11 ธ.ค. 2022 เวลา 01:00 • ความคิดเห็น
“อยากเชิญอาจารย์มาสอน Power Query ที่บริษัทค่ะ”
“ไม่ทราบว่าจากบริษัทใดครับ?”
“Medtronic ค่ะ”
ผมพบตัวเองบนชั้น 27 ของอาคารจามจุรีสแควร์ หาบริษัทเจอง่ายมาก เพราะทั้งชั้นมีแค่บริษัทเดียว
“วิทยากรใช่ไหมคะ เชิญทางนี้เลยค่ะ”
แค่เดินไม่กี่ก้าวก็ประทับใจ ออฟฟิศตกแต่งสไตล์โมเดิร์น โปร่ง และโล่ง
ทางเดินกว้าง โค้งเล็กน้อย ผนังห้องต่าง ๆ โค้งมนสอดรับกับองศาของทางเดิน ให้ความรู้สึกเหมือนหลุดมาอีกมิตินึง
ห้องอบรมชื่อกรุงเทพ1 เป็นห้องสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ กะด้วยสายตาน่าจะประมาณ 120 ตารางเมตร อุปกรณ์ต่าง ๆ ครบครัน
โต๊ะและเก้าอี้ทุกตัวมีล้อ ถ้าจะเปลี่ยนรูปแบบการจัดโต๊ะก็เคลื่อนย้ายได้ง่ายมาก
มีปลั๊กให้เสียบตามพื้นเป็นระยะ นั่งตรงไหนก็ต่อไฟได้หมด ไม่ต้องพกปลั๊กพ่วงมาด้วย
ด้านข้างเป็นกระจกมองวิว เห็นวิวมหานครกรุงเทพที่สวยงาม
“ห้องอบรมที่นี่พร้อมมากเลยครับ” ผมกล่าวกับคุณเพชร
“ถ้าเอาผนังกั้นออก เปิดทะลุเป็นห้องใหญ่ได้เลยนะคะ” คุณเพชรยิ้ม
ผมเพิ่งเข้าใจว่าทำไมห้องอบรมถึงมีเลข 1 ต่อท้าย เพราะยังมีห้องกรุงเทพ2 และกรุงเทพ3 เมื่อนำผนังกั้นห้อง (Partition) ออก จะได้ห้องที่ใหญ่มาก ใช้ทำ Town Hall Meeting ได้สบาย
“ถ้าใครมีคำถาม ถามได้เลยนะครับ ยิ่งถามเยอะ ยิ่งชอบครับ” ผมได้ยินเสียงตัวเอง
แล้วก็ได้รับคำถามเยอะจริง ๆ เป็นคลาสที่มีคำถามและปฏิสัมพันธ์เยอะมาก
เมื่อผมสอน พวกเค้าจะคิดตาม
เมื่อผมถาม พวกเค้าจะช่วยกันตอบ
เมื่อติดปัญหา พวกเค้าก็กล้าที่จะยกมือ
และเมื่อพวกเค้ามีไอเดีย พวกเค้าก็กล้าที่จะแสดงความเห็น
วัฒนธรรมการอบรมสะท้อนวัฒนธรรมการประชุม
ผมมั่นใจว่า เมื่อพวกเค้ามีประชุม พวกเค้าก็กล้าที่จะแสดงความคิดเห็น กล้าที่จะยกมือ และกล้าที่จะโต้แย้ง
ซึ่งเป็นวัฒนธรรมที่ดีมากและหาได้ยากในประเทศไทย
“อาจารย์ช่วยดูตรงนี้ให้ได้ไหมคะ หนูได้ผลลัพธ์ไม่เหมือนของอาจารย์”
เมื่อผมเดินไปดู พบว่าสาเหตุเกิดจากผู้เข้าอบรมคลิกผิด เค้าก็จะพูดว่า
“อุ้ย! ผิดที่หนูเองนี่นา แย่จัง” แล้วก็หัวเราะกับความผิดพลาดนั้น
อาจดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่สำหรับผม นี่คือ mindset ที่ยอดเยี่ยม ความกล้าที่จะยกมือว่าตัวเองไม่รู้ ความกล้าที่จะยอมรับกับความผิดพลาด และการตอบสนองกับความผิดพลาดนั้น
ผมไม่แน่ใจว่าสิ่งนี้เกี่ยวกับวัฒนธรรมองค์กรหรือเปล่า แต่คิดว่าไม่มากก็น้อย
“ตอนกลางวันอาจารย์จะทานอะไรดีคะ?”
