[World Update] ยุโรป เว่งแจ้น! ภาคพลังงานอุตสาหกรรมดับสนิท ซ้ายวิ่งหาลูกพี่สหรัฐฯ ขวาวิ่งหาจีน ชาวเอเซีย จะมีค่านิยมกับต่างประเทศ "เห็นพ้องตรงกันเพื่อให้ทั้งสองฝ่ายใกล้ชิดกันมากขึ้น" แต่ชาวตะวันตกจะต่างออกไป พวกเขา

สำรวจ
ลงทุน
คำถาม

มีบัญชีอยู่แล้ว?หรือ

•

29 พ.ย. 2022 เวลา 03:19 • หุ้น & เศรษฐกิจ

ยุโรป เว่งแจ้น! ภาคพลังงานอุตสาหกรรมดับสนิท ซ้ายวิ่งหาลูกพี่สหรัฐฯ ขวาวิ่งหาจีน

ชาวเอเซีย จะมีค่านิยมกับต่างประเทศ "เห็นพ้องตรงกันเพื่อให้ทั้งสองฝ่ายใกล้ชิดกันมากขึ้น" แต่ชาวตะวันตกจะต่างออกไป พวกเขาจะมีค่านิยม "สร้างประเด็นที่เป็นข้อกังวลขัดแย้งร่วมกันเพื่อให้ทั้งสองฝ่ายใกล้ชิดกันมากขึ้น" ตรงข้ามกับชาวเอเซีย

จะสังเกตุได้ง่ายๆ ในสังคมชาวตะวันตกแม้แต่ในระดับพื้นฐานครอบครัว จะพบการหย่าร้างแยกทางกันสูงกว่าชาวเอเซีย ดังนั้นเมื่อเผยแพร่หลักค่านิยมนี้ไปในรูปแบบที่ชื่อว่าประชาธิปไตย เสรีภาพ

คนไร้บ้านใกล้ทำเนียบขาวสหรัฐ

เมื่อคำนี้ไปยังดินแดนใด ที่นั่นที่เคยสงบสุข ก็จะไม่มีความสงบสุขอีกต่อไป จะเกิดความขัดแย้งตามมา แบ่งฝักแบ่งฝ่าย แบนกันไปแบนกันมาทุกประเด็น เพื่อแบ่งข้างผู้คนออกจากกัน

ในยุโรปนั้นก็เลยมีค่านิยมสร้างประเด็นที่เป็นข้อกังวลขัดแย้งร่วมกันเพื่อให้ทั้งสองฝ่ายใกล้ชิดกันมากขึ้นนั่นเอง

การที่ EU ออกมาตรการคว่ำบาตรรัสเซีย จนเดือดร้อนวิกฤติพลังงาน เงินเฟ้อและค่าครองชีพสูง เศรษฐกิจถดถอย

พวกเขาจะไม่มองว่าต้นตอเกิดจากพวกเขาคว่ำบาตรรัสเซีย แต่ชาวยุโรปจะพากันชี้มือไปที่เป็นความผิดรัสเซีย ทั้งที่รัสเซียยังไม่ได้ทำอะไรเลยต่อชาวยุโรป

ส่วนข้อพิพาทกับยูเครนนั้นก็เป็นเรื่องปกติของชาติที่มีชายแดนติดกัน

ในโลกนี้ชาติที่มีพรมแดนติดกัน ล้วนมีข้อพิพาทชายแดนกันทั้งนั้น แต่เมื่อชาวยุโรป ไปยุ่งเรื่องของชาวบ้านแล้วเลือกข้างฝ่ายหนึ่งคือยูเครน จึงพาลพากันไปโทษรัสเซีย ว่าเป็นสาเหตุวิกฤติพลังงาน และเศรษฐกิจในยุโรป หน้าตาเฉย

นั่นเป็นเพราะพวกเขาสร้างประเด็นที่เป็นข้อกังวลขัดแย้งร่วมกัน เมื่อยุโรปเดือดร้อนกันถ้วนหน้า จึงเริ่มมีบางชาติรู้สึกว่าถูกสหรัฐฯ หักหลังซ้ำเติมโก่งราคาขายพลังงาน และออกกฎหมายกีดกันทางการค้ายุโรป

ช่วงหลังมาจึงมีชาติยุโรปมองเห็นการเอารัดเอาเปรียบพวกเดียวกันเองโดยใช้อำนาจเหนือกว่าของสหรัฐฯ เริ่มเกิดความไม่ไว้วางใจ จึงพยายามหลีกเลี่ยงการเดินตามก้นสหรัฐฯ ในทุกประเด็นมากขึ้นเรื่อยๆ

กฎหมายลดอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯ (IRA) ครอบคลุมการลงทุนขนาดใหญ่ในภาคพลังงาน เงินอุดหนุนจากรัฐจำนวนมากสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า แบตเตอรี่ และโครงการพลังงานหมุนเวียน

มีให้สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ผลิตในสหรัฐฯ เท่านั้นคือ "ระเบิดการค้าลูกใหม่ที่โยนใส่ยุโรป"

บริษัทในสหภาพยุโรป โดยเฉพาะผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติเยอรมัน ฝรั่งเศส กลายเป็นเหยื่อรายใหญ่ที่สุดของมาตรการนี้ของสหรัฐฯ เพราะเป็นตลาดส่งออกขนาดใหญ่ของรถยนต์มาตลอด

