11 ม.ค. 2023 เวลา 16:09 • ข่าว

ชอบเผาไฟ-ทารุณ​สัตว์​-เล่นกับศพ จิตแพทย์​เผยชีวิต 'ด.ช.บุญ​' สุดสะเทือน​ใจ

เรื่องจริงของ ‘ด.ช.บุญ’ ที่มีพฤติกรรมน่าสะเทือนใจ มาจากกรณีศึกษาของศาสตราจารย์เกียรติคุณ พญ.นงพงา ลิ้มสุวรรณ จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น รพ. รามาธิบดี ซึ่งปรากฏในหนังสือเลี้ยงลูกถูกวิธี ชีวีเป็นสุข
เพจ Play Academy Thailand โพสต์เล่าว่า ด.ช.บุญ อายุ 13 ปี ถูกส่งตัวเข้ารับการรักษาใน รพ.จิตเวชเด็กเป็นครั้งแรกเมื่ออายุ 8 ขวบ ด้วยอาการสำคัญว่า ชอบเล่นไฟ รังแกสัตว์ ขโมยเงินครูที่โรงเรียน
ประวัติที่สำคัญของบุญคือ เมื่ออายุ 2 ปี 5 เดือน มีญาติพาไปรับการรักษาที่ ร.พ.ประจำจังหวัดแห่งหนึ่งด้วยโรคขาดสารอาหารแต่ญาติไม่มารับตัวกลับ และทางโรงพยาบาลก็ไม่สามารถติดตามญาติมารับได้ เพราะตามไม่พบ ประวัติดังกล่าวบ่งชี้ว่าบุญเป็นเด็กถูกละเลย ทอดทิ้ง ไม่เป็นที่ต้องการของพ่อแม่
เมื่ออายุได้ 3 ปีกว่า บุญถูกส่งตัวต่อมาอยู่ในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าของมูลนิธิแห่งหนึ่ง โดยรวมอยู่กับเด็กอื่นๆ รวม 12 คน และมีผู้ดูแลเป็นหญิงอายุ 47 ปี ทำหน้าที่แม่
เมื่อมาตอนแรก ผู้ดูแลสังเกตว่าบุญชอบเล่นคนเดียว ไม่ชอบเล่นกับเด็กอื่น และมีปัญหาขโมยของในบ้าน ปัญหาทางพฤติกรรมของบุญแสดงออกเด่นชัดขึ้นมาตามลำดับ
เมื่อเข้าโรงเรียนอนุบาล ครูสังเกตว่าบุญมักแยกตนเอง และเคยจุดไฟเผาเสื้อนักเรียน ขณะที่อยู่บ้านรับเลี้ยงเด็ก ยังคงมีปัญหาขโมย และทำลายข้าวของ เช่น รื้อนาฬิกาของแม่ผู้ดูแล สุมใบไม้ใต้รถยนต์ของสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้าแล้วจุดไฟเผา แต่มีผู้มาพบเหตุการณ์ก่อน จึงแก้ไขทัน
และยังเคยจุดไฟจนไฟลุกเกือบไหม้บ้านที่พักอยู่ รังแกสัตว์อย่างทารุณ เช่น พบคางคกจะเตะจนคางคกตาย โดยที่บุญแสดงอาการหัวเราะชอบใจอย่างสนุกสนาน หรือใช้หนังยางรัดปากสุนัขแรกคลอดแล้วนำไปโยนทิ้งน้ำให้ตายทีละตัวๆ
ทำร้ายเด็กที่เล็กกว่าทั้งที่บ้าน และโรงพยาบาล เช่น ขี่จักรยานทับขา จับเด็กที่เล็กกว่านอนคว่ำแล้วนั่งทับ ใช้หวีเคาะสับหัวเด็กทุกคนที่เข้าแถวอยู่เมื่อเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลไม่ได้สนใจมอง กระโดดถีบเด็กอื่นจนล้มลง แต่เมื่อผู้ดูแลเห็น บุญก็ทำท่าเข้าไปประคอง คล้ายเด็กนั้นล้มลงเอง
ต่อหน้าผู้ใหญ่หรือเจ้าหน้าที่ บุญจะประพฤติตัวดีกับเด็กอื่นๆ แต่จะทำร้ายเด็กที่อ่อนแอกว่าเมื่อเห็นว่าอยู่ลับหลัง และมักโยนความผิดให้เด็กอื่นเสมอ บางครั้งก็แสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสม เช่น ให้เด็กอื่นจับอวัยวะเพศของตนเล่น
ที่โรงเรียน บุญมักจะรังแกและหยิบของเพื่อนเสมอ หนีเรียน ไปเที่ยว และขโมยของจากร้านค้าในตลาด บางครั้งจะหนีออกจากบ้านไป 1 - 2 วัน
เมื่ออายุ 10 ขวบ บุญไปบวชเณร ได้ไปงัดโลงศพและเล่นกับศพ เมื่อได้รับการตักเตือนบุญจะยิ้มและรับฟัง แต่ไม่นานก็จะมีพฤติกรรมแบบเดิมอีกรวมทั้งชักชวนให้เด็กอื่นทำตามด้วย
