6 ม.ค. 2023 เวลา 00:42 • หุ้น & เศรษฐกิจ

OpenAI บริษัทผู้สร้าง ChatGPT ไปต่อเองไม่ไหว อาจขายหุ้นบริษัท

แล้วทำไม ? กูเกิ้ล ต้องรีบส่งสัญญาณฉุกเฉิน “ไฟแดง” เตือนพนักงานทั้งบริษัท
1
อ้างอิงข่าวรอยเตอร์ เมื่อวันที่ 6 มกราคมตามในเวลาประเทศไทยว่า OpenAI บริษัทและห้องปฏิบัติการวิจัยปัญญาประดิษฐ์ที่อยู่เบื้องหลังแชทบอท ChatGPT กำลังเจรจาขายหุ้นให้กับบริษัทต่างๆ โดยเบื้องต้นประเมินมูลค่าบริษัทนี้ไว้ที่ 29 พันล้านดอลลาร์
1
สำหรับ 2 บริษัทแรกที่สนใจซื้อหุ้นจากบริษัท OpenAI ได้แก่ Thrive Capital และ Founders Fund ซึ่งสนใจที่จะซื้อหุ้นจาก “ผู้ถือหุ้นเดิม และพนักงาน”
แต่ผู้ซื้อตัวจริง..อาจไม่ใช่ Thrive Capital และ Founders Fund อาจจะเป็นใครสักคนหนึ่งที่กระเป๋าหนัก และวนเวียนอยู่รอบๆ OpenAI มาระยะหนึ่งแล้ว บริษัทนั้นน่าจะเป็นยักษ์ใหญ่ที่มีศักยภาพ มีบิสิเนสโมเดลที่จะแปลงสินทรัพย์ AI เหล่านี้ ให้กลายไปเป็นแหล่งรายได้และเงินทุนอุดหนุน OpenAI ที่ยาวนานและมหาศาลได้มากกว่ากองทุน “สับขาหลอก” เหล่านี้้ ก็เป็นได้ !
2
อนึ่ง บริษัท OpenAI ก่อตั้งในปี 2015 โดย Sam Altman และ Elon Musk เดิมเป็นบริษัทที่ไม่หวังผลกำไร แต่เปลี่ยนนโยบายในปี 2019 ไปเป็นบริษัทที่ “หวังผลกำไรแบบจำกัด” (capped-profit organization) เพื่อแก้ปัญหาเงินทุนไม่พอจน ต้องระดมทุนระดับพันล้านเหรียญสหรัฐไปแล้ว 3 รอบ โดยรอบล่าสุด ไมโครซอฟท์ให้เงินสนับสนุนไป 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ แลกกับสิทธิ์การเข้าถึงซอร์ซโค้ด GPT-3 ได้ เพื่อนำไปพัฒนา WebGPT เพื่อทำเสิร์ชเอ็นจิน Bing และระบบคลาวด์ Azure ของไมโครซอฟท์
บริษัทผู้พัฒนาแชทบอทล้ำยุคนี้ หรือ OpenAI ก่อตั้งในปี 2015 โดย Sam Altman และ Elon Musk เดิมเป็นบริษัทที่ไม่หวังผลกำไร แต่เปลี่ยนนโยบายในปี 2019 ไปเป็นบริษัทที่ "หวังผลกำไรแบบจำกัด" (capped-profit organization) เพื่อแก้ปัญหาเงินทุนไม่พอจน ต้องระดมทุนระดับพันล้านเหรียญสหรัฐไปแล้ว 3 รอบ โดยรอบล่าสุด ไมโครซอฟท์ให้เงินสนับสนุนไป 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ แลกกับสิทธิ์การเข้าถึงซอร์ซโค้ด GPT-3 ได้ เพื่อนำไปพัฒนา WebGPT เพื่อทำเสิร์ชเอ็นจิน Bing และระบบคลาวด์ Azure ของไมโครซอฟท์