จัดเป็นกฎหมายเลือกปฏิบัติ กีดกันทางการค้าต่อผู้ผลิตจากต่างประเทศโดยเฉพาะพุ่งเป้าเล่นงานทุบอุตสาหกรรมชาวยุโรปเพื่อไม่ให้แข่งขันสหรัฐฯ ได้

เพราะ 2 ฝ่ายนี้มีการชิงดีชิงเด่นแข่งขันทางอุตสาหกรรมมานานกว่า 2 ศตวรรษแล้ว สิ่งที่ชาวโลกเห็นทุกวันนี้พวกเขาต่างถือดาบไว้ข้างหลังรอจังหวะทำร้ายกันเองและคบกันเพียงฉากหน้าผิวเผิน

ดังนั้นในช่วงจากนี้ไป จะเห็นการการวิ่งวุ่นเอาตัวรอดจากหายนะทางภาคอุตสาหกรรมของยุโรปดังนี้

1. ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศสจะแจ้นไปสหรัฐฯ และหารือการแข่งขันทางเศรษฐกิจที่ขมขื่นระหว่างทั้งสองฝ่าย ในกฎหมาย IRA โดยจะอ้างว่าต้องแข่งขันกับจีน

จึงคาดว่าฝรั่งเศสจะกินแห้วกลับบ้านมือเปล่า

2. นายโจเซฟ บอร์เรลล์ หัวหน้านโยบายต่างประเทศของสหภาพยุโรป จะแจ้นไปสหรัฐฯ เพื่อโชว์พาวต้องการแสดงอิทธิพลของ EU ต่อโลก ส่วนสหรัฐฯ จะบล๊าฟกลับแสดงอิทธิพลเหนือกว่า เพราะรู้ดีว่า EU กำลังอ่อนแอมีปัญหาทางเศรษฐกิจและอำนาจ

จึงคาดว่า EU จะกินแห้วกลับบ้านมือเปล่า

สหรัฐฯ ได้ทีจะยิ่งกดหัวยุโรปโดยไม่อนุญาตให้บริษัทระดับโลกอื่นๆ ลงทุนด้านการออกแบบชิปคอมพิวเตอร์ในจีน

ซึ่งจะสร้างความเสียหายให้กับบริษัทในยุโรปหลายประเทศ เพราะตลาดส่วนใหญ่มาจากจีน ยิ่งขาดสินค้าจีนจะยิ่งเริ่งอัตราหายนะยุโรปเร็วขึ้น

มากสุดสหรัฐฯ อาจออกกฎหมายเพื่อยกเว้นบางบริษัทจากชาติขาใหญ่ที่ไปขอ แต่จะไม่ยกเว้นให้ทั้ง EU แน่นอน

จึงจะทำให้ 2 ฝ่ายนี้มีข้อกังวลขัดแย้งร่วมกัน เพื่อหวังให้ทั้งสองฝ่ายใกล้ชิดกันมากขึ้นตามค่านิยมพวกเขา

3. นายชาร์ลส์ มิเชล ประธานสภายุโรปจะแจ้นไปจีน เพื่อขอให้ช่วยเจรจารัสเซีย ในสงครามยูเครน เพราะยุโรปช่วยจนเต็มขีดจำกัดแล้ว , ประเด็นไต้หวัน และเศรษฐกิจที่จีนได้ดุลการค้าสูง

คาดว่า EU จะได้ประโยชน์การค้าติดมือกลับบ้าน

สหรัฐฯ ยุยงยูเครน ให้ขัดแย้งกับรัสเซีย เพื่อแบ่งแยกกีดกันยุโรป ออกจากรัสเซีย สร้างความมั่งคั่งให้สหรัฐฯ ฝ่ายเดียวอย่างมากในส่งออกพลังงานราคาแพงให้ EU

ทำลายอุตสาหกรรมยุโรปคู่แข่ง ให้ติดกับดักไม่มั่นคง และวิกฤติพลังงานราคาแพงขึ้นมหาศาลจนอยู่ไม่ไหว

ชาวยุโรปก็ติดกับดักภาวะเงินเฟ้อสูง ค่าครองชีพพุ่งโด่ง ของแพงทั้งแผ่นดิน

สรุป..สหรัฐฯ ยังดิ้นรนยืดอายุระเบียบโลกเก่าขั้วเดียวที่ผุพัง หวังเป็นเจ้าโลกทางการเงินและเทคโนโลยีต่อไป โดยผลักภาระให้ยุโรป รับเคราะห์ไปเต็มๆ ฝ่ายเดียว เตะตัดขาคู่แข่งให้ล้มลงเพื่อที่สหรัฐฯ จะวิ่งต่อไป ทิ้งยุโรปไว้ข้างทาง

สงครามไฮบริดสมัยใหม่ ยูเครน และยุโรป ก็แค่เป็นเหยื่อและหมากในกระดาน ให้สหรัฐฯ เล่นเกมส์สกัดระเบียบโลกใหม่หลายขั้วกับจีน ฝ่ายบุ๋น และรัสเซีย ฝ่ายบู้ เท่านั้นเอง