16 ม.ค. 2023 เวลา 13:12 • นิยาย เรื่องสั้น

เข้าสู่ปีเถาะแล้ว

ถ้าย้อนเวลาได้ ขอย้อนไปให้ชีวิตได้เห็นสัจธรรมให้ได้มากที่สุด ปีใหม่แล้วปีเก่าผ่านไปเข้าสู่ปีใหม่ ปีเถาะปีที่น่ารัก เพราะปีกระต่ายก็ต้องน่ารักสมชื่อ ตัวเราเองผ่านปีเก่าไปด้วยความยากลำบาก รู้สึกเหนื่อยหน่าย อยากเข้าสู่ปีเถาะอย่างดีใจเพราะปีเถาะก็คือปีเกิดของ พี่พรฤทธิ์ สามีของเราตั้งแต่อยู่กันมา ก็พูดคุยกันเรื่อยๆว่า คนปีเถาะน่ารักนะ พูดล้อเล่นกันเป็นประจำ เป็นความสุขของครอบครัวและความ
เป็นกันเองมาตลอดเวลา 56 ปี ก็รู้สึกว่าปีนี้เข้าปีใหม่ คือปีเกิด ปีเกิด 16 มกราคม 2482 ตรงกับปีเถาะ ซึ่งคอยเวลาจะได้อวยพรพี่ในวันเกิด แต่อารมณ์ที่สูญเสียทำให้นึกไม่ออก ไม่รู้จะทำใจอย่างไร เลยไปหาที่ท่องเที่ยวออกเดินทางขึ้นภาคเหนือ ดินแดนเดิม ดินแดนที่เคยเป็นที่อยู่มาตั้งแต่ตอนยังเป็นคนโสด ยังเป็นเด็กหญิงไปดูแลบ้านที่คุณพ่อสร้างไว้ มองดูบ้านก็ยังดีอยู่ กระเบื้องสักแผ่นก็ยังอยู่ดี
ไม้กอไผ่ ต้นขนุน ต้นมะม่วง ก็ยังอยู่เป็นต้นไม้ใหญ่ที่อุดมสมบูรณ์บ้านสวนก็ยังอยู่อย่างดี เป็นบ้านเป็นเมือง ดีกว่าชีวิตของมนุษย์เสียอีก
ชีวิตเราเองอยู่มาจนป่านนี้ก็อยู่แต่ไม่คงอยู่ตามเดิม สามีก็ไม่อยู่แล้ว คนปลูกบ้านก็ไม่อยู่แล้ว ตัวเราเองก็เกือบจะไม่ได้อยู่แล้ว ทุกอย่างไม่มีอะไรแน่นอน เป็นอนิจจังทุกขัง อนัตตา ไม่มีวันไหนที่เราจะไม่พบกับความทุกข์ มีทรัพย์สมบัติก็ทุกข์นึกแล้วก็อยากออกจากทุกข์ มองเห็นกองทุกข์กองใหญ่
ที่เราเองอุ้มไว้และกำลังจะแบกต่อไปอีก นึกถึงภพชาติที่จะต้องเจอ เคยพูดเคยคุยกับสามีที่เสียชีวิตไปแล้วเมื่อไม่นานมานี้ ทำให้สองคนเราคุยกัน ถ้าจากโลกนี้ไปแล้วกลัวการเกิดอีก ไม่ต้องการที่จะกลับมาเป็นเด็กอีก ขอให้เราสองคนตั้งใจปฏิบัติธรรมตามแนวทาง เสาะแสวงหาอย่างไรนะ เราถึงจะพ้นทุกข์ได้ ความจริงอริยสัจจ 4 จะทำอย่างไร เราเกิดมาแล้วนึกถึงทางพ้นทุกข์ช้าไป ตอนร่างกายแข็งแรงมีพลังที่