1 ธ.ค. 2022 เวลา 02:20 • หุ้น & เศรษฐกิจ
✅Morning Update 01.12.2022
1.ตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียโดยรวมฟื้นตัวต่อเนื่องรับความหวังจีนเปิดประเทศและการผ่อนคลายมาตรการล็อคดาวน์ มีเพียงตลาดหุ้นญี่ปุ่นที่ปิดปรับตัวลดลงสวนทางภูมิภาคโดย Topix ปิดที่ -0.37% ตอบรับข้อมูลผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนตุลาคมหดตัวลง -2.6% ซึ่งหดตัวกว่าที่ตลาดคาดที่ระดับ -1.5%
ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปรับตัวเพิ่มขึ้นโดย Kospi ปิดที่ +1.61%
ตลาดหุ้นจีนปิดบวกเล็กน้อยโดยถูกกดดันจาก รายงานดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ทั้งภาคการผลิตและภาคบริการเดือนพ.ย. ชะลอตัวลงต่อเนื่องมากกว่าที่ตลาดคาด โดยดัชนี PMI ภาคการผลิตอยู่ที่ระดับ 48 ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 49 ขณะที่ดัชนี PMI ภาคบริการอยู่ที่ระดับ 46.7 ในเดือนพ.ย. ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 48
ดัชนี PMI ที่อยู่ต่ำกว่าระดับ 50 บ่งชี้ว่าทั้งภาคการผลิตและภาคบริการของจีนอยู่ในภาวะหดตัว
ในขณะที่ฮ่องกงฟื้นตัวได้ดีกว่าโดย CSI300 +0.12% / HSCEI +2.21% / และ HSI +2.16%
ตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นรับข่าว กนง.มีมติเป็นเอกฉันท์ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% เป็น 1.25% ตามคาด โดยธปท.ยังเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไป โดยมองว่าเงินเฟ้อไทยผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว ในขณะที่เศรษฐกิจมีแนวโน้มขยายตัวจากภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคภาคเอกชน โดย SET ปิดที่ 1,633.16 จุด (+0.60%)
ตลาดหุ้นเวียดนามปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 โดย VNI index +1.58%
Europe
2.ตัวเลขประมาณการเงินเฟ้อของยุโรปเดือนพฤศจิกายนหรือ CPI ชะลอตัวลงกว่าที่คาด เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า (MoM) หดตัวลง -0.1% ในขณะที่ CPI เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีที่แล้วขยายตัว 10% (YoY) ซึ่งต่ำกว่าที่ตลาดคาดการณ์ที่ระดับ 10.4% ทำให้นักลงทุนเริ่มคาดหวังการชะลอขึ้นดอกเบี้ยของ ECB โดยตลาดหุ้นยุโรปหรือ Stoxx 600 ปิดบวกที่ 440.04 (+0.63%)
3. เยอรมนีประกาศอัตราการว่างงานประจำเดือนพฤศจิกายน อยู่ที่ระดับ 5.6% สูงขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนที่ระดับ 5.5%
4. ฝรั่งเศสประกาศตัวเลขเงินเฟ้อประจำเดือนพฤศจิกายนหรือ CPI เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า (MoM) ขยายตัวที่ 0.4% ซึ่งชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับเดือนที่แล้ว ในขณะที่การประมาณการ GDP ไตรมาส 3 คาดว่าจะขยายตัวเพียง 0.2% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา (QoQ)
US
5. ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกแรงทั้ง 3 ตลาด หลังนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) แถลงว่าเฟดมีแนวโน้มที่จะขึ้นดอกเบี้ยชะลอตัวลงในการประชุมครั้งถัดไป พร้อมระบุว่าระดับดอกเบี้ยในปัจจุบันสามารถที่จะลดเงินเฟ้อลงได้ แต่อัตราดอกเบี้ยยังคงห่างไกลจากจุดสูงสุด โดยดัชนี Dow Jones +737.24 จุด +2.18% / S&P 500 +122.48 จุด +3.09%/ และ Nasdaq 100 +526.61 จุด +4.58%
6. หุ้นที่ Outperform ตลาด 3 อันดับสูงสุด ได้แก่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี +5.03% กลุ่มสื่อสาร +4.91% และกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย +3.48%
หุ้นที่ Underperform ตลาด 3 อันดับสูงสุด ได้แก่หุ้นกลุ่มพลังงาน +0.54% กลุ่มผู้ผลิตภาคอุตสาหกรรม +1.59% และกลุ่มสถาบันการเงิน +1.65%
7. ประมาณการ GDP สหรัฐไตรมาส 3 ออกมาขยายตัวกว่าที่คาดเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) โดยขยายตัวที่ 2.9% สูงกว่าที่คาดการณ์ 2.7%
8.ข้อมูลแรงงานสหรัฐให้ข้อมูลที่สวนทางกัน โดยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนพฤศจิกายนหรือ ADP Non Farm Employment เพิ่มขึ้น 1.27 แสนตำแหน่ง ต่ำกว่าที่คาดการณ์ที่ระดับ 2 แสนตำแหน่ง ในขณะที่ตัวเลขตำแหน่งเปิดรับสมัครงานประจำเดือนตุลาคม หรือ JOLTs Job Openings อยู่ที่ระดับ 10.334 ล้านตำแหน่ง ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ 10.30 ล้านตำแหน่ง
9.ข้อมูลบ้านที่รอการขายประจำเดือนตุลาคม หรือ Pending home sales หดตัวลง -4.6% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า (MoM) โดยหดตัวลงน้อยกว่าที่ตลาด -5.0%
10. หุ้นเทคโนโลยีขนาดใหญ่ปรับตัวขึ้นแรงนำโดย Meta (+7.89%) Google (+6.09%) และ Apple (+4.86%)/ หุ้น Innovation / หุ้น Semiconductor / ETF ด้าน Technology & Innovation รวมถึง ADRs หรือหุ้นจีนและเอเชียที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ดีทั้งหมด
11. S&P500 VIX Index ปรับตัวลดลงโดยปิดที่ 20.58 จุด (-5.98%) / Nasdaq 100 VIX ปรับตัวลดลงโดยปิดที่ 26.46 จุด (-6.70%)
12. Bond Yield หรืออัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ปรับตัวลดลง โดยล่าสุดอยู่ที่ 3.611%
13. ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง โดยล่าสุดอยู่ที่ 106.01 จุด / ค่าเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่อง โดยล่าสุดอยู่ที่ 35.11 บาทต่อดอลลาร์
14. ราคาทองคำปรับตัวเพิ่มขึ้นกว่า 1% โดยล่าสุดอยู่ที่ 1,768 ดอลลาร์ต่อออนซ์
15. ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3% โดยล่าสุดอยู่ที่ 86.75 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล รับข่าวคลังน้ำมันสหรัฐลดลงกว่า -12 ล้านบาร์เรล ซึ่งสูงกว่าคาดการณ์ที่ระดับ -2.7 ล้านบาร์เรล
16. ราคาบิทคอยน์ปรับตัวเพิ่มขึ้นแรง 4% โดยราคาล่าสุดของบิทคอยน์อยู่ที่ 17,114 ดอลลาร์ต่อบิทคอยน์
ที่มาภาพ :
#LHBankAdvisory

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา