26 พ.ย. 2022 เวลา 06:31 • การตลาด
ศึกลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดบอลโลกยังไม่จบ
ศาลสั่งห้ามถ่ายทอดผ่าน AIS PLAYBOX
1
ฟุตบอลโลกเริ่มแข่งขันมาแล้ววันนี้เป็นวันที่ 7 แล้ว แต่ดูเหมือนว่า ศึกนอกสนามในเรื่องของลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดบอลโลกในประเทศไทยยังไม่จบ เพราะล่าสุดศาลทรัพย์สินทางปัญญาฯ ได้ออกคำสั่งห้ามไม่ให้ SBN ผู้ให้บริการ AIS PLAYBOX ถ่ายทอดการแข่งขันฟุตบอลโลก (World Cup Final 2022) ผ่านโครงข่าย IPTV เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายลิขสิทธิ์ทันที
ทีมงานรวบรวม Timeline ของปัญหานี้มาให้แล้ว
- 17 พฤศจิกายน 
ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) แถลงข่าวอัพเดทล่าสุดว่า การการกีฬาแห่งประเทศไทยได้บรรลุข้อตกลงการซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 กับสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) จำนวน 64 แมตช์ เสร็จสมบูรณ์แล้วในมูลค่า 33 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 1,400 ล้านบาท (รวมภาษี) โดยมีกลุ่มทรูร่วมสนับสนุนเป็นเงิน 300 ล้านบาท โดยกลุ่มทรูได้สิทธิ์ถ่ายทอดสดบอลโกครั้งนี้ถึง 32 แมตช์ จาก 64 แมตช์
2
นอกจากตำนวนแมตช์ถ่ายทอดแล้ว ทางกกท. ยังได้ตกลงมอบสิทธิและประโยชน์ต่าง ๆ ให้แก่กลุ่มทรู ซึ่งรวมถึงการให้สิทธิแต่เพียงผู้เดียวในการถ่ายทอดการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย ผ่านระบบเคเบิล ระบบดาวเทียม  ระบบไอพีทีวี  ระบบอินเทอร์เน็ต ระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ และระบบโอทีที และยังให้สิทธิแบบไม่จำกัดแต่เพียงผู้เดียวผ่านช่องทางโทรทัศน์ ภาคพื้นดิน
4
- 20 พฤศจิกายน 
ฟุตบอลโลกคู่เปิดสนาม “กาตาร์ - เอกวาดอร์” คนไทยได้ดูถ่ายทอดสดผ่านช่อง True4U 24 และ T Sport7 แบบระบบความคมชัด SD
4
- 21 พฤศจิกายน 
ผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล รวมตัวแสดงจุดยืน ยื่นหนังสือถึง กสทช. ขอให้วินิจฉัยหลักการจัดสรรถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2022 ชี้จัดสรรแมตซ์ด้วยสัดส่วนไม่เป็นธรรมและเอื้อประโยชน์
- 22 พฤศจิกายน 
กลุ่มทรู คืนสิทธิ์ถ่ายทอดสดการแข่งขัน 16 แมตช์ของฟุตบอลโลก 2022 ให้ช่องทีวีดิจิทัลอื่นๆ สามารถออกอากาศคู่ขนานกับช่องทรูโฟร์ยูในระบบโทรทัศน์ภาคพื้นดิน โดยทางกลุ่มทรูจี้แจงว่า กลุ่มทรู เดินหน้าตามแนวทางความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อสร้างประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศไทยและคนไทย ร่วมสนับสนุนการถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2022
4
ซึ่งหน่วยงานภาครัฐ ทั้ง การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) และ กสทช. ได้ทุ่มเทอย่างหนักในการเจรจา และได้รับความร่วมมือจากภาคเอกชนที่ร่วมกันซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดการแข่งขันฯ เพื่อให้คนไทยได้รับชมครบทั้ง 64 แมทช์ นับเป็นแบบอย่างการผนึกกำลังของภาครัฐและเอกชน และเป็นแนวทางที่กลุ่มทรูยึดมั่นดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง
