Series Y : The Hidden Superpower of Thailand
ถ้าประเทศไทยจะมี Soft Power อะไรที่ไปแข่งกับเกาหลีในตลาดโลกได้ สามารถทำรายได้มหาศาล ชวนคนรักอาหารไทย ตามรอยละครมาเที่ยวตามฉากที่เห็นกันเป็นหมื่นเป็นแสนคน ผมมั่นใจว่าจะไม่ใช่ฝีมือรัฐบาล
หรือรำไทยสี่ภาคอะไรแนวนั้น แต่จะเป็นสุดยอดพลังมหัศจรรย์ที่ใครหลายคนไม่รู้จัก ผู้ใหญ่อีกจำนวนมากมีอคติ แต่เป็นความหวังหนึ่งเดียวของหมู่บ้านไทยจากสายตาของผมในนาทีนี้ เป็นเรื่องราวอันแสนมหัศจรรย์ของจักรวาลแห่ง series Y ที่หลายๆคนคงงุนงงว่าคืออะไร
ผมรู้จักผ่านๆแบบงงๆครั้งแรกก็คือเห็นน้องๆวัยรุ่นส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงต่อคิวยาวมากเพื่อซื้อหนังสือวายที่งานหนังสือเมื่อหลายปีก่อน พอถามเพื่อนก็ได้คำตอบแค่ว่าเป็นแนวชายรักชาย ผมก็คิดว่ามันแปลกดีแต่ก็ไม่ได้สนใจนัก เมื่อสามปีก่อน คุณหมู เจ้าของแพลทฟอร์มจอยลดา ที่เป็นนิยายแชทของเด็กๆ เคยโชว์ตัวเลขให้ดูว่าแฟนฟิค (Fanfiction)
ก็คืองานเขียนที่เด็กๆเขียนกันโดยเอาคู่จิ้น (ซึ่งผมก็เพิ่งรู้ว่ามาจาก imagine) มาแต่งใหม่ ในแพลทฟอร์มจอยลดามีหลายร้อยหลายพันเรื่อง แต่ละเรื่องมีผู้อ่านเป็นร้อยล้านวิว… ผมก็เริ่มสงสัยตั้งแต่ตอนนั้นว่าโลกของ Y นี้มันชักจะใหญ่และเริ่มไม่เข้าใจมากขึ้นเรื่อยๆ
จน เมนิ ลูกสาวคนเล็กของผมเริ่มติดตาม ในตอนนั้นเขาชอบน้องคู่จิ้น ออฟกันมาก และก็เริ่มดู series Y เรื่อง เพราะเราคู่กัน หรือคั่นกู มีน้องไบร์ทน้องวินเป็นคู่จิ้น ผมก็นั่งดูด้วยเป็นระยะ พยายามทำความเข้าใจบ้างก็ไม่เข้าใจนัก เหมือนจะเป็นโลกแห่งจินตนาการที่พระเอกนางเอกเป็นผู้ชายทั้งคู่ แต่ก็ดูได้เพลินๆ เป็นรักโรแมนติกใสๆที่ไม่ได้มีฉากหวาดเสียวอะไรเลย ก็ปล่อยลูกสาววัยรุ่นดูได้อย่างสบายใจ
ในช่วงนั้น คุณเปิ้ล นาคร ศิลาชัยเคยมาเล่าด้วยความตื่นตระหนกว่า เขากำลังเปิดตัวสินค้าใหม่ เริ่มหมดมุก เลยลองโยนคำถามไปให้ทีมงานว่าจะจ้างใครมางานดีที่จะได้แฟนคลับเยอะๆ ในใจเขาคิดถึงดาราทั่วไป แต่น้องๆในบริษัทบอกเขาว่าพี่ต้องใช้ ออฟกัน คริสสิง เปิ้ลผู้อยู่ในวงการกลับไม่ได้ยินชื่อนี้
แต่ลองเชื่อน้องๆดู ปรากฏว่าคนมางานในปรากฏการณ์ระดับห้างแตกอย่างที่ไม่เคยพบเคยเห็นมาก่อน เปิ้ลถึงกับต้องเล่าอย่างเบิกเนตร ผมฟังแล้วก็ยิ่งสงสัยใหญ่ว่านี่คือโลกอะไรกันนี่… น้องๆที่ติดตามคู่จิ้นมาที่เรียกกันว่าสาววายนั้น ดูจะพิเศษกว่าแฟนคลับแบบอื่นเอามากๆ