บุญมักคิดแก้แค้นเมื่อมีผู้ทำให้ไม่พอใจ เช่น ขณะอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 บุญไม่พอใจเพื่อนในชั้น จึงได้หนีออกจากชั้นเรียนไปจุดไฟเผาบ้านญาติของเพื่อนที่ตนไม่พอใจจนไหม้หมดทั้งหลัง จนครูให้หยุดเรียน เนื่องจากประพฤติตัวในทางไม่ดีตลอดมา และย้ายยุญไปอยู่บ้านเยาวชน ซึ่งบุญก็ยังคงมีพฤติกรรมแบบเดิม
จากกรณีดังกล่าว ครูปุ๊ก - ชลมาศ คูหารัตนากร นักพัฒนาการและนักสุขภาพจิตเด็ก ผู้อำนวยการสถาบัน Play Academy อธิบายว่า การวิเคราะห์ปัญหาพฤติกรรมเด็ก ควรวิเคราะห์จากข้อเท็จจริง ไม่เอาความรู้สึกส่วนตัวเข้ามาปะปนหรืออ้างว่าเป็นเรื่องบุญทำกรรมแต่ง เพราะทำให้เกิดการตัดสินจากความรู้สึกมากกว่าข้อเท็จจริง
บุญไม่ใช่เด็กเวรหรือเด็กเปรต (a brat child) กลับชาติมาเกิดเพื่อชดใช้กรรม แต่สิ่งที่ทำให้บุญจุดไฟเผาทรัพย์สินของผู้อื่น ขโมยของ ทารุณสัตว์ เล่นกับศพ และกลั่นแกล้งผู้อื่น มีสาเหตุจาก
1. บุญขาดความรักและความผูกพันทางใจกับแม่หรือตัวแทนของพ่อแม่อย่างสิ้นเชิง บุญไม่รู้จักความรักความผูกพันใดๆ ทั้งสิ้น ไม่มีใครแม้แต่คนเดียวที่เป็นเสาหลักในชีวิตที่ตัวเองสามารถคว้ากอดได้เมื่อต้องการความช่วยเหลือ และอยากเจอเร็วๆเพื่อบอกเรื่องที่เขาอยากเล่าในวันนี้
2. เมื่อบุญไม่รู้จักความรัก เขาจึงรักใครไม่เป็น มีชีวิตอยู่ไปวันๆ แบบไร้จุดหมาย ไม่รู้สึกถึงคุณค่าของตัวเองแม้แต่น้อย จึงไม่รู้ว่าจะทำดีไปเพื่ออะไร ไม่มีแรงจูงใจให้ทำสิ่งที่ดี ไม่รู้สึกว่าการทำดีเป็นสิ่งมีค่าเพราะไม่เคยมีใครเห็นแม้แต่ค่าในตัวบุญ
3. เมื่อขาดความรัก บุญจึงไม่เคยได้รับการสัมผัสที่ทะนุถนอม เอื้ออาทร และจริงใจ จิตใจเด็กย่อมเหือดแห้งเหมือนดินที่แข็งกระด้างปราศจากน้ำ ยิ่งปล่อยยาวนานหลายปียิ่งแข็งกระด้างมากขึ้นหลายเท่าตัว บุญจึงเลือดเย็นต่อการทำร้ายผู้อื่น เห็นความตายเป็นเรื่องสนุก ทารุณสัตว์ได้เป็นความสะใจ เผาสิ่งของอันเป็นที่รักหรือบ้านได้คือการบรรลุเป้าหมายที่ตัวเองต้องการ ไม่รู้สึกผิด ไม่มีสำนึกต่อเหตุการณ์ที่ตัวเองทำ เพราะบุญไม่เคยได้รับสิ่งที่ดีต่ออารมณ์และความรู้สึก ไม่มีแบบอย่างที่จะถ่ายทอดความละมุนอ่อนโยนต่อใครทั้งสิ้น
นักสุขภาพจิตเด็ก อธิบายเพิ่มว่า สายไปเสียแล้วกับการสร้างความรัก และความผูกพันทางใจให้งอกเงยในตัวเด็กชายบุญ เพราะอายุของบุญเลยจากวัยที่จะสร้างความผูกพันทางใจที่ยั่งยืนได้ (พ่อแม่หรือตัวแทนพ่อแม่ต้องสร้างความผูกพันทางใจให้เด็กก่อนอายุ 6 ขวบ)
“ความรัก และความผูกพันทางใจเป็นรากฐานของชีวิตเด็ก เด็กขาดรักทุกคนเป็นภัยทั้งต่อตนเอง ผู้อื่น และสังคมมาก เพราะ เขาไม่แคร์อะไร ไม่นึกถึงความเป็นตายร้ายดี รู้ถูกผิดชอบชั่วดี เขาจะทำอะไรก็ได้ที่ใจเขาต้องการทำ เด็กแบบบุญปรากฏในสังคมทุกยุคทุกสมัย ไม่มีช่วงเวลาใดเลยที่สังคมไทยจะมีสถาบันครอบครัวที่แข็งแกร่ง และปัญหาทางสุขภาพจิตของเด็กที่ลดน้อยลง มีแต่จะเพิ่มขึ้นตามสถิติที่ปรากฏเป็นตัวเลขออกมา
โฆษณา