22 พ.ย. 2022 เวลา 22:20 • หุ้น & เศรษฐกิจ
ตลาดสกุลเงินเอเชียขยับขึ้น แต่ความกังวลจากจีนและเฟด
สกุลเงินเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้นเล็กน้อยในวันอังคาร โดยฟื้นตัวจากการลดลงอย่างมากในช่วงที่ผ่านมา ถึงแม้ว่าความคิดเห็นที่แข็งกร้าวจากเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ บางคนและความกังวลเกี่ยวกับกรณีโควิด19 ที่เพิ่มขึ้นในจีนยังคงทำให้ตลาดเงียบ
เงิน หยวนจีน เพิ่มขึ้น 0.2% เป็น 7.1518 เมื่อเทียบกับดอลลาร์ โดยฟื้นตัวจากระดับต่ำสุดในรอบ 10 วัน
เงิน วอนเกาหลีใต้ ฟื้นตัว 0.5% ในวันอังคาร ขณะที่ ดอลลาร์สิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 0.1%
ค่าเงิน เยน เพิ่มขึ้น 0.3% จากระดับต่ำสุดในรอบ 10 วันในวันอังคาร
รูปีอินเดีย สกุลเงินอินเดียอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่น ๆ ในภูมิภาคในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากอัตรา เงินเฟ้อที่ลดลง ส่งผลให้ตลาดเชื่อว่า ธนาคารกลางอินเดีย จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยขนาดที่เล็กลงในเดือนหน้า
ค่าเงิน ริงกิตมาเลเซีย ลดลง 0.1% ส่งผลให้ค่าเงินขาดทุนต่อเนื่องเนื่องจากภาวะหยุดชะงักทางการเมืองและไม่มีสัญญาณของการเดินหน้าหลังจากการเลือกตั้งทั่วไป
ค่าเงินบาท ขยับลงเล็กน้อย แต่ยังเคลื่อนไหวอยู่เหนือ 36.165 บาทต่อดอลลาร์-investing.com
เศรษฐกิจโลกปี 2023 : ปีแห่งการเปลี่ยนผ่าน
ปีแห่งการเปลี่ยนผ่านนี้ "เศรษฐกิจโลก" จะชะลอลงและแบ่งแยกกันมากขึ้น เงินเฟ้อจะเข้าสู่จุดสูงสุด (Peak) ขณะที่ดอกเบี้ยของ DM จะเร่งขึ้น และต้องเริ่มลดลงในครึ่งปีหลัง ทำให้อัตราดอกเบี้ยระหว่างประเทศพัฒนาแล้วและกำลังพัฒนาเข้าใกล้กันมากขึ้นในช่วงปลายปี
ปี 2023 เศรษฐกิจโลกจะมีลักษณะ 3 ประการ ประการแรก การเติบโตของเศรษฐกิจโลกจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ นอกจากนี้การเติบโตของเศรษฐกิจระหว่างตลาดพัฒนาแล้ว (DM)กับตลาดเกิดใหม่ (EM) จะแตกต่างกัน โดย DM มีความเสี่ยงที่จะเกิดภาวะถดถอย ในขณะที่การเติบโตของเศรษฐกิจ EM จะชะลอตัวลง แต่มีโอกาสเกิดภาวะถดถอยน้อยกว่า
อัตราเงินเฟ้อทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสหรัฐและเศรษฐกิจEMหลายประเทศ ได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว โดยจากการศึกษาผ่าน global inflation heatmap แสดงให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยของ 42 ประเทศที่ทำการศึกษา ทำจุดสูงสูดในเดือนมิ.ย. และลดลงอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่นั้นมา ในปี 2023 อัตราเงินเฟ้อทั่วโลกจะลดลงจากฐานสูงและอุปสงค์ทั่วโลกที่ลดลงอันเนื่องมาจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจ
คาดว่าเงินออมส่วนเกินจะลดระดับจนหมดภายในช่วงกลางปีถึงปลายปี 2023 ซึ่งจะช่วยให้ระดับการบริโภคยังคงทรงตัวหรือไม่หดตัวลงมาก แต่องค์ประกอบของการบริโภคจะเปลี่ยนไป (เปลี่ยนจากสินค้าฟุ่มเฟือยและบริการต่างๆ มาเป็นสินค้าจำเป็น) กล่าวโดยสรุป เราเชื่อว่าเงินออมส่วนเกินจะช่วยให้การชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในปี 2023 มีความรุนแรงลดลงได้บ้าง
หนี้สินภาคธุรกิจของสหรัฐทั้งหมดคิดเป็น 80% ของGDPเทียบกับ 65% ในปี 2007 โดยหนึ่งในสามของหนี้สินภาคธุรกิจในอเมริกาได้รับการจัดอันดับเครดิตในระดับBBBซึ่งเป็นระดับน่าลงทุนต่ำที่สุด เราเชื่อว่าอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้นจะส่งผลทำให้อันดับเครดิตของหลายๆ บริษัทปรับลดลง ซึ่งจะส่งผลทำให้เกิดปัญหาขาดสภาพคล่องและความปั่นป่วนทางการเงิน-ดร.ปิยศักดิ์ มานะสันต์ ฝ่ายวิจัยลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์
โฆษณา