30 พ.ย. 2022 เวลา 07:19 • กีฬา
ข่าวสั่นสะเทือนฟุตบอลอิตาเลียน เมื่อผู้บริหารยูเวนตุส 10 คน ประกาศลาออกยกแผง เหตุผลเพราะมองว่าตัวเองทำทีมได้สุดทางแล้ว เรื่องราวเป็นอย่างไร เราจะสรุปให้เข้าใจง่ายที่สุด
2
ยูเว่ภายใต้การดูแลของพวกเขา ไม่สามารถไปไกลได้กว่านี้อีกแล้ว ดังนั้นก็ลาออกซะ แล้วให้ผู้คนหน้าใหม่ๆ ที่มีพลังมากกว่า Fresh กว่า เข้ามาแก้ปัญหาที่มี และทำงานแทนที่
1
ผู้บริหาร 10 คนของยูเวนตุส ที่ลาออก ประกอบด้วย
1) อันเดรีย อันเยลลี่ - ประธานสโมสร
2) พาเวล เน็ดเว็ด - รองประธานสโมสร
3) เมาริซิโอ อาร์ริวาเบเน่ - ซีอีโอ
4) ลอเรนซ์ เดโบรซ์ - ผู้อำนวยการแผนกการเงิน
5) แคทรีน ฟิงค์ - ผู้อำนวยการแผนกสื่อสารองค์กร
6) มัสซิโม เดลล่า ราโชเน่ - กรรมการบริหาร
7) ดานิเอล่า มาริลังโก้ - กรรมการบริหาร
2
8 ) ฟรานเชสโก้ รอนซาจิโอ - กรรมการบริหาร
9) จอร์โจ้ ทาชเจีย - กรรมการบริหาร
1
10) ซูซาน เฮย์วูด - กรรมการบริหาร
ก่อนอื่นต้องอธิบายว่า ยูเวนตุส เป็นสมบัติของตระกูลอันเยลลี่ หนึ่งในผู้ก่อตั้งรถยนต์ยี่ห้อ Fiat ดังนั้น ถ้าคนในตระกูลอันเยลลี่พร้อม ก็มักจะมารับหน้าที่ เป็นประธานสโมสรด้วยตัวเองอยู่เสมอ
รุ่นที่ 1 คือคุณปู่ เอดูอาร์โด้ มาสู่รุ่น 2 คุณลุงชื่อจานนี่ และ รุ่น 3 คือคุณพ่ออุมเบอร์โต้ และมาถึง รุ่นที่ 4 นั่นคืออันเดรีย อันเยลลี่ ขึ้นมาเป็นประธานสโมสร ในปี 2010
สำหรับอันเดรีย อันเยลลี่ เขาเข้ามาเป็นประธานสโมสรในยุคที่ยูเวนตุสอยู่ในช่วงขาลง และโดนอินเตอร์ มิลานยึดครองอำนาจ เขาไม่ได้เริ่ม ในช่วงที่ทีมเก่งอยู่แล้ว
เมื่อพูดถึงยุคสมัยของอันเดรีย อันเยลลี่ ก็มีการตัดสินใจที่ผิดและถูก สลับๆ กันไป
การตัดสินใจที่ผิด ก็เช่น เขาแต่งตั้งโค้ช ลุยจิ เดลเนรี่ เป็นกุนซือคนแรก แต่เดลเนรี่ ไม่ใช่พวกทะเยอทะยาน มีเกมที่ยูเวนตุส ตีเสมอคิเอโว่ได้ 1-1 นาทีที่ 90+3 หลังจบเกม เดลเนรี่ มีความสุขมาก เขากล่าวว่า "เราทำผลงานได้ดี ที่เจอกับคู่แข่งที่ไม่ธรรมดา" คือโอเค การตีเสมอได้ท้ายเกมมันก็ดีนั่นแหละ แต่ลืมไปหรือเปล่าว่า นี่คือยูเวนตุส ทีมอย่างยูเวนตุส ไม่ควรมาพอใจอะไรกับเสมอทีมอย่างคิเอโว่
จบฤดูกาล 2010-11 ยูเว่จบอันดับ 7 และตกรอบแบ่งกลุ่มยูโรป้าลีก หนทางแห่งความสำเร็จไม่รู้อยู่ตรงไหน