“อาจารย์ได้กาแฟหรือยังครับ?”
“ห้องน้ำอยู่ทางนี้นะครับ”
ใช่, พวกเค้าเทกแคร์และเป็นห่วงเป็นใย ซึ่งอันที่จริงไม่ต้องสนใจเรื่องพวกนี้ก็ได้ แต่พวกเค้าก็ใส่ใจ และไม่ใช่คนเดียวที่ถาม
“อาจารย์เชิญทานอาหารทางนี้ค่ะ”
ผมเดินตามไปที่อีกมุมหนึ่งของออฟฟิศ พบว่ามีโต๊ะเรียงราย ด้านหน้าคือกระจกมองวิวเป็นแนวยาว เหลือบมองทางด้านขวาเห็นเครื่องออกกำลังกาย 5-6 เครื่องวางเรียงกัน
ใช่, มีลู่วิ่งในออฟฟิศด้วย!
ด้านซ้ายมีตู้แช่เย็นขนาดใหญ่ ข้างในมีเครื่องดื่มมากมาย แถมข้าง ๆ มีขนมขบเคี้ยววางเต็มไปหมด
ใช่, พนักงานที่นี่กินน้ำกินขนมได้ฟรี
“อาจารย์หยิบน้ำ หยิบขนมได้ตามสบายเลยนะคะ”
พื้นที่ตรงนี้น่าจะเป็นลานอเนกประสงค์ ให้พนักงานได้มาพูดคุยผ่อนคลาย จะกินข้าว หรือจะกินน้ำกินขนมก็เต็มที่
พื้นที่ใหญ่ไม่น้อยเลย แทบจะกินทั้งปีกของออฟฟิศ แทบไม่เคยเจอออฟฟิศไหนมีลานอเนกประสงค์ใหญ่ขนาดนี้ (เพราะค่าเช่าออฟฟิศในกรุงเทพแพงมาก)
ผมนึกถึงออฟฟิศของกูเกิล เคยอ่านเจอว่ากูเกิลก็มีลานอเนกประสงค์ใหญ่เช่นกัน จุดประสงค์เพื่อให้พนักงานได้มาเจอกัน ได้มาผ่อนคลาย และนวัตกรรมหลายอย่างก็เกิดขึ้นตรงนี้
ผมไม่รู้ว่าผู้บริหารที่นี่คิดแบบกูเกิลหรือเปล่า แต่ลานอเนกประสงค์ใหญ่ขนาดนี้ต้องเกิดจากความตั้งใจแน่นอน
เนื้อหาช่วงบ่ายวันที่สองค่อนข้างยาก เพราะต้องเขียน M Code และต้องเขียนสูตรซ้อนกัน 3-4 ชั้น
ส่วนใหญ่แล้วผู้เข้าอบรมจะถอดใจ แต่ที่นี่ไม่ใช่
“ถ้าเราซ้อนสูตรตรงนี้เพิ่ม จะลดขั้นตอนก่อนหน้าได้ไหมครับ?” คือคำถามจากคุณนัท
สูตรที่คุณนัทพูดถึงซ้อนกัน 4 ชั้นแล้ว ถ้าจะซ้อนอีกแปลว่าต้องซ้อนกัน 5 ชั้น ซึ่งสามารถทำได้ในเชิงเทคนิค แต่ที่น่าสนใจคือวิธีตั้งคำถาม
คนที่ตั้งคำถามแบบนี้แสดงว่าต้องเข้าใจ คิดตาม และคิดประยุกต์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีมาก
ไม่เฉพาะแค่คุณนัทที่ตั้งคำถามดี ๆ คุณน็อต คุณเพชร คุณป๊อป คุณก้อง หรือคุณอ้อ ก็ตั้งคำถามที่ดีตลอดการอบรมเช่นกัน
นี่คือคลาส in-house ที่ประทับใจที่สุดในรอบปี 2022
ทั้งผู้คน สถานที่ และบรรยากาศ
ดีใจที่ได้มีประสบการณ์สอนที่นี่
ขอบคุณคุณเพชรที่ทำให้การอบรมครั้งนี้เกิดขึ้น
ขอบคุณบริษัท เมดโทรนิค (ประเทศไทย) ที่ให้เกียรติ
ขอบคุณผู้เข้าอบรมทุกท่านที่เป็นห่วงเป็นใย ตั้งใจเรียนตลอดทั้งสองวัน
ผมมีความสุขกับการสอนครั้งนี้มากครับ 😊😊
โฆษณา