โดยกลุ่มทรูได้สนับสนุนงบประมาณร่วมซื้อลิขสิทธิ์เพื่อให้ประเทศไทยได้ถ่ายทอดทันช่วงเวลาในการเปิดสนามแข่งขัน รวมทั้งยังลงทุนและระดมสรรพกำลังเตรียมความพร้อมด้านระบบในการเป็นแม่ข่ายรับสัญญาณการถ่ายทอดสดตรงจากฟีฟ่า เพื่อออกอากาศในประเทศไทยผ่านช่องทรูโฟร์ยูและช่องทีวีดิจิทัลต่างๆตลอดฤดูกาลการแข่งขัน เพื่อให้คนไทยได้รับชมคอนเทนต์การแข่งขันที่มีคุณภาพ และล่าสุด
แต่อย่างไรก็ตาม คนที่ต้องการดูถ่ายทอดสดบอลโลกจาก IPTV ยังคงไม่ามารถดูได้
- 24 พฤศจิกายน 
กสทชได้ส่งจดหมายถึงผู้ให้บริการ IPTV อาทิ AIS, 3BB, NT, เพื่อให้ผู้ให้บริการกล่องทีวีอินเตอร์เน็ต IPTV ของทุกค่าย คือ AIS PLAYBOX, 3BB TV, NT TOT IPTV สามารถรับชมถ่ายทอดสอลการแข่งขันฟุตบอลโลกได้แล้ว ตามกฎ Must Carry ตามข้อ 6 ทำให้ คนไทยสามารถที่ใช้ AIS PLAYBOX, 3BB TV, NT TOT IPTV สามารถรับการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกได้
2
- 25 พฤศจิกายน 2565 
กลุ่มทรู ส่งสเตทเม้นท์ชี้แจงว่า กลุ่มทรู ภูมิใจร่วมให้คนไทยได้ดูบอลโลก ย้ำช่วยกันดูแล อ้างสิทธิ์ต้องไม่ผิดกฎหมาย หวั่นฝ่าฝืนเสี่ยงถูกระงับ คนไทยอดดูบอลทั่วประเทศ จำเป็นต้องดำเนินการตามขั้นตอน ในฐานะผู้ได้รับสิทธิ์ถ่ายทอดสด World Cup 2022 เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานสากลด้านกฎหมายลิขสิทธิ์
กลุ่มทรู หนึ่งในภาคเอกชนที่ร่วมสนับสนุนซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก World Cup 2022 โดยสนับสนุนงบประมาณ จำนวน 300 ล้าน เพื่อให้ได้สิทธิ์ที่จะได้ถ่ายทอดสดบนดิจิทัลทีวีร่วมกับดิจิทัลทีวีรายอื่น และสิทธิพิเศษในการออกอากาศบนเคเบิล ดาวเทียม ไอพีทีวี บนมือถือ OTT และอินเทอร์เน็ต ซึ่งเป็นข้อเสนอที่การกีฬาแห่งประเทศไทย ได้เสนอให้กับผู้ประกอบการเอกชนรายอื่นๆ ภายใต้ข้อเสนอเดียวกัน
2
โดยกลุ่มทรู เป็นรายเดียวที่ตอบรับข้อเสนอดังกล่าว ด้วยความตั้งใจที่จะร่วมสนับสนุนเพื่อให้คนไทยได้รับชมทันช่วงเวลาการเปิดสนามแข่งขัน รวมทั้งเป็นการลงทุนเพื่อมอบเป็นสิทธิประโยชน์พิเศษสำหรับลูกค้ากลุ่มทรูที่เป็นแฟนบอล ให้สามารถรับชมผ่านช่องทางบริการต่างๆ ของกลุ่มทรู ทั้งทรูวิชั่นส์และทรูไอดี รวมทั้งผ่านมือถือที่ใช้ซิมทรูมูฟ เอช
2
ดังนั้น กลุ่มทรู ในฐานะผู้ได้รับสิทธิ์จากการกีฬาแห่งประเทศไทย จึงยืนยันถึงสิทธิ์ตามที่การกีฬาแห่งประเทศไทยและกลุ่มทรูได้ทำข้อตกลงกันไว้ อันเป็นไปตามมาตรฐานของทั่วโลกที่ให้ความสำคัญกับเรื่องกฎหมายลิขสิทธิ์
2
ทั้งนี้ การคำนึงถึงกฎหมายลิขสิทธิ์ยังได้ถูกระบุอยู่ในประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่องหลักเกณฑ์การเผยแพร่กิจการโทรทัศน์ที่ให้บริการเป็นการทั่วไป (กฎ Must Carry) ของ กสทช. รวมทั้งแนวปฏิบัติตามกฎ Must Carry ที่ระบุว่า การให้บริการโทรทัศน์ตามกฎ Must Carry จะต้องอยู่ภายใต้บังคับของกฎหมายที่เกี่ยวข้องซึ่งรวมถึงกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญาอีกด้วย
2
- 26 พฤศจิกายน 
กลุ่มทรู ส่งสเตทเม้นท์ชี้แจงว่า “ด่วน ศาลทรัพย์สินทางปัญญาฯ ออกคำสั่งห้ามไม่ให้ SBN ผู้ให้บริการ AIS PLAYBOX ถ่ายทอดการแข่งขันฟุตบอลโลก (World Cup Final 2022) ผ่านโครงข่าย IPTV เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายลิขสิทธิ์ทันที”
3
หลังจากมีความกังวลต่อการที่ผู้ให้บริการกล่องไอพีทีวีหลายรายได้อ้างประกาศ Must Carry และดำเนินการแพร่ภาพสัญญาณการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย (FIFA World Cup Final 2022)โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของสิทธิในลิขสิทธิ์ซึ่งเป็นการละเมิดกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญาที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล และจะส่งผลกระทบถึงโอกาสในการรับชมการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย (FIFA World Cup Final 2022) ในประเทศไทย นั้น
4
กลุ่มทรูในฐานะผู้ได้รับสิทธิในการเผยแพร่การแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย (FIFA World Cup Final 2022) แต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยในระบบ IPTV และระบบ OTT ไม่ได้นิ่งนอนใจแต่ประการใดจึงได้ดำเนินการปกป้องสิทธิตามกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญาโดยยื่นฟ้องผู้ให้บริการทีวีอินเตอร์เน็ตรายหนึ่งที่ให้บริการผ่านกล่อง AIS PLAYBOX ต่อศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง พร้อมกับยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งห้ามไม่ให้มีการละเมิดลิขสิทธิ์เป็นการชั่วคราวด้วย
2
ล่าสุด เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 25 พ.ย. 2565 ศาลทรัพย์สินทางปัญญาฯได้มีคำสั่งห้ามบริษัท ซุปเปอร์ บรอดแบนด์ เน็ทเวอร์ค จำกัด(SBN)ผู้ให้บริการ AIS PLAYBOX แพร่เสียงและแพร่ภาพการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย (FIFA World Cup Final 2022)ซึ่งจัดขึ้นที่ประเทศกาตาร์ อันเป็นการคุ้มครองสิทธิของกลุ่มทรูในฐานะผู้ได้รับสิทธิอย่างถูกต้องตามกฎหมายแล้ว
5
จากมาตรการคุ้มครองชั่วคราวดังกล่าวกลุ่มทรูจึงขอแจ้งผู้ให้บริการโทรทัศน์ในระบบ IPTVและระบบ OTT ที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ใช้สิทธิอย่างถูกต้องทั้งหมดระงับการแพร่เสียงและแพร่ภาพการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้าย(FIFA World Cup Final 2022)ในทันที ทั้งนี้เพื่อให้เป็นไปตามแนวทางเดียวกับคำสั่งศาลดังกล่าวและหลีกเลี่ยงผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นจากการละเมิดสิทธิ์ตามกฏหมายทรัพย์สินทางปัญญาต่อไป
3
จากคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวของศาลทรัพย์สินทางปัญญาฯในครั้งนี้ กลุ่มทรูขอชี้แจงว่าจะไม่มีผลกระทบต่อสิทธิในการรับชมฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายของประชาชนทั่วไป คนไทยยังคงสามารถรับชมการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายผ่านการให้บริการโทรทัศน์เป็นการทั่วไป (ฟรีทีวี) ได้ตามปกติ รวมทั้งยังสามารถรับชมการแข่งขันได้ทุกแมตช์ผ่านผู้ให้บริการโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิก(Pay TV)ในระบบเคเบิ้ลทีวีและทีวีดาวเทียมที่ผ่านการเข้ารหัสสัญญาณตามมาตรฐานและหลักเกณฑ์ที่กำหนดแล้ว
1
งานนี้คงต้องติดตามกันต่อไปว่าศึกถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกในประเทศไทยจะจบลงเมื่อใด ต้องต่อสู้กันถึงขั้นยิงจุดโทษเลยหรือไม่
2
#FIFAWorldCup #FIFAWorldCupQatar2022 #True #AIS #AISPLAYBOX #BrandAgeOnline
โฆษณา