที่กวางเจา เมืองเอกของมณฑลกว่างตง ซึ่งเป็นขุมเศรษฐกิจสำคัญของจีน รัฐบาลจีนอาจต้องตัดสินใจว่า จะล็อคดาวน์กวางเจาอย่างดุดันเหมือนที่เคยทำกับเซี่ยงไฮ้หรือไม่ หรือจะใช้จุดนี้เป็นโอกาสที่จะค่อยๆ กลับทิศทางนโยบายเสียเลย
6
เอาเข้าจริง จีนจะเลิก Zero Covid อย่างเต็มที่ได้เมื่อไหร่ ผมไม่แน่ใจว่าแม้แต่ผู้นำจีนเองจะรู้คำตอบ เขาคงอยากรอดูสถานการณ์การระบาดในสหรัฐฯ ยุโรป และทั่วโลกในช่วงฤดูหนาวก่อน
หากการระบาดยังอยู่ในระดับปัจจุบัน อาจเป็นไปได้ว่าเมื่อพ้นช่วงฤดูหนาวของจีน ในต้นเดือนมีนาคมปีหน้า จีนจะเปิดเมืองได้เต็มที่ในช่วงนั้น หรืออย่างช้าที่สุดคือมิถุนายนปีหน้า
3
แต่หากการระบาดทั่วโลกในฤดูหนาวกลับมาหนักขึ้นและมีการกลายพันธุ์ของเชื้อรุนแรงขึ้น เราอาจจะเห็นการใช้มาตรการ Zero Covid ต่อเนื่องไปตลอดทั้งปีใหม่ ค.ศ. 2023 เลยก็ได้ แต่ภายใต้ฉากทัศน์นี้ จีนอาจเป็นประเทศที่สูญเสียน้อยที่สุด ท่ามกลางการสูญเสียหนักขึ้นจนอาจต้องกลับมามีมาตรการครั้งใหม่ในประเทศต่างๆ
5
ส่วนหากการระบาดไปในทิศทางที่อ่อนลงเรื่อยๆ และเชื้อกลายพันธุ์อ่อนลง จีนน่าจะมีความมั่นใจที่จะเปิดเมืองได้เร็วขึ้น กล่าวคือเมื่อพ้นฤดูหนาวก็น่าจะเปิดเมืองเต็มที่ได้อย่างรวดเร็ว
4
สรุปคือ หากการระบาดอยู่ในระดับเดิมหรืออ่อนลง ผมเชื่อว่าจีนน่าจะมีความพยายามผ่อนคลายให้เร็วที่สุดภายหลังพ้นฤดูหนาว โดยผมมีสามเหตุผลหลัก
ข้อแรก คือ จีนเริ่มมีเครื่องมือมากขึ้นที่ช่วยบรรเทาความรุนแรงของโรค จีนมีวัคซีน mRNA ของจีนเองที่อนุมัติให้ใช้แล้วที่อินโดนีเซียและกำลังจะอนุมัติให้ใช้ในจีน และมียารักษาโรคที่ผลิตโดยบริษัทจีนเองชื่อ Azvudine ซึ่งประสิทธิภาพไม่แพ้ยา Molnupiravir ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในประเทศต่างๆ
7
เมื่อนายกฯ เยอรมันเยือนจีนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ได้ประกาศข้อตกลงว่ารัฐบาลจีนกำลังจะอนุมัติการใช้วัคซีน mRNA ของ BioNTech ของเยอรมัน (ตัวเดียวกับ Pfizer) ให้กับคนต่างชาติที่อยู่ในจีน ซึ่งเป็นสัญญาณกลายๆ ว่าจีนคงจะทำพร้อมกับอนุมัติวัคซีน mRNA ของจีนเองด้วย
4
ข้อสอง คือ แรงกดดันในเรื่อง Zero Covid ต่อรัฐบาลกลางสูงขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นความไม่พอใจของประชาชนในเมืองใหญ่ ปัญหาการขาดงบประมาณของรัฐบาลท้องถิ่นที่เริ่มไม่สามารถสนับสนุนมาตรการตรวจเชื้ออย่างเข้มข้นและมาตรการล็อดดาวน์ได้อีกต่อไป ปัญหาเศรษฐกิจที่ชะลอตัวหนักขึ้น อันเนื่องมาจากคนชะลอการบริโภคและการลงทุน รอวันที่จีนเลิกล็อคเมือง
