หรือ ‘เว็บตูน’ จะเป็น Soft Power ต่อไปของเกาหลี กองทุนเฮดจ์ฟันเริ่มสนใจแล้ว
เรียกว่าเป็นยิ่งกว่า ‘ความสำเร็จ’ ของเกาหลีกับการส่งออกวัฒนธรรมครั้งใหญ่ในปีที่ผ่านมา กับซีรีส์ที่สร้างปรากฎการณ์อย่าง ‘Squid Game’ หรือว่าวงศิลปินเคป๊อปอย่าง ‘BTS’ หรือ ‘Blackpink’ ที่นอกจากจะสร้างชื่อให้ตัวเองแล้วยังทำรายได้มหาศาลเข้าประเทศด้วย
ล่าสุด เริ่มมีกองทุนเฮดจ์ฟันบางส่วนเริ่มมองว่า ‘เว็บตูน’ หรือการ์ตูนเกาหลีที่ให้บริการอ่านผ่านแอปพลิเคชันออนไลน์จะกลายเป็น ‘ซอฟท์เพาเวอร์’ ต่อไปของเกาหลี
รายงานสำนักข่าว Bloomberg บอกว่า GVA Asset Management Co. บริษัทบริหารสินทรัพย์มูลค่ากว่า 600 ล้านดอลลาร์ เชื่อว่า คนอเมริกันและยุโรปจะเริ่มให้ความสนใจ ‘เว็บตูน’ ก่อนจะตามมาด้วยคนเกาหลีและญี่ปุ่น ทำให้บริษัทตัดสินใจลงทุนกว่า 15 ล้านดอลลาร์ใน ‘Kenaz’ บริษัทผู้ผลิตเว็บตูนแห่งหนึ่งในเกาหลี
โดย ‘ปาร์คจีฮง’ ซีอีโอของบริษัท คาดว่า เว็บตูนจะเติบโตอย่างก้าวกระโดดในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า ตามรอยความนิยมของเพลง ภาพยนตร์ และซีรีส์เกาหลีที่ได้รับความนิยมก่อนหน้า
ทำให้เชื่อว่า บริษัทอย่าง ‘Kenaz’ มีโอกาสจะกลายเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมเหมือนบริษัทอย่าง SM Entertainment และ Hybe ที่เป็นผู้นำในวงการเคป๊อป โดยตอนนี้ในเกาหลีมียักษ์ใหญ่อย่าง Naver และ Kakao ให้บริการแพลตฟอร์มเว็บตูน
“ตลาดเว็บตูนมีโอกาสที่ดีในตอนนี้ แม้ว่าจะมีบริษัทจดทะเบียนในตลาดไม่มาก แต่สามารถเน้นลงทุนไปที่บริษัทที่ไม่ได้จดทะเบียนตลาดได้”
นอกจากนักลงทุนในประเทศแล้ว ตอนนี้นักลงทุนต่างชาติก็เริ่มสนใจ ‘เว็บตูน’ อย่างเช่นกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติของซาอุดีอาระเบีย หรือ กองทุนความมั่งคั่งของรัฐบาลสิงคโปร์ (GIC) ก็อยู่ระหว่างการพูดคุยเรื่องการลงทุนใน Kakao ที่จะเปิดเผยในปีหน้า
หลังจากกองทุนความมั่งคั่งของรัฐบาลสิงคโปร์ (GIC) ได้ลงทุนในบริษัทที่เกี่ยวข้องกับเว็บตูนที่ชื่อว่า Ridi ที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไปก่อนแล้ว
จากรายงาน Korea Creative Content Agency
ในปี 2017 เว็บตูนมียอดขาย 300 ล้านดอลลาร์
ในปี 2020 เว็บตูนมียอดขาย 700 ล้านดอลลาร์
แม้เป็นตลาดเล็ก แต่ก็เติบโตอย่างรวดเร็ว
เน้นทำรายได้จากการสมัครสมาชิกกับขายสิทธิทรัพย์สินทางปัญญาไปผลิตเป็นภาพยนตร์หรือซีรีส์ต่อ
เว็บตูนเป็นที่นิยมในหมู่ Gen-Z และแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งหลายๆ เจ้ายังสนใจที่จะนำเว็บตูนไปผลิตในรูปแบบภาพยนตร์หรือซีรีส์ โดยเฉพาะหลังจาก Netflix นำเข้าแอนิเมชันและการ์ตูนรูปแบบต่างๆ เข้าไปในแพลตฟอร์มมากขึ้น
ถึงตอนนี้จะเร็วเกินกว่าจะบอกได้ว่า เว็บตูน จะสร้างปรากฎการณ์ระดับโลกอย่าง K-POP หรือ K-Drama ได้หรือไม่ แต่อุตสาหกรรมนี้ก็อยู่ในช่วงเติบโตและน่าจับตาว่าจะสามารถไปได้ถึงจุดไหน
#TODAYBizview
#MakeTomorrowTODAY
#สาระความรู้เพื่อวันนี้
- 57
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