จนเมื่อโควิดมาเยือน งานอีเว้นท์ต่างๆถูกยกเลิกหมด วันหนึ่งลูกสาวคนเล็กมาขอสมัครดูงาน fan meet ของออฟกันทางออนไลน์ ตั๋วก็ไม่ถูกเลย ดูออนไลน์ทีนึง 900 บาท ผมว่างๆวันนั้นก็นั่งดูด้วยและก็ได้เห็นพลังระดับโลกของ series Y ไทยเป็นครั้งแรก บนจอในวันนั้น ข้างหลังน้องทั้งสองเป็นช่องเล็กๆที่มีหน้าแฟนคลับจากทั้งโลกวนเวียนมาปรากฏ
ผมมารู้ตอนหลังว่ามาจาก 90 ประเทศทั่วโลกแม้กระทั่งอเมริกาใต้ ในวันนั้นมีคนจากทั่วโลกมาดูเป็นหมื่น มาดูน้องทั้งสองพูดคุย มีฉากร้องเพลงพร้อมกันทั้งคนดูและน้องทั้งสอง เป็นความมหัศจรรย์ที่ผมไม่คาดคิดมาก่อน
ผมดูเสร็จแล้วอีกวันหนึ่งบังเอิญได้มีโอกาสทานข้าวกับคุณไพบูลย์ หรืออากู๋แห่งแกรมมี่ ผู้เป็นเจ้าของบริษัทที่ทำ Series Y อันโด่งดังหลายเรื่องในตอนนั้น ผมถึงกับเล่าให้คุณไพบูลย์ด้วยความตื่นเต้นว่าแกรมมี่จะรวยแล้วแน่ๆ และความฝันของคุณไพบูลย์ที่ผมได้ยินมาทั้งชีวิตว่าอยากโกอินเตอร์ ก็น่าจะเป็นจริงได้แน่ๆคราวนี้ คุณไพบูลย์ได้ยินเสร็จถึงกับโทรหาบุคคลคนหนึ่งผู้สร้างตำนานวายของไทย บอกว่าอย่าหนีผมไปไหนนะ
บุคคลคนนั้นก็คือ พี่ถา สถาพร พานิชรักษาพงศ์ แห่ง GMMTV…
เมื่อวันก่อน ผมได้มีโอกาสสัมภาษณ์พี่ถา และผู้กำกับคู่บุญ น้องออฟ นพณัช ชัยวิมล ที่เอบีซีร่วมกับพี่ตุ้ม หนุ่มเมืองจันท์ ถึงได้เริ่มเข้าใจที่มาที่ไปว่า ซีรีส์วายนั้นได้รับอิทธิพลมาจากญี่ปุ่น เป็นมังงะที่เป็นตัวละครชายกับชายที่เรียกว่า ยาโออิ (YAOI) เป็นพระเอกกับนายเอกคู่กัน (ญี่ปุ่นเรียกว่า เมะ กับเคะ)
พี่ถาเริ่มต้นจากเห็นว่าหนังสือฮิตและพี่ถาทำละครทั่วไปมานานจนอยากลองฉีกแนวไปทำอะไรใหม่ออกไปบ้าง เลยลองทำซีรีส์วายเรื่องแรกชื่อโซตัส ซึ่งพี่ถาบอกว่าก่อนทำก็รู้ว่าเจ๊งแน่นอนเพราะสปอนเซอร์ไม่เข้าใจ คิดว่าเป็นหนังแนวเกย์ แต่ด้วยความอยากลองก็ลองทำดู ก็ขาดทุนสมใจ
แต่พอออกฉายแต่ละตอนผ่านไป ยอดคนดูเพิ่งขึ้นสูงมากจนตกใจ ลามไปถึงเมืองจีนที่ดูกันเถื่อนตามเวบใต้ดิน กลายเป็นปรากฏการณ์อย่างน่าอัศจรรย์ พี่ถาโชว์คลิปที่เคยพานักแสดงไป Fan Meet เมืองจีน ผมได้เห็นถึงภาพเหมือนความฮิตของศิลปินระดับโลก ยังไงอย่างนั้นเลย คนมุมเป็นร้อยเป็นพันเต็มรถ รถต้องเคลื่อนตัวออกไปช้ามาก พี่ถากลับมาพร้อมไอเดียบรรเจิดเต็มไปหมด รู้ว่ามาถูกทางแล้ว
