4 ธ.ค. 2022 เวลา 11:48 • ธุรกิจ
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาจะสังเกตเห็นปรากฏการณ์บรรดาแบรนด์แฟชั่นหรูจากยุโปตบเท้าเข้ามาเปิดร้านอาหารและคาเฟ่ตามเมืองใหญ่ในเอเชียด้วยเหตุผลที่ว่าผู้บริโภคเอเชียโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่กำลังมองหาประสบการณ์ใหม่ ๆ ในการช้อปปิ้ง ประสบการณ์ที่ว่าคือการได้ใช้เวลาร่วมกับมิตรสหายและสมาชิกครอบครัวซึ่งที่ ๆ เหมาะสมก็คือคาเฟ่และร้านอาหารนั่นเอง การเพิ่มบริการดังกล่าวของเหล่าแบรนด์หรู นอกจากเป็นการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคยังทำให้พวกเขารู้สึกถึงสิทธิพิเศษที่ได้รับเมื่อใช้บริการ
จีนถือเป็นตลาดใหญ่ที่ดึงดูดให้แบรนด์เนมเกือบทุกแบรนด์ตบเท้าเข้าไป ในการบริการอาหารและเครื่องดื่ม เบื้องต้นมักเปิด แบรนด์เหล่านี้มักเปิดเป็น pop up store ก่อนเป็นการชิมลาง เมื่อได้รับการตอบรับดี จึงเปิดเป็น flagshipหรือร้านสัญลักษณ์ของแบรนด์ หนึ่งในแบรนด์ที่ดำเนินกลยุทธ์เช่นนั้นคือหลุยส์ วิตต็องที่เพิ่งเปิดบริการ “The Hall” ร้านอาหารเต็มรูปแบบแห่งแรกในจีนที่เฉิงตู เมืองแห่งแพนด้าในมณฑลเสฉวน
The Hall มีทำเลในชิโน-โอเชี่ยน ไทกู๋ หลี่ซึ่งเป็นช้อปปิ้งมอลล์ตั้งอยู่บนพื้นที่ประวัติศาสตร์ ประกอบด้วยอาคารเก่าแก่กว่า 100 ปีซึ่งในอดีตเคยเป็นจุดนัดพบของบรรดาพ่อค้าชาวจีนกวางตุ้งในสมัยโบราณ ชื่อร้าน The Hall ก็ได้แรงบันดาลใจจากศาลากวางตุ้ง (Guangdong Hall) ที่อยู่ภายในบริเวณช้อปปิ้งมอลล์แห่งนี้นั่นเอง
โดยความร่วมมือของยันมี่ เครือบริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้านอาหารจากเซี่ยงไฮ้ซึ่งเป็นผู้บริหารร้านอาหาร The Hall ตามแผนการให้บริการทุก ๆ 6 เดือนจะมีเชฟระดับมิชลินจากทั่วโลกรวมถึงในจีนหมุนเวียนมารังสรรค์เมนูต่าง ๆ ที่ร้าน โดยช่วงนี้จนถึงเดือนมีนาคมปี 2023 เชฟโอลิเวียร์ เอลเซอร์รับหน้าที่บริการลูกค้าในจีนด้วยเมนูฟิวชั่นที่ผสมผสานระหว่างอาหารฝรั่งเศสกับอาหารจีนโดยใช้วัตถุดิบจากท้องถิ่นเป็นส่วนหนึ่งในการประกอบอาหาร The Hall ให้บริการทั้งอาหารกลางวัน มื้อว่างยามบ่าย และอาหารค่ำ
The Hall เป็นร้านอาหารแห่งที่ 5 ในรอบ 2 ปีที่หลุยส์ วิตต็องเปิดให้บริการ โดย 4 ในจำนวน 5 แห่งมีทำเลในเอเชีย ปี 2020 หลุยส์ วิตต็องเปิดร้านอาหารและคาเฟ่วิตต็องแห่งแรกในโอซาก้า ญี่ปุ่น ตามด้วยแอลวีคาเฟ่ และร้านช้อคโกแลตกินซ่า นามิกิในโตเกียว และเมื่อต้นปี 2022 เปิดร้านอาหารแบบป๊อป-อัพในยานกังนัมของกรุงโซล เกาหลีใต้ตามด้วยร้านอาหารสุดหรูตั้งตามชื่อเชฟ Mory Sacko ที่เซนต์ โทรเพซ์ เมืองชายฝั่งเมดิเตอร์เรเนี่ยนทางใต้ของฝรั่งเศส
