28 พ.ย. 2022 เวลา 05:34 • การตลาด
ความแตกต่างระหว่างการขายและการตลาด 9 ประการ (1-4) ตอนที่ 1
Credit: EDUCATIONLEAVES
การขายและการตลาดมีอยู่ในทุกส่วนของการดำรงชีวิตของมนุษย์เราตั้งแต่เริ่มลืมตา นั่นก็เพราะว่ามนุษย์ทุกคนไม่สามารถอยู่คนเดียวได้บนโลกสีฟ้าใบนี้ ต้องพึ่งพาอาศัยกันไม่ทางตรงก็ทางอ้อม การขายและการตลาดจึงแทบแยกออกจากกันไปได้เลย ต้องเดินคู่กันไปตลอดจะมีสิ่งใดสิ่งหนึ่งก็ไม่ได้ เพราะทั้ง 2 อย่างมีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน แต่จะมีความแตกต่างในรายละเอียดดังนี้
1
1. การตั้งคำถาม และ การเล่าเรื่อง
การขายคือการตั้งคำถามว่าปัญหาที่เกิดขึ้นกับลูกค้าคืออะไรบ้าง เช่น ลูกค้ากลุ่มนี้มีจำนวนเท่าไหร่ เขาต้องการรับประทานอาหารแบบไหน ระหว่างอาหารกล่องและอาหารที่ทำขึ้นใหม่ๆ คุณภาพวัตถุดิบที่ใช้เป็นแบบไหน หรือใช้วิธีการ 5W2H: Who, What, Where, When และ Why+ How และ How much แล้วนำคำตอบที่ได้ไปนำเสนอสินค้าเพื่อแก้ปัญหาให้ลูกค้า
การตลาดคือการเล่าเรื่อง ผ่านสื่อต่างๆที่ให้ผู้คนได้รับรู้ ทั้งที่มีเสียงหรือไม่มีเสียง เป็นภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหว ผ่านรูป, เวทนา, สัญญา, สังขารและวิญญาณ หรือขันธ์ 5 โดยเฉพาะในส่วนของวิญญาณที่เป็นส่วนสำคัญที่จะส่งข้อความเข้าสู่จิตใจ คือ การรับรู้ รูป รส กลิ่น เสียง และสัมผัส
1
ที่มา Salika.co
2. การคิดแบบการคำนวณ และ การคิดแบบศิลปะ
การขายคือการคิดแบบตรงไปตรงมาตามแนวคิดแบบการคำนวนตัวเลข เช่น 1+1=2 เสมอ ไม่มีอารมณ์เข้ามาร่วม
ส่วนการตลาดคือการเสนอที่มีอารมณ์เข้ามาร่วม เช่น วันนี้ได้รับประทานปลากระป๋องยี่ห้อใหม่ ที่รสชาติแตกต่างไปจากรายอื่นๆ เพราะเนื้อของปลากระป๋องหวานหอมตามธรรมชาติ เนื้อซอสก็ไม่หวานหรือเค็มโดด ใครๆต่างก็ชื่นชอบปลากระป๋องยี่ห้อนี้ ทั้งหมดจะเน้นเรื่องของการบอกต่อและมีอารมณ์ร่วม
3. คนเจ้าชู้ และ เป็นคนมีเสน่ห์
การขายจะเป็นแนวเจ้าชู้ เพราะจะเข้าไปนำเสนอตัวเองเพื่อให้ได้มาซึ่งผลลัพธ์
การตลาดเป็นการทำให้ตัวเองน่าสนใจน่าดึงดูดน่าหลงใหล เพื่อให้ผู้คนเข้ามาหา เช่น บางคนชอบนำเสนอเรื่องการดูแลตัวเอง ใส่ใจกับสุขภาพการออกกำลังกาย การให้เกียรติผู้หญิง/ผู้ชาย ซึ่งใครๆก็ชอบที่จะเข้าหา เรื่องนี้คือตัวตนของยุคใหม่ฯอย่างชัดเจนเลย เพราะว่า “เจ้าชู้ไม่ใช่นิสัยพี่ ไว้น้องหน้าตาดีแล้วน้องจะรู้” นั่นเอง
Photo:  VIA Character Strengths
4. การจัดการเมื่อถูกปฏิเสธ์
การขายจะไม่มีอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้องมากนัก เพราะเป็นการคิดแบบคณิตศาสตร์ เช่น ยอดขายในเดือนที่ผ่านมา มาจากการเสนอขายให้ลูกค้าจำนวน 10 ราย จากที่นำเสนอทั้งหมด 100 ราย หากเดือนนี้ต้องการขายให้มากขึ้นเท่าตัวก็ทำให้จำนวนลูกค้าเพิ่มเป็น 20 คน หรือเข้าพบลูกค้าเพิ่มเป็น 200 คน เป็นต้น โดยที่ไม่มัวมานั่งคิดว่าต้องเสนออย่างไรจึงจะขายได้
การตลาด จะเน้นการใช้ความคิดสร้างสรรค์เพราะต้องสื่อสารกับอารมณ์ หากพบว่าผลลัพธ์ที่ได้ลูกค้าไม่ตอบรับ นักการตลาดก็จะรู้สึกผิดหวังเป็นอย่างมาก
พรุ่งนี้เรามาต่อตอนที่ 2 ข้อที่ 5-9 กันนะครับ
โฆษณา