ผมถามน้องออฟผู้กำกับว่าซีรีส์วายนี่คืออะไรกันแน่ แล้วทำไม GMM ถึงทำวายได้ดังกว่าคนอื่นแม้กระทั่งยุคนี้ที่เริ่มมีคนทำมากขึ้นเรื่อยๆ ออฟบอกชัดมากว่า วายคือละครโรแมนติกที่ทิ้งพื้นที่ให้คนดูได้จินตนาการ และ GMM มีจุดยืนชัดเจนว่าจะทำละครวายให้ดูได้ทั้งครอบครัว เป็นละครสะอาด มีฉากเลิฟซีนแค่พอได้คิดตาม แต่เน้นที่เรื่องราว คุณภาพของละครเป็นหลัก ซีรีส์วายจึงเป็นละครที่ใสๆ ไม่ใช่อย่างที่หลายคนมีอคติ ละครวายก็ได้รับรางวัลในกลุ่มเดียวกับละครทั่วไป แสดงถึงการได้รับการยอมรับในสังคมอย่างมาก
พี่ถาพูดถึงปรากฏการณ์ของวายว่า น้องๆที่เป็นสาววายนั้นรักและปรารถนาดีต่อคู่จิ้นและคนที่เขาชอบมากๆ เป็นพลังที่ไม่เคยเห็นจากแฟนคลับดารา ป้ายต่างๆที่เราเห็นสาววายเหมาเวลามีวันเกิด หรืออยากให้น้องๆนักแสดงได้เห็นความปรารถนาดีที่มีให้ถูกเหมาอยู่ตามจุดสำคัญของกรุงเทพฯ รวมถึงรถตุ๊กตุ๊กและป้ายหน้าตึกแกรมมี่ที่ถูกจองข้ามปี
สาววายนอกจากจะรักและปรารถนาดีอย่างจริงใจก็ยังอยากจะเผยแพร่ความน่ารักของคนที่เขาชอบออกไปให้ไกลที่สุด แฮชแทคทวิตเตอร์ถึงขึ้นทอปทรีบ่อยมาก มีสินค้าอะไรก็จะอุดหนุน สินค้าไหนที่ใช้หนุ่มวายคนไหนก็ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ตามสถิติที่ชอบซีรีส์วายก็เป็นผู้หญิงส่วนใหญ่
ลังแห่งสาววายนั้นเกินที่ใครจะคาดคิด แถมล่าสุดในช่วงโควิด กลุ่มสาววายรุ่นใหม่แถวอายุ 60 ที่ได้มีโอกาสเปิดดูเพราะอยู่บ้านไม่ได้ไปไหนก็มาหลงรักเพิ่มขึ้น กลายเป็นกลุ่มใหม่เข้ามาอีกเช่นกัน
พี่ถาเล่าอีกว่า ในระดับอินเตอร์ ซีรีส์วายของไทยนั้นชื่อเสียงขจรขจายไปไกลเป็นระดับร้อยประเทศ เป็นอันดับหนึ่งในด้านนี้อย่างแท้จริง ที่ญี่ปุ่นเพิ่งมีนิทรรศการเอาของจากละครไปโชว์โดยที่ไม่มีตัวละครจริงๆไป สถานทูตเม็กซิโกต้องขอมาทำคลิปสัมภาษณ์หนุ่มๆเพราะมีสาววายเม็กซิโกเรียกร้อง
ที่เมืองจีนไม่ต้องพูดถึง ความฮิตไปถึงในระดับที่ตลาดแตก ฟิลิปปินส์ก็ใช้หนุ่มๆเป็นพรีเซนเตอร์สินค้า ฯลฯ มีเรื่องราวแบบนี้อีกมากมายทั่วโลก หลังโควิดหมด ถ้าเดินสายได้ เรื่องราวความฮิตแบบนี้ก็คงจะมากขึ้นเป็นทวีคูณ ความฮิตในระดับโลกนี้ ผู้ใหญ่หลายคนของไทยแทบจะไม่เคยได้ยิน
พี่ถากับน้องออฟผู้กำกับบอกด้วยว่า ทุกเรื่องที่ทำจะแทรกอาหารไทยเข้าไปด้วย บางเรื่องก็เป็นชานมชมพู บางเรื่องเป็นไข่พะโล้ เวลามี fan meet ต่างประเทศก็ใช้อาหารไทยเป็นตัวเดินเรื่อง รวมถึงสถานที่ท่องเที่ยวของไทยที่ในไม่ช้าพอประเทศเปิด น่าจะมีสาววายมาตามรอยหลายพันหลายหมื่นคน นี่คือวิธีคิดที่ไม่ลืมประเทศและเป็นสุดยอด Super Soft Power ของไทยอย่างแท้จริง