และนั่นคือเหตุผลที่ซีอีโอกูเกิ้ล ต้องรีบส่งสัญญาณฉุกเฉิน "ไฟแดง" เตือนพนักงานกูเกิ้ลทั้งบริษัท …เพราะนี่คือภัยคุกคามธุรกิจเสิร์ชเอ็นจินของ Google ที่ร้ายแรงที่สุดในรอบ 2 ทศวรรษ ซึ่งอาจทำลายล้าง "รายได้โฆษณา" มูลค่าประมาณ 150 พันล้านดอลลาร์ต่อปี คิดเป็นรายได้เกือบ 60% ของบริษัทกูเกิ้ล
หากรายได้เกือบ 60% ก้อนนี้สูญหายไปให้กับ Bing ของไมโครซอฟท์ ก็…อาจหมายถึง “การพังพินาศและจุดจบ” ของกูเกิ้ลก็เป็นได้
ดูกราฟรายได้ Google และอ่านเพิ่มเติมได้ตามลิงค์ข้างล่างนี้
1
แชทบอทของ OpenAI เป็นซอฟต์แวร์แอปพลิเคชันที่ออกแบบมาเพื่อเลียนแบบการสนทนาที่เหมือนมนุษย์ตามคำแนะนำของผู้ใช้ และสามารถตอบคำถามได้หลากหลายในขณะที่เลียนแบบลักษณะการพูดของมนุษย์ โดยใช้กลไกโมเดลภาษาที่ชื่อว่า GPT-3.5 หรือเวอร์ชัน 3.5
โมเดลภาษาของ OpenAI ที่ประสบความสำเร็จและมีชื่อเสียงอย่างมาก เริ่มต้นตั้งแต่เวอร์ชัน 2 หรือ GPT-2 ซึ่งยังคงเป็น open-source หรือเปิดให้ดูให้ใช้ซอร์ซโค้ดได้ฟรี ส่วน GPT-3 และแอปพลิเคชันหลังยุค GPT-2 ไม่ได้เป็น open-source แล้ว แต่จะใช้โมเดลเปิดให้ใช้งานฟรีระยะแรก จากนั้นค่อยเก็บเงิน (โมเดลธุรกิจ freemium)
ข้อตกลงขายหุ้น OpenAI ดังกล่าว อาจจะดึงดูดเงินลงทุนได้มากกว่า 300 ล้านดอลลาร์ในการขายหุ้นบางส่วนออกไป ซึ่งจะเป็นผลดีต่อพนักงานบริษัท รวมทั้งนาย Sam Altman กับ Elon Musk ผู้ร่วมก่อตั้ง (ปี 2018 อีลอน มัสก์ ลาออกจากคณะกรรมการบริษัทนี้ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ออฟฟิศของ OpenAI ยังแชร์ใช้บางส่วนของสำนักงาน Tesla อยู่)
สำหรับมูลค่าบริษัท OpenAI ณ ขณะนี้ (ประเมินไว้เพื่อเตรียมซื้อขายหุ้นบริษัท) ประเมินเบื้องต้นไว้ที่ 29 พันล้านดอลลาร์ โดยคิดจากฐานรายได้จากค่าเช่าใช้ซอฟต์แวร์ AI ค่าลิขสิทธิ์ และค่าเช่าใช้ประดิษฐกรรมต่างๆ ซึ่งคาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 200 ล้านดอลลาร์ในปีนี้ และ 1 พันล้านดอลลาร์ในปี 2567 (อ้างอิง ข้อมูลจากสำนักข่าวรอยเตอร์ เมื่อเดือนที่แล้ว, ธันวาคม 2565)
1
GPT-3 เผางบไปแล้วเท่าไร ?
ทำไมต้องเปลี่ยนโมเดล “โอเพ่นซอร์ซ” ไปเป็น “หวังกำไร” ?
(อ่านต่อได้ที่ลิงค์ข้างล่าง)
โฆษณา