14 ม.ค. 2023 เวลา 12:36 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี

ถ้า Microsoft เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ OpenAI แล้ว Bing จะเก่งกว่า Google หรือไม่?

ข่าวจากสำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า ไมโครซอฟท์วางแผนที่จะลงทุน 10 พันล้านดอลลาร์ใน OpenAI โดยไมโครซอฟท์จะได้รับส่วนแบ่ง 75% จากกำไรของ OpenAI จนกว่าจะได้รับเงินคืนจากการลงทุน
2
หลังจากนั้นบริษัทจะรับส่วนแบ่ง 49% ใน OpenAI หรือถือหุ้น 49% กลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ทันที
3
ถ้าไมโครซอฟท์เอา AI ตัวเก่งของ OpenAI มาใช้กับ Bing แล้วจะเก่งกว่า Google Search หรือไม่ ?
เว็บค้นหา Bing.com เริ่มต้นในปี 2006 ในชื่อ Windows Live Search ก่อนที่จะมีการรีแบรนด์ใหม่ในปี 2009 เป็น Bing ในขั้นต้น Windows Live Search เปิดตัวเพื่อแข่งขันกับ Google Search ซึ่งเปิดตัวไปตั้งแต่ปี 1998
จุดแข็งที่โดดเด่นของ Bing ที่เหนือกว่า Google Search ก็คือ ค้นหาภาพและวิดีโอได้ดีกว่า ค้นพบแล้วก็เล่นวิดีโอได้เลยโดยไม่ต้องออกจาก Bing เป็นต้น จุดแข็งจุดได้เปรียบอีกประการคือ มาพร้อมกับ Windows ทำให้ส่วนแบ่งตลาดเว็บค้นหาของ Bing เพิ่มขึ้นจาก 3.99% เป็น 8.95% เมื่อสิ้นปีที่ผ่านมา (อ้างอิงจาก Statista 2023) ส่วน Google Search ส่วนแบ่งตลาดลดลงจาก 91-92% เหลือ 83.84% แต่ก็ยังทิ้งห่างจาก Bing เกือบ 10 เท่าตัว
ถ้าไมโครซอฟท์ผนวกเอ็นจิน AI ระดับเทพจากบริษัท OpenAI เข้าไป เช่น ChatGPT แล้วเว็บค้นหานี้ จะชนะหรือไม่ ?
ให้ลองวิเคราะห์จาก 5 ปัจจัยตัวชี้วัดจากประสบการณ์ยูสเซอร์และความอยู่รอดทางธุรกิจดังนี้
1. ไม่ใช่แค่ “คำตอบ” แต่เป็น “โซลูชั่นพร้อมใช้” หรือไม่ ?
2
ถ้าเป็น Google Search จะได้คำตอบเป็นแค่ “รายชื่อเว็บที่สอดคล้องกับคำค้นหา” เป็นคำตอบชนิด “ชี้เป้า แล้วเลือกใช้เอง” ไม่ใช่ “โซลูชั่นพร้อมใช้” แบบ ChatGPT ซึ่งนอกจากจะหาคำตอบให้แล้ว ยังเรียบเรียงเนื้อหาเป็น บทความ เขียนโค้ด หรือแต่งเพลงให้ด้วยเลย ทำให้ผู้ใช้ชื่นชอบมาก ง่าย รวดเร็ว และบางครั้งได้คำตอบที่ดีกว่าค้นหาทำเอง
เรื่องนี้เดือดร้อนไปถึงโรงเรียนหลายแห่งในอังกฤษ ซึ่งประกาศแบน ChatGPT ไปแล้ว ด้วยกลัวว่านักเรียนจะโกงทำการบ้านและข้อสอบด้วย ChatGPT แต่ปัญหานี้ OpenAI กำลังแก้ไขให้โดยพัฒนา metadata ที่เป็น “ลายน้ำ” (watermark) เพื่อช่วยบ่งชี้ว่าการบ้านนั้นมาจาก ChatGPT หรือไม่ (อ้างอิง เว็บ theguardian.com - https://bit.ly/3QIi5BQ)
ประเด็นที่ต้องคิดต่อและระวัง ก็คือ คำตอบที่ได้นั้น “ถูกต้อง” หรือไม่
2
พบว่า ChatGPT ยังให้คำตอบที่ผิดพลาด และไม่คงที่ ถามต่างคีย์เวิร์ด ต่างเวลา อาจจะได้คำตอบที่สุ่มได้ไม่เหมือนกัน เช่น ให้เล่าเรื่องประวัติศาสตร์ชาติสยาม กับประวัติศาสตร์ชาติไทย อาจจะได้บทความคนละเรื่อง บางครั้งก็เหมือนเป็นนิยายมากกว่าข้อเท็จจริง ขณะที่กูเกิ้ลไม่ช่วยแต่งคำตอบให้ แค่ชี้เป้าเว็บไซต์ ไม่ฟันธงให้เหมือน ChatGPT
2. Speed: ความเร็วตอบสนองผู้ใช้ ใครเร็วกว่า? (อ่านต่อ...)
โฆษณา