1
แต่อันเยลลี่ ก็ไม่ปล่อยให้พลาดนาน พอจบซีซั่นเขาไล่เดลเนรี่ออก แล้วแต่งตั้งอันโตนิโอ คอนเต้ วัย 42 ปี เฮดโค้ชจากสโมสรเซียน่า ขึ้นคุมแทน เพราะอันเยลลี่เชื่อในความสามารถของคอนเต้ และยิ่งบวกกับความเป็นนักเตะเก่า จึงน่าจะเข้าใจแพสชั่น และคาแรคเตอร์ของสโมสรเป็นอย่างดี คนอย่างคอนเต้คงไม่พอใจที่เสมอคิเอโว่แน่นอน
นอกจากนั้น อันเยลลี่ ยังเดินหน้าคว้าตัวอันเดรีย ปิร์โล่ ที่หมดสัญญากับเอซี มิลาน มาเสริมทัพทันที โดยตอนนั้นปิร์โล่อายุ 32 ปี หลายคนมองว่า ปิร์โล่ "หมดไปแล้ว" แต่อันเยลลี่เชื่อมั่นว่า ปิร์โล่ยังมีของอยู่
การได้ตัวคอนเต้ และ ปิร์โล่ เป็นสองกุญแจสำคัญ ที่ทำให้ยูเวนตุสคืนชีพ ในปีแรกของคอนเต้ (2011-12) ยูเวนตุสกลับมาเป็นแชมป์เซเรีย อา ได้ทันที
เมื่อคอนเต้ลาออกไปคุมทีมชาติอิตาลี คนที่มาแทนคือแม็กซ์ อัลเลกรี ซึ่งก็เก่งเหมือนกัน เขาพายูเว่ไปสู่ช่วงขาขึ้น ทีมได้แชมป์เซเรีย อา เป็นประจำ และเข้าชิงยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกได้ถึง 2 หน แม้จะไม่ได้แชมป์ (แพ้บาร์เซโลน่า และ เรอัล มาดริด) แต่มันก็พอทำให้เห็นว่า ทิศทางของทีมม้าลาย ดูจะแกร่งขึ้นเรื่อยๆ
ในสนามไปได้สวย นอกสนามธุรกิจก็ดี อันเยลลี่ เลิกเช่าสนามของสภาเมืองตูริน (เดเล่ อัลปิ) มาสร้างสนามของตัวเอง ยูเวนตุส สเตเดี้ยม แม้จะมีขนาดเล็กลง แต่ก็ทันสมัยขึ้น และได้รับเกรด 4 Star Stadium จากยูฟ่าด้วย
จุดหายนะของยูเวนตุส เริ่มต้นในปี 2018 เมื่ออันเยลลี่ กับ ซีอีโอของทีม เบ็ปเป้ มาร็อตต้า เห็นไม่ตรงกันเรื่องการซื้อตัวคริสเตียโน่ โรนัลโด้
อันเยลลี่ กับ ฟาบิโอ ปาริติชี่ ผู้อำนวยการกีฬาสโมสร มองว่ายูเวนตุสได้แชมป์เซเรีย อา อย่างต่อเนื่องแล้ว ตลาดของแฟนๆ ก็มาไกลสุดได้แค่นี้แล้ว ดังนั้นการจะยกระดับทีมขึ้นไปอีกเลเวล จำเป็นต้องมีสตาร์ระดับโลกเข้ามาสู่ทีม
3
ณ เวลานั้น คริสเตียโน่ โรนัลโด้ (33 ปี) อยากย้ายออกจากเรอัล มาดริด ทำให้อันเยลลี่ ติดต่อขอซื้อด้วยราคา 105 ล้านยูโร พร้อมด้วยสัญญาค่าเหนื่อยที่เป็นสถิติของเซเรีย อา คือ 58 ล้านยูโร ต่อปี (สัปดาห์ละ 1.1 ล้านยูโร)
2