หลังจากนั้นพี่ถาก็ชวนน้องๆสามคนมาให้เราได้พูดคุยสัมภาษณ์ มีน้องออฟ จุมพล น้องกัน อรรถพันธ์ และน้องเต ตะวัน สามหนุ่มฮอตอันดับต้นๆในตอนนี้ แต่ละคนมีคนตาม IG ระดับห้าหกล้านคน แต่ที่ได้ฟังน้องๆร่วมกับพี่ถา ยิ่งทำให้ทึ่งกับวิธีคิดอย่างมากๆ เพราะน้องๆทั้งสามมีความสุภาพอย่างน่าประทับใจ ถ่อมตน และตั้งใจที่จะเป็นตัวอย่างดีๆให้กับเยาวชน รู้ตัวดีว่ามีคนรักมากและพยายามทำตัวให้สมกับความรักนั้น รู้เลยว่าทางค่ายมีกรอบความคิดที่ดีให้น้องๆและเลือกน้องๆได้ดีมากๆ
มีพี่รุ่นใหญ่คนหนึ่งถึงกับเขียนใน FB ส่วนตัวหลังจากได้ฟังน้องๆทั้งสามไว้ว่า
“ เคยคิดว่าหนัง Y series เป็นสไตล์ไม่ดี แต่เมื่อได้ฟังคุณถาแห่ง GMM อธิบายจึงได้เข้าใจว่า Y series ก็เป็นเพียงหนังแนวนึงอารมณ์โรแมนติก แค่เป็นเพียง boy love เท่านั้นเอง
แต่ที่มากไปกว่านั้นคือความประทับใจในตัวนักแสดงทั้ง3คน น้องออฟ จุมพล, น้องกัน อรรถพันธ์, น้องเต ตะวัน เป็นเด็กที่มีความเป็นกันเอง น่ารัก ไม่หยิ่งเริ่ดเชิ่ด มีความฉลาด คำพูดที่ใช้เป็นภาษาที่ชัดเจนที่ออกจากตัว ไม่พูดตามสคริป รู้เลยว่าเป็นเด็กมีความรู้ ไม่กลวง ไม่แอ๊วไม่แบ๊ว ดีใจด้วยนะคะที่หนูโด่งดังกัน ชื่นชมนะลูกนะ ขอให้ลูกดังกระหึ่มทั่วโลกนะคะ”
จากคำเขียนของพี่รุ่นใหญ่ท่านนี้จะเข้าใจเลยว่า ถ้าใครได้สัมผัส เข้าใจซีรีส์วายจริงๆ ถึงกลายเป็นสาววายโดยไม่ยากเลย...
ผมเล่าเรื่องซีรีส์วายมายืดยาว ส่วนหนึ่งก็เพราะความตื่นเต้นที่ได้เห็นปรากฏการณ์ระดับโลกที่มีคนไทยเป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญในนั้น แม้จะเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง แต่ความรู้สึกตื่นเต้นในระดับคล้ายๆกับตอนที่เชียร์วอลเล่ย์บอลหญิงทีมชาติไทยไประดับโลก เป็นความภูมิใจที่คนไทยก็สามารถปล่อยพลัง Super Soft Power กับเขาได้อย่างที่หลายคนอิจฉาเกาหลีกัน
เป็นเรื่องมหัศจรรย์ที่อยากมาเล่าสู่กันฟังในวันนี้และอยากจะปิดด้วยรูปที่ผมถ่ายคู่กับน้องออฟในวันที่ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ ที่แต่งชุดเหมือนกันแม้กระทั่งรองเท้าโดยบังเอิญให้สาววายอิจฉาเล่นกันนะครับ…
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
