คิสซิงเจอร์ออกโรงสงครามรัสเซีย-อูเครน
โดย
นิติภูมิธณัฐ
มิ่งรุจิราลัย
สงครามโลกครั้งที่ 1 ระหว่างมหาอำนาจกลางกับมหาอำนาจสัมพันธมิตรเกิดเมื่อ ค.ศ.1914-1918 สงครามจบลงได้ 5 ปี ค.ศ. 1923 ไฮนทซ์ อัลเฟรด คิสซิงเจอร์ เด็กชายชาวยิวก็เกิดบนแผ่นดินเยอรมนีที่แพ้สงครามโลกครั้งที่ 1
เด็กชายคิสซิงเจอร์เกิดได้ 6 เดือน พรรคนาซีของฮิตเลอร์ก็ก่อกบฏโรงเบียร์ กบฏพวกนี้มีนโยบายต่อต้านระบอบและแนวคิดแบบประชาธิปไตย เกลียดชังคนต่างชาติ เน้นพลังมวลชน และโฆษณาชวนเชื่อผ่านวิทยุและสิ่งพิมพ์
รัฐประหารล้มเหลว ฮิตเลอร์ถูกจำคุก 5 ปี ทว่าติดจริงเพียง 9 เดือนก็ได้รับอภัยโทษ ระหว่างติดคุก ฮิตเลอร์เขียนหนังสือไมน์คัมพฟ์ (การต่อสู้ของข้าพเจ้า) ถือเป็นคัมภีร์ของลัทธิฟาสซิสต์
หนังสือเล่มนี้บรรยายถึงความยิ่งใหญ่ของคนเชื้อสายเยอรมัน เผ่าพันธุ์อารยันที่กระจายในเยอรมนี ออสเตรีย และยุโรปเหนือ ไมน์คัมพฟ์เสนอเรื่องรวบรวมคนเผ่าพันธุ์เยอรมันและต่อต้านชาวยิว
ตุลาคม ค.ศ.1936 เยอรมนีและอิตาลีรวมกันเป็นแกนร่วมโรม-เบอร์ลิน ต่อมา เยอรมนีก็ทำกติกาสัญญาต่อต้านโคมินเทิร์นร่วมกับญี่ปุ่น ทำให้เกิดการรวมกลุ่มอักษะ (โรม-เบอร์ลิน-โตเกียว)
กุมภาพันธ์ ค.ศ.1938 ฮิตเลอร์เชิญคูร์ท ฟอน ชุชนิกก์ นายกรัฐมนตรีออสเตรียไปที่ทำเนียบฟือเรอร์ที่เมืองแบร์ชเทสกาเดิน บังคับให้ชุชนิกก์ลงนามตกลงให้พรรคนาซีออสเตรียบริหารประเทศ และรวมออสเตรียเข้ากับเยอรมนี
ชุชนิกก์ขอให้ลงประชามติก่อน ฮิตเลอร์ไม่พอใจ จึงสั่งบุกออสเตรีย และให้มีการผนวกออสเตรียเข้ากับเยอรมนีเพื่อรวมเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิไรค์ที่ 3
ครอบครัวของเด็กชายคิสซิงเจอร์ซึ่งขณะนั้นเด็กคนนี้มีอายุเพียง 15 ปี เห็นภัยอันตรายอันใหญ่หลวง จึงอพยพหนีภัยนาซีมาอยู่สหรัฐฯใน ค.ศ.1938
หลังจากนั้น 1 ปี สงครามโลกครั้งที่ 2 ก็อุบัติขึ้น (ค.ศ.1939-1945) ไฮนทซ์ อัลเฟรด คิสซิงเจอร์ ขอเปลี่ยนชื่อของตัวเองเป็น เฮนรี คิสซิงเจอร์ ได้รับสัญชาติอเมริกันเมื่ออายุ 20 ปี จบปริญญาตรีจากวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และโท-เอก จากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด
คิสซิงเจอร์เฉียบแหลมในการตัดสินใจ เป็นที่ปรึกษาด้านนโยบายต่างประเทศของเนลสัน ร็อกกี้เฟลเลอร์ เป็นที่ปรึกษากระทรวงต่างประเทศของสหรัฐฯ ในสมัยประธานาธิบดีเคนเนดีและประธานาธิบดีจอห์นสัน
ประธานาธิบดีนิกสันเชื่อถือและไว้วางใจคำแนะนำของคิสซิงเจอร์มากกว่าที่ปรึกษาคนอื่น และภายหลังตั้งให้คิสซิงเจอร์เป็นรัฐมนตรีต่างประเทศ
ผมฐานะผู้เขียนเปิดฟ้าส่องโลกเคยพบและสนทนากับนายคิสซิงเจอร์เมื่อ 17 มกราคม 1998 ที่ภูเก็ต หลังจากนั้น ลูกชายคนโตของผมก็ได้รับทุนไปเรียนปริญญาตรีด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่ฮาวาย สหรัฐฯ
นำเรื่องคิสซิงเจอร์มาคุยในวันนี้ เพราะเมื่อพฤษภาคม 2022 คิสซิงเจอร์เคยแนะนำให้มีข้อเสนอข้อตกลงหยุดยิงในสงครามรัสเซีย-อูเครน ตอนนั้น เซเลนสกีหัวเราะข้อเสนอของคิสซิงเจอร์จนฟันกระเด็นออกมานอกปาก
มาถึงธันวาคม 2022 คิสซิงเจอร์เขียนในเดอะ สเปคเทเตอร์ ว่าถึงเวลาที่จะมีการเจรจาสันติภาพรัสเซียกับอูเครน เพื่อลดความเสี่ยงของสงครามโลก ครั้งที่ 3
ทันทีที่คิสซิงเจอร์ออกมาพูดเรื่องการเจรจาสันติภาพ นายโพโดลยัค ที่ปรึกษาประธานาธิบดีอูเครนก็เขียนใส่ในเทเลแกรมว่า
“คิสซิงเจอร์ไม่เข้าใจอะไรเลย ไม่ว่าจะในแง่ลักษณะของสงคราม หรือในแง่ของผลกระทบของสงครามต่อระเบียบโลก”
ถ้าเปรียบความรู้ความสามารถหรือการตกผลึกต่อสงครามและความเป็นไปของโลกแล้ว ก็อยากจะบอกว่า นายโพโดลยัคเป็นเพียงไอ้ละอ่อนทางการเมือง เป็นไอ้ปื๊ดลูกเจ้น้องก้นซอยสองที่เพิ่งอ่านหนังสือการเมืองระหว่างประเทศเล่มแรก
ขณะที่คิสซิงเจอร์เป็นอภิพญามหาศาสตราจารย์ด้านการเมืองและการเดินเกมระหว่างประเทศ ไม่ใช่เพียงแต่ของสหรัฐฯ ทว่าแกเป็นระดับท็อปสุดของวิศวโลกานุโลกและอภิพญามหาโคตรจักรวาล
คิด พูด และทำอย่างนายโพโดลยัค ผู้ซึ่งเป็นเงาเหงือกของประธานาธิบดีเซเลนสกี มีแต่จะทำให้คนอูเครนล้มหายตายจากไปอีกเรือนหมื่นนับแสนคน.
- 16
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