มาร็อตต้าเห็นแย้งกับดีลนี้ เพราะเขาเชื่อว่า โรนัลโด้จะมาทำให้ระบบการเงินของทีมพัง ถ้าหากทีมไม่ใช้เงินมหาศาลกับโรนัลโด้คนเดียว ก็จะสามารถซื้อตัวผู้เล่นเกรด B+ หรือ A ได้อีกหลายคน และมีงบไปใช้พัฒนาระบบเยาวชนได้ด้วย หลักการเบื้องต้น คือทีมไม่ควรสร้าง โดยทุ่มเงินไปที่สตาร์คนเดียว
3
แต่อันเยลลี่ กับ ปาริติชี่ มองในธุรกิจภาพรวมมากกว่า ถ้ายูเว่ดีลกับโรนัลโด้ได้ สโมสรจะกลายเป็นจุดสนใจของทั้งโลก นำมาซึ่งการยกระดับทีมไปสู่อีกเลเวลหนึ่ง ที่ไม่เคยไปถึงมาก่อน
คุณอยากเป็นยูเว่ ราชาแห่งอิตาลีต่อไปเรื่อยๆ หรือจะสร้างความนิยมในระดับเดียวกับ บาร์เซโลน่า และ เรอัล มาดริดล่ะ? คนเป็นเจ้าของทีมมันก็ต้องตัดสินใจเหมือนกัน
สุดท้ายดีลโรนัลโด้ก็เกิดขึ้น และมันก็เป็นจริงตามที่อันเยลลี่คิด เพราะยูเว่ได้รับความสนใจอย่างมหาศาล สื่อมวลชนทั่วโลกต้องการขอเข้ามาชมเกม คือต้องขอ Accreditation Credit กันล่วงหน้านานมาก และจำนวนแฟนๆ ที่เข้ามากดไลค์โซเชียลมีเดียของสโมสรก็เยอะขึ้นกว่าอย่างชัดเจน
แต่เรื่องนี้เป็นจุดแตกหักกับเบ็ปเป้ มาร็อตต้า ทำให้เขาลาออก แล้วย้ายไปเป็นซีอีโอให้อินเตอร์ มิลาน คู่ปรับสำคัญแทน
2
การมาของคริสเตียโน่ โรนัลโด้ ทำให้ทีมได้แชมป์เซเรีย อา 2 สมัยก็จริง แต่ไปไม่ถึงยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกอยู่ดี ยิ่งมาเจอโควิดพอดี ทำให้สโมสรต้องเจ็บตัวหนักมาก จากการจ่ายค่าเหนื่อยมหาศาลให้โรนัลโด้ แต่ไม่มีรายได้ค่าตั๋วชมเกม
สโมสรจึงเจอภาวะขาดทุนมาตลอด จนในฤดูกาล 2021-22 ยูเว่ ขาดทุนเป็นประวัติการณ์ ถึง 254.3 ล้านยูโร คือการเงินวิกฤติมาก
การไม่มีมาร็อตต้าคอยช่วย ทำให้อันเยลลี่ ตัดสินใจพลาดบ่อยขึ้น ตั้งแต่เลือกเมาริซิโอ ซาร์รี่ เป็นเฮดโค้ช (2019-20) ตามด้วย อันเดรีย ปิร์โล่ (2020-21) ซึ่งไม่เวิร์กทั้งคู่ เสียค่าฉีกสัญญาสองรอบ แล้วก็ต้องไปวนเอาแม็กซ์ อัลเลกรี กลับมาเป็นโค้ชอีกครั้งอยู่ดี
1
ส่วนนอกสนาม ภาพลักษณ์ของยูเว่ก็เสื่อมเสีย เพราะฟาบิโอ ปาริติชี่ ไปช่วยหลุยส์ ซัวเรซ โกงข้อสอบภาษาอิตาเลียน แล้วโดนจับได้ จนโดนคนประณามทั้งประเทศ
1
ตามด้วยการไปเข้าร่วมโปรเจ็กต์ Super League เพื่อขอแยกตัวจากยูฟ่า กะจะโกยเงินเยอะๆ อยู่ทีมเดียว เรื่องนี้ก็โดนคนในอิตาลีเอง วิจารณ์เละเทะ ว่าคิดตัดช่องน้อยแต่พอตัว ไม่สนใจฟุตบอลรากหญ้าเลยใช่ไหม
