26 พ.ย. 2022 เวลา 00:30 • ข่าวรอบโลก
ความเท่าเทียมทางเพศ LGBTQIA+
บนโลกคู่ขนานจากโดฮา ถึง มอสโก
กาตาร์กำลังถูกจับจ้องจากทั่วโลก ในฐานะเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 และกำลังโดนโจมตีด้านสิทธิมนุษยชน ทั้งนี้ องค์กรเพื่อสิทธิมนุษยชน ฮิวแมนไรท์วอทช์ (Human Rights Watch : HRW) รายงานว่า กลุ่ม LGBT ในกาตาร์ถูกคุกคาม และเป็นเป้าหมายของฝ่ายความมั่นคงในประเทศกาตาร์
กาตาร์ เป็นประเทศที่มีกฎหมายศาสนาที่เข้มงวด และกฎหมายอาญาของกาตาร์ก็บัญญัติว่า การมีเพศสัมพันธ์นอกการสมรส รวมถึงความสัมพันธ์ระหว่างเพศเดียวกัน มีโทษจำคุกสูงสุด 7 ปี ซึ่งข่าวต่าง ๆ เกี่ยวกับการปฏิบัติต่อชาว LGBTQ+ ทั้งประชาชนของกาตาร์เอง และผู้ที่เดินทางเข้ามายังประเทศกาตาร์ เป็นไปในทางลบมาตลอด ดังนั้น การจัดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022 ที่กรุงโดฮา จึงเป็นเป้าหมายที่ดีของนักเคลื่อนไหวเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน ที่จะใช้ห้วงเวลานี้ออกมาวิจารณ์การกระทำของรัฐบาลกาตาร์ที่มีต่อกลุ่มหลากหลายทางเพศ และสตรี
กลุ่มพันธมิตรขององค์กรพัฒนาเอกชน (NGO) ระหว่างประเทศ ต้องการเปิดประเด็นเรื่องนี้ โดยกดดันไปยังฟีฟ่า เพื่อเรียกร้องให้กาตาร์ยอมรับในความมีอยู่ และปฏิบัติต่อชาว LGBTQ+ อย่างเท่าเทียมและมีมนุษยธรรม
ที่ปรึกษากระทรวงการต่างประเทศของกาตาร์เคยแสดงความเห็นต่อสื่อภาษาอาหรับว่า รักร่วมเพศถือเป็น "บาปร้ายแรง" และมีการถกเถียงกันในสื่อออนไลน์ถึงการตรวจสอบรสนิยมทางเพศของนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางเข้ากาตาร์
ในเดือนมิถุนายน 2565 ทางฟีฟ่าได้ออกแถลงการณ์เตือนแฟนบอลทั่วโลกที่จะเดินทางมายังกาตาร์ว่า รัฐบาลได้ห้ามเรื่องเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การจัดงานสังสรรค์ และการมีเพศสัมพันธ์กับคนที่ไม่ใช่คู่สมรส
เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2565 นายจิอานนี่ อินฟานติโน่ (Gianni Infantino) ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ ออกจดหมายถึงทีมที่จะเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลโลก ขอให้มุ่งความสนใจไปยังฟุตบอล และอย่านำการเมืองมายุ่งเกี่ยวกับกีฬา
ฟีฟ่าพยายามเคารพความเชื่อและความคิดเห็นของทุกฝ่าย แต่โลกมีจุดแข็งหนึ่งอย่างที่เรียกว่า "ความหลากหลาย" ที่ผู้คนจะต้องเคารพในความหลากหลายที่ว่า โดยไม่คิดว่าผู้ใด วัฒนธรรมใด และชาติใด จะเหนือกว่าผู้อื่น กาตาร์จะต้อนรับทุกคนโดยไม่สนใจเพศ ศาสนา รสนิยม สัญชาติ และอยากให้ทุกคนวางเรื่องราวอื่น ๆ แล้วให้ความสนใจกับการแข่งในสนาม และฟุตบอลนั้นเป็นกลาง
ถัดมาอีกวันหลังจากฟีฟ่าแถลงการณ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศกาตาร์ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า แม้กาตาร์จะเผชิญกับข้อครหาหลายอย่าง ทั้งประเด็นความหลากหลายทางเพศ ประเด็นเรื่องสิทธิแรงงาน หรือเรื่องการทุจริตเพื่อให้ได้เป็นเจ้าภาพ แต่การแข่งขันฟุตบอลโลกจะยังคงเกิดขึ้นต่อไป
