การพบกันของสองยักษ์ใหญ่แห่งเทคโนโลยีครั้งนี้มีความน่าสนใจ หลายฝ่ายคาดการณ์ว่าการพูดคุยกันครั้งนี้จะสามารถคลี่คลายปัญหาที่อาจนำไปสู่การความขัดแย้งครั้งใหญ่ในอุตสาหกรรม มัสก์เคยตั้งเป้าหมายที่จะนำหน้า Apple ซึ่งเป็นผู้จัดจำหน่ายแอปฯ เพียงรายเดียวบน iPhone และมีผู้ใช้หลายล้านคนทั่วโลก
Twitter ทำให้มัสก์มีส่วนได้ส่วนเสีย เนื่องจากเผยแพร่ผ่าน App Store ซึ่งหลังจากที่ Twitter อยู่ภายใต้การนำของมัสก์ที่ยังโกลาหลอาจทำให้แอปฯ ขัดแย้งกับ Apple ที่เข้มงวดในการตรวจสอบแอปฯ ก็เป็นได้ นอกจากนี้ยังมีเรื่องนโยบายการเก็บค่าธรรมเนียมที่มัสก์วิจารณ์อยู่บ่อยครั้ง จนทำให้มีการเรียกตรวจสอบโดยฝ่ายนิติบัญญัติและหน่วยงานกำกับดูแลทั่วโลกถึงค่าธรรมเนียมของ Apple
Twitter ที่กำลังจะเปลี่ยนแนวทางหารายได้จากการพึ่งพาโฆษณาไปสู่โมเดล Subscription แต่รายได้จากการสมัครสมาชิกใหม่จะต้องถูกแบ่งให้ Apple Store ถึง 30% ตามเงื่อนไข
การร้องเรียนของมัสก์ มาถึงช่วงเวลาสำคัญสำหรับ Apple ด้วยเช่นกัน มีการผลักดันในสภาคองเกรสในช่วงเดือนสุดท้ายของปีเพื่อพัฒนากฎหมายต่อต้านการผูกขาด หนึ่งในร่างกฎหมายที่กำลังพิจารณาคือ Open App Markets Act ซึ่งพยายามให้นักพัฒนาสามารถควบคุมแอพของตนได้มากขึ้นและผลักดันให้ค่าธรรมเนียม App Store ถูกลงนั่นเอง อย่างไรก็ตามการพบกันครั้งนี้อาจนำไปสู่ความร่วมมือหรือการทำอะไรร่วมกันหลังจากนี้ก็เป็นไปได้