นี่ยังไม่นับคดีใหญ่ "Prisma investigation" ที่ยูเว่แอบตกแต่งบัญชี ในช่วงปี 2019-2021 เพื่อหลบเลี่ยงกฎไฟแนนเชียล แฟร์เพลย์ ทำให้สโมสรเหมือนจะมีกำไรเยอะๆ ทั้งๆที่จริงๆ ไม่ได้มีเงินแบบนั้น
3
ตัวอย่างเช่น ตอนที่ยูเวนตุส ซื้ออาร์ตูร์ เมโล่ จากบาร์เซโลน่าในราคา 72 ล้านยูโร แต่ปล่อยมิราเล็ม ปานิช ในราคา 60 ล้านยูโรให้บาร์ซ่า
หลายคนเห็นดีลนี้ก็สงสัยว่า ทำไมยูเว่ไม่จ่าย 12 ล้านปอนด์ไปเลยล่ะ ที่เป็นส่วนต่าง จะมาซื้อ 72 ขาย 60 ทำไม ซึ่งในข้อเท็จจริงนี่เป็นส่วนหนึ่งของแผนในการตกแต่งบัญชี
2
อัยการเมืองตูรินเข้ามาสอบสวนสโมสร และอันเยลลี่ โดนคำสั่งห้ามออกนอกประเทศเพื่อหนีคดี เรียกได้ว่าความวุ่นวายเกิดขึ้นแบบน็อนสต็อป
1
ปัญหานอกสนาม ส่งผลต่อฟอร์มในสนามด้วย ยูเว่ไม่ได้แชมป์ลีกมาแล้ว 2 สมัย และปีนี้ก็ส่อแววว่าจะไม่ได้อีก เพราะช่องว่างห่างจากจ่าฝูงนาโปลีถึง 10 แต้มแล้ว ส่วนในยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก ก็ตกรอบแบ่งกลุ่มไปเรียบร้อยแล้ว แข่ง 6 นัด มี 3 แต้ม เรียกได้ว่าน่ารันทดมาก
2
เมื่อปัญหารุมเร้า และไม่สามารถหาทางออกได้อีกแล้ว อันเยลลี่ จึงตัดสินใจลาออกจากตำแหน่ง พร้อมผู้บริหารอีก 9 คน เพื่อให้สโมสรเดินหน้าไปต่อได้ และคนที่เกี่ยวข้องกับคดี Prisma ก็จะยอมรับการสืบสวนจากภาครัฐต่อไป เอาให้ทุกอย่างเคลียร์และโปร่งใสที่สุด
2
แถลงการณ์ของอันเยลลี่ กล่าวว่า "เมื่อทีมเราไม่เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน มันเปิดโอกาสให้คู่แข่งเล่นงานเราได้ และเรื่องนี้มันอาจรุนแรงจนถึงขั้นพังพินาศ ดังนั้นเราต้องควบคุมความเสียหายให้มากที่สุด ด้วยการเปลี่ยนแปลงผู้บริหาร"
"เจตนาของผมแต่แรก คือตั้งใจจะพัฒนาสโมสรให้ดีขึ้นกว่าเดิม แม้หลายคนจะไม่เข้าใจสิ่งที่ผมทำก็ตาม เหมือนกับสุภาษิตของฟรีดริช นีตซ์เซ่ ที่กล่าวว่า 'คุณไปว่าคนที่เขาเต้นแร้งเต้นกาว่าเป็นคนบ้า แต่ตัวคุณเองหรือเปล่า ที่ไม่ได้ยินเสียงเพลง' "
3
"สุดท้ายนี้ผมจะจดจำทุกคนไม่ลืม ถ้าเจอกันที่ไหนก็ทักกันได้เสมอ เพราะพวกเราคือชาวยูเว่เหมือนกันตลอดไป"