มิคาเอล เบิร์ค ประธานและซีอีโอวิตต็องเผยจะมีร้านอาหารและโรงแรมอีกหลายแห่งร่วมเปิดตัวกับแบรนด์หลุยส์ วิตต็อง
การเปิดบริการของร้านอาหารเป็นร้าน 60 ที่นั่งเกิดขึ้นหลังการเปิด “เฮ้าส์ ออฟ หลุยส์ วิตต็อง” เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ถือเป็นช้อปที่อลังการงานสร้างบนพื้นที่ 2,000 ตารางเมตรที่ประกอบด้วย 2 อาคารกับพื้นที่เป็นลานเปิดโล่ง บ็อบบี้ แวร์คีส นักวิเคราะห์ผู้บริโภคประจำบริษัทโกลบอลดสต้าแสดงความเห็นว่าไม่ใช่เรื่องแปลกที่หลุยส์ วิตต็องจะเลือกเฉิงตูเพราะถือเป็นศูนย์กลางทางการค้าในภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน อีกทั้งทำเลอันเป็นพื้นที่ประวัติศาสตร์อย่างชิโน-โอเชี่ยน ไทกู๋ หลี่ก็ช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ของแบรนด์
นอกจากนั้นการเลือกเฉิงตูแทนที่จะเป็นปักกิ่ง หรือเซี่ยงไฮ้ทั้งที่เป็นเมืองใหญ่กว่าก็มีเหตุผลอยู่เบื้องหลัง นั่นคือตลอดวิกฤติการระบาดของโควิด-19 ที่ผ่านมา เฉิงตูพิสูจน์ให้เห็นว่าเศรษฐกิจได้รับผลกระทบค่อนข้างน้อย ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจยังดำเนินต่อไปได้ นอกจากนั้น พฤติกรรมของผู้บริโภคในเฉิงตูที่ชมชอบการเข้าสังคม การสังสรรค์กินดื่มก็เอื้อกับธุรกิจร้านอาหารอย่างยิ่ง
ควบคู่ไปกับการเปิดตัว The Hall หลยุส์ วิตต็องยังทำการตลาดรัว ๆ ไม่ว่าจะเป็นการแนะนำเกมออนไลน์ Mah Jump บนวีแชทที่เชิญชวนผู้เล่นให้สำรวจเมืองเฉิงตูผ่านกิจกรรมต่าง ๆ เช่น ในร้านฮอทพอท การดื่มชายามบ่าย และการท่องราตรี ไม่เท่านั้น ยังให้นักดนตรีท้องถิ่นเขียนเพลงฮิปฮอปเพื่อดึงลูกค้ากลุ่ม Gen Z ให้เข้ามามีส่วนร่วมกับแบรนด์มากขึ้น
สำหรับปฏิกิริยาจากผู้บริโภคชาวจีนดูเหมือนจะตื่นเต้นกับการเปิดร้านอาหาร The Hall ไม่น้อยเพราะเป็นที่พูดถึงในโลกโซเชี่ยลอย่างมาก ส่งผลให้คลิปนำเที่ยวศาลากวางตุ้งบนแพลทฟอร์มเหว่ยป๋อซึ่งเป็นสื่อสังคมออนไลน์ของจีนคล้ายเฟสบุ๊กมียอดวิวเพิ่มขึ้นกว่าครึ่งแสนวิวภายใน 10 ชั่วโมง ขณะที่บรรดานักชิมหลายรายต่างตั้งเป้าให้ The Hall เป็นร้านอาหารในลิสต์ที่ต้องไปลองให้ได้ ส่งผลให้ยอดจองโต๊ะเต็มไปจนถึงสิ้นปีนี้
TEXT : วิมาลี วิวัฒนกุลพาณิชย์
#sme #smethailand #LOUISVUITTON ​ #เพื่อนคู่คิดธุรกิจเอสเอ็มอี #เรื่องธุรกิจต้องSMETHAILAND
.
ติดตามเราได้ที่
SME Thailand Online
โฆษณา