นอกจากนี้ ยังเป็นประเด็นให้ถกเถียงกันเมื่อนายเจมส์ เคลเวอร์ลี (James Cleverly) รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศสหราชอาณาจักร ได้แสดงความเห็นว่า "เป็นเรื่องปกติที่ผู้มาเยือนจะต้องเคารพวัฒนธรรมของประเทศนั้น ๆ" และนี่เองทำให้นายเคลเวอร์ลี กลายเป็นเป้าโจมตีแทนกาตาร์ทันที
กีฬาควรเปิดโอกาสให้ทุกคนเข้าถึงได้ แต่กลายเป็นว่าแฟนบอลหลายคนไม่สามารถเดินทางไปดูกีฬาที่ตัวเองชอบได้ จะให้โทษว่าเป็นความผิดของแฟนบอลเหล่านั้นที่มีอัตลักษณ์ทางเพศที่แตกต่าง แล้วเสี่ยงจะถูกทำร้ายหากวัดจากสถิติเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนในกาตาร์ แต่สิ่งที่ผู้มีอำนาจบางคนเลือกทำคือปกป้องค่านิยมการเลือกปฏิบัติ
ลูซี พาวเวลล์ (Lucy Powell)
เจ้าหน้าที่กาตาร์ได้เปิดเผยว่า "ทุกคนจะได้รับการต้อนรับโดยไม่คำนึงถึงเชื้อชาติ ภูมิหลัง ศาสนา เพศ รสนิยมทางเพศ หรือสัญชาติ" แต่ก็ย้ำว่า "การแสดงความรักในที่สาธารณะไม่ใช่ส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมของเรา" และเตือนว่า "มีบรรทัดฐานหลายอย่างที่ต้องได้รับการเคารพ"
และมีแฟนบอลหลายรายที่ตัดสินใจไม่เดินทางไปดูการแข่งขันฟุตบอลครั้งนี้ เพราะเกรงว่าอาจถูกจับเข้ารับการบำบัดแก้เพศวิถี (conversion therapy)
การบำบัดแก้เพศวิถี มีบรรทัดฐานความคิดว่า เพศหลากหลายเป็นความเจ็บป่วยที่ต้องรักษา และเชื่อว่าบำบัดให้หายได้ ซึ่งผู้ทำการบำบัดในแต่ละประเทศมีความแตกต่างกันไปตั้งแต่ ใช้แพทย์ นักจิตวิทยา องค์กรศาสนา หรือผู้นำชุมชน ส่วนวิธีการมีทั้งบำบัดด้วยการใช้สารเคมี การสะกดจิต การบำบัดด้วยความเกลียดชัง หรือพฤติกรรมบำบัด เช่น กระตุ้นให้เกิดความต้องการทางเพศ แล้วใช้วิธีต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความเจ็บปวด หรือหวาดกลัว เพื่อยับยั้งความต้องการทางเพศ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อร่างกายและจิตใจของผู้เข้ารับการบำบัด
อีกทั้งยังมีเสียงวิพากษ์ว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจกาตาร์ปฏิบัติต่อผู้ชุมนุมประท้วงในช่วงการแข่งขันฟุตบอลโลก คล้ายกับเจ้าหน้าที่ในรัสเซียเมื่อครั้งเป็นเจ้าภาพจัดฟุตบอลโลกปี 2018
ปัจจุบันมีหลายประเทศได้ห้ามนำ "การบำบัดแก้เพศวิถี" มาใช้แล้ว เมื่อหันกลับมามองทางมอสโก ในวันที่ 24 พฤศจิกายน 2565 สภาดูมา (State Duma) ของรัสเซีย ได้อนุมัติร่างกฎหมายซึ่งกำหนดค่าปรับสำหรับการโฆษณาชวนเชื่อที่ส่งเสริมความสัมพันธ์ทางเพศที่ไม่ใช่เพศกำเนิด อนาจาร และข้อมูลที่จูงใจให้เกิดการผ่าตัดแปลงเพศ ซึ่งก่อนหน้านี้กฎหมายรัสเซียก็ห้ามการสนับสนุนกิจกรรมของกลุ่มที่มีความหลากหลายทางเพศ แต่มุ่งเป้าไปยังเด็กและเยาวชนรัสเซีย
กฎหมายใหม่นี้จะห้ามกิจกรรมที่จะสนับสนุนแนวคิดรักร่วมเพศทั้งหมด ทั้งที่แสดงในที่สาธารณะ ช่องทางออนไลน์ หรือในรูปแบบของภาพยนตร์ หนังสือ หรือโฆษณา จะได้รับโทษปรับอย่างหนัก ซึ่งถ้าผู้กระทำความผิดเป็นชาวต่างชาติก็จะถูกคุมขังไม่เกิน 15 วัน แล้วเนรเทศออกนอกประเทศด้วย
หากเปรียบเทียบกับโลกเสรีในหลาย ๆ ประเทศแล้ว รัสเซียและกาตาร์ อาจอยู่ในอีกโลกที่คู่ขนานกัน เราคงปฏิเสธไม่ได้ว่าโลกไม่เพียงแต่หมุนเท่านั้น แต่ยังเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาด้วย🏳️‍🌈
โฆษณา