12 ปี ของอันเดรีย อันเยลลี่ ก็จบตรงนี้ และสโมสรต้องเดินหน้าใหม่ โดยเบื้องต้น สื่ออิตาลีชี้ว่าประธานสโมสรคนใหม่ อาจจะเป็น จอห์น เอลคานน์ นักธุรกิจอิตาเลียน-อเมริกัน ที่เป็นเครือญาติกันนั่นเอง โดยปัจจุบัน เอลคานน์ เป็นประธานบริหารอยู่ที่เฟอร์รารี่
1
หรืออีกชอยส์หนึ่งที่น่าสนใจ ไม่ใช่คนจากตระกูลอันเยลลี่ แต่เป็นอดีตตำนานอย่างอเลสซานโดร เดล ปิเอโร่ ให้ขึ้นมารับตำแหน่งประธานสโมสรไปเลย เพราะเป็นคนที่แฟนบอลยอมรับ อาจจะช่วยประคองสถานการณ์ยากๆ นี้ให้ผ่านไปได้ แม้เดล ปิเอโร่ จะไม่มีความรู้เกี่ยวกับการบริหารองค์กรมาก่อนก็ตาม
2
สำหรับเดล ปิเอโร่ รู้ข่าวนี้แล้ว เขากล่าวว่า "มันเป็นเรื่องน่าเศร้า เพราะแต่ละคนเป็นเพื่อนของผมทั้งนั้น อันเดรีย อันเยลลี่ และ พาเวล เน็ดเว็ด ทุกคนเหล่านี้เป็นคนที่ผมแชร์ประสบการณ์อันงดงามในเส้นทางที่ยูเวนตุส ผมเสียใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น แต่ทีมอย่างยูเวนตุสจะกลับมาได้ พวกเราเคยตกชั้นในปี 2006 แต่พอคัมแบ็กกลับมา ก็คว้าแชมป์ลีก 9 สมัยติดต่อกัน"
สถานการณ์ตอนนี้สโมสรจะคัดหาประธานสโมสรมาขัดตาทัพชั่วคราวในช่วงสั้นๆ ก่อน จนกว่าจะหาคนที่เหมาะสมได้ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะเป็นเมื่อไหร่ ขณะที่เฮดโค้ชแม็กซ์ อัลเลกรี ก็จะคุมทีมต่อไปตามเดิม ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงในเร็ววันนี้
ในปี 2023 สโมสรยูเวนตุสยุคที่ตระกูลอันเยลลี่เป็นเจ้าของจะมีอายุครบ 100 ปี นี่คือหมุดหมายที่สำคัญมากของทีม แต่ปัญหานอกสนามยังคงรุมเร้าอยู่เลย ก็ต้องมาดูกันต่อไปว่าทีมม้าลาย จะผ่านวิกฤติเรื่องนี้ไปได้เร็วแค่ไหน
จริงๆ แล้วเป็นวัฏจักรของวงการฟุตบอล มีขึ้น แล้วก็มีลง ในอดีตยูเวนตุสขึ้นสุดไปแล้ว การได้แชมป์ลีก 9 สมัยติดต่อกัน เป็นประวัติการณ์ ที่ไม่เคยมีใครทำได้มาก่อนในอิตาลี
1
แต่เมื่อขึ้นสุดไปแล้ว ก็ถึงเวลาขาลง และทีมจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง เปลี่ยนผู้บริหาร เปลี่ยนไอเดีย เปลี่ยนความคิด และถ้าหากเจอคนที่เหมาะสมเมื่อไหร่ ยูเวนตุสทีมนี้ ก็พร้อมกลับมาท้าทายแย่งแชมป์เซเรีย อา ได้เช่นเดิมอย่างแน่นอน
โฆษณา