6
ข้อสุดท้าย คือ การกลับลำความคิดเห็นและความรู้สึกของประชาชนไม่ใช่เรื่องยากของรัฐบาลจีน ก่อนหน้านี้ หลายคนมองว่ารัฐบาลจีนดูจะกลับลำเรื่องนี้ได้ยาก เพราะเน้นมาตลอดว่าจะเอาชีวิตคนมาก่อนเศรษฐกิจ แล้วอย่างนี้จะเลิก Zero Covid โดยไม่เกิดวิกฤตศรัทธาได้อย่างไร
3
แต่ข้อเท็จจริงคือ ตอนนี้คนจีนไม่น้อยตั้งตาคอยให้เลิกนโยบาย ส่วนคนที่ยังสนับสนุนนโยบาย Zero Covid รัฐบาลจีนก็สามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับความอ่อนแรงของสายพันธุ์ รวมทั้งวัคซีนและยาที่พร้อมมากขึ้น ผมจึงค่อนข้างเชื่อว่า การเปิดเมืองของจีน หากจีนตัดสินใจจะเปิดเมื่อไหร่ จะสามารถทำได้เร็วและควบคุมกระแสได้ดีกว่าที่หลายคนคาดคิด
6
หลายคนถามว่าข่าวลือเรื่องการตั้งคณะกรรมการเตรียมเรื่องการเปิดเมือง หรือข่าวลือว่ามีการพูดคุยกันเรื่องนี้ในระดับผู้นำเป็นความจริงหรือไม่ แน่นอนครับว่าข่าวเหล่านี้ยืนยันไม่ได้
1
แต่หากคิดโดยทั่วไป คำถามเรื่องจะเปิดเมืองเมื่อไหร่ต้องเป็นคำถามที่ทีมผู้นำจีนต้องพิจารณาอยู่อย่างแน่นอนอยู่แล้ว เพราะข้อเท็จจริงง่ายๆ ก็คือ โควิดไม่มีวันหายไป เราไม่สามารถกำจัดไวรัสนี้เหมือนที่เราเคยกำจัดไวรัส SARS ให้หายจากโลกไปได้ โควิดจะเป็นโรคใหม่อีกโรคที่อยู่กับเราไปถาวรนับจากนี้
การจะปิดเมืองชั่วกัลปาวสานจึงเป็นไปไม่ได้ ทิศทางจึงต้องเปิดแน่ คำถามคือ จะเปิดอย่างไร จะค่อยๆ ผ่อนอย่างไร จะเปิดเต็มที่ได้เมื่อไหร่ เพื่อให้เรียบร้อยและจบสวยที่สุด หลังจากที่อดทนมานานกว่าประเทศอื่นๆ ที่ต่างเลิกสนใจโควิดกันไปหมดแล้ว
1
ไม่ต้องแปลกใจครับที่จีนจะยังคงแถลงว่าจะยืนหยัดใช้นโยบาย Zero Covid อย่างแน่วแน่ไม่หวั่นไหว เพราะเขาต้องบริหารจัดการความคาดหวังของประชาชน หากตอนนี้ยังไม่คิดจะเปิดเต็มที่ในช่วงที่เหลือของปีกับช่วงฤดูหนาว
และหากสถานการณ์การระบาดในฤดูหนาวในต่างประเทศยังคงมีปัจจัยที่ไม่แน่นอน เขาย่อมต้องยืนหยัดเสียงแข็งไว้ก่อน เพราะขืนมากำหนดปฏิทินการเปิดเมือง แล้วสุดท้ายเปิดไม่ได้ตามปฏิทินนั้น ยิ่งจะเสียหน้าและดูล้มเหลวไปกันใหญ่
1
แต่อย่าแปลกใจ หากสถานการณ์เป็นไปในทิศทางดีขึ้นทั่วโลก จีนอาจกลับลำนโยบายอย่างรวดเร็วแบบหลายคนไม่ทันตั้งตัว หรือหากถึงจุดหนึ่งที่ต้องยอมรับความจริงว่าปิดและล็อคต่อไปไม่ไหว ก็อาจถูกกดดันให้จำยอมต้องทยอยเปิดเมืองมากขึ้นโดยปริยายไปเอง
3
โฆษณา