29 พ.ย. 2022 เวลา 01:55 • การตลาด
แจกฟรี! คู่มือ 10 Do or Don't กับ Facebook Ads ที่จะช่วยให้การสร้าง Ads ราบรื่นและได้ผลลัพธ์ที่ชื่นใจจจ~
📍 1. [Don't] อย่าลืมกลุ่มผู้ใช้งานบนมือถือ
เพราะกว่า 84% ของรายได้จาก Facebook Ads
ล้วนมาจากโฆษณาบนมือถือทั้งสิ้น
ฉะนั้นอย่าลืมที่จะสร้าง Ads ที่แตกต่างกันออกไป
เพื่อรองรับผู้คนผ่านทางมือถือ และคอมพิวเตอร์
ซึ่งถ้ามีการออกแบบ Ads ให้เหมาะสมกับมือถือแล้ว
อย่าลืมเช็ก Landing Page, เว็บไซต์ หรือ
หน้านำเสนอโปรโมชันด้วยว่ารองรับการแสดงผล
ผ่านมือถือได้เหมาะสมมากแค่ไหน
📍 2. [Don't] อย่าปล่อย Ads ให้รันแบบ Auto-Pilot
.
เราควรจะต้องติดตามผลลัพธ์อยู่เสมอ
โดยเฉพาะในช่วง 24-48 ชม. แรก
จากนั้นค่อยทำการวิเคราะห์ประสิทธิภาพ
หากมีแนวโน้มว่าผลลัพธ์ไม่ดีเท่าไหร่นัก
ให้เราทำการ Optimize เพิ่มเติม
.
แต่วิธีนี้ไม่ควรทำบ่อยนัก เพราะเมื่อเราทำการ
ปรับปรุง Ads เพิ่มเติม มันจะหยุดรันทันที
แล้วต้องใช้เวลาตรวจสอบอีกระยะหนึ่ง
จนกว่า Ads จะกลับมารันตามปกติ
📍 3. [Don't] อย่าใส่ข้อความในภาพเยอะเกินไป
.
แม้ปัจจุบัน Facebook Ads จะเปิดให้ทุกคน
สามารถใส่ข้อความมากเท่าไหร่ในภาพ Ads ก็ได้
แต่มีบทพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า การใส่ข้อความ
ที่มีอัตราส่วนประมาณ 20% ของภาพ
เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดแล้ว
📍 4. [Don't] อย่าสร้างโฆษณาที่ซับซ้อนเกินไป
.
เนื่องจากการยิง Ads มีเรื่องของงบประมาณมาเกี่ยวข้อง
หากเรานำเสนอสิ่งที่ซับซ้อน ต้องคิดซ้ำ
กว่าจะเข้าใจ Ads ตัวนั้น ผู้คนอาจกดผ่านในไม่กี่วินาที
จนสุดท้ายก็ไม่ได้ผลลัพธ์อะไรดี ๆ กลับมาเลย
.
ทางที่ดีที่สุด ต้องนำเสนอให้ครบ กระชับ
ในเวลาที่สั้น เช่น บอกว่า Ads นี้บอกอะไร
มีประโยชน์อย่าง มีความพิเศษเพื่อลูกค้าขนาดไหน
📍 5. [Don't] อย่าพลาดรายละเอียด ตรวจสอบทุกอย่างให้ดี
.
หาก Ads รันออกไปแล้ว จะไม่สามารถแก้ไขแคปชัน
หรือภาพได้ หากต้องการแก้ไข
เราจำเป็นต้องเปลี่ยนโพสต์ที่กำลังโฆษณา
เป็นโพสต์อื่น หลังจากนั้นถึงจะสามารถแก้ไขได้
แต่การทำแบบนี้จะทำให้ระบบเรียนรู้โฆษณาใหม่
ดังนั้นเน้นย้ำเลยว่าก่อนปล่อย Ads ออกไปต้องตรวจสอบให้ดีก่อนนะคะ
📍 6. [Do] กำหนด Audience ให้มีประสิทธิภาพ
.
ขอร้องเลยว่าอย่าคาดเดาเอาเองว่าใครคือลูกค้า
แต่ต้องหมั่นศึกษาและวิเคราะห์อย่างสม่ำเสมอ
ทั้งจากตัวเลือกที่ Facebook กำหนดให้
และจากข้อมูลที่เราหามาได้จาก Insight ของลูกค้าจริง ๆ
📍 7. [Do] ทำ CTA(Call to Action) ให้มากกว่า 1
.
บางครั้งการนำเสนอคอนเทนต์ใน Ads
เราไม่จำเป็นต้องมีตัวเลือกเพียงอย่างเดียว
เช่น..
.
คุณทำธุรกิจขายสินค้าออนไลน์
Ads ไม่จำเป็นต้องนำเสนอการลดราคา
หรือโปรโมชันเพียงอย่างเดียว
อาจเพิ่มเติม Conversion Event
ให้ลูกค้าคลิกไปที่ Landing Page หรือ เว็บไซต์
เพื่อทำการศึกษาเพิ่มเติม
.
และยังอาจเพิ่มช่องทางการติดต่อสอบถามอื่น ๆ
ผ่านประโยคตรงแคปชันได้ด้วย
ส่วนทางด้านสื่อที่เป็นรูปภาพ หรือวิดีโอ
ก็สามารถกำหนดหน้าที่ให้แตกต่างออกไปได้เช่นกัน
📍 8. [Do] A/B Testing
.
เพื่อให้เรารู้ถึงความชอบของกลุ่มเป้าหมาย
บนเพจอย่างแท้จริง การทำ A/B Test
เพื่อเปรียบเทียบ Ads จะช่วยให้เรามองเห็น
แนวทางที่ชัดเจนมากขึ้น จนมีโอกาส
ปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสม มีประสิทธิภาพดีกว่าเดิม
📍 9. [Do] Creative จัดเต็ม สร้าง Ads ให้มีคุณภาพ
.
จะได้สร้างความน่าดึงดูดใจให้กับผู้คนที่เห็น Ads
และมีโอกาสสร้าง Lead ที่มี Potential สูงมากขึ้นนั่นเอง
📍 10. [Do] ใช้ประโยชน์จาก Facebook Pixel
& Retarget Audience
.
หน้าที่หลัก ๆ ของมันคือ การติดตาม Journey
ของลูกค้าที่เข้าไปเยี่ยมชมสินค้า แต่สุดท้าย
ก็ละทิ้งสินค้าในตะกร้าไม่ได้กดซื้อ
.
วิธีนี้จะช่วยให้ Ads ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า
ที่เคยชมสินค้า หรือละทิ้งตะกร้าไป
ได้มีโอกาสเจอ Ads ที่ช่วยกระตุ้น
และสร้างแนวโน้มปิดการขายได้อีกครั้ง
ในเมื่อเรากำลังจะลงทุนยิง Ads ทั้งที
อย่างน้อย ๆ ก็อยากให้ทุกคนรัดกุมตั้งแต่ก่อนเริ่ม
จะได้สร้างยอดขายแบบสับ
โดยที่ไม่ต้องมานั่งผิดหวังทีหลังนั่นเองค่ะ!
.
Source
.
#DigitalTipsAcademy #DigitalMarketing #การตลาดออนไลน์ #SME #ผู้ประกอบการ #เจ้าของธุรกิจ #DigitalSME #การตลาดดิจิทัล #Upskill #DigitalTipsTrick
.
📍คอร์สเรียนสด สถานที่เรียน: Victor Club สาทรสแควร์
มกราคม 66
14-15 ม.ค. ✅ LINE OA & LINE SHOPPING
28 - 29 ม.ค. ✅ Facebook Advertising
กุมภาพันธ์ 66
5 ก.พ. ✅ TikTok Marketing
📍คอร์สออนไลน์
มกราคม 66
12,16,18,19 ม.ค.✅Content Marketing รุ่นที่ 5
========================
🌟 อย่าลืม กด See First เพื่อ
#อัปเดตความรู้การตลาดออนไลน์ก่อนใคร
ช่องทางติดตามอื่นๆ
LINE: @DigitalTips
Instagram: @Digitaltips_Academy
TikTok: @thedigitaltips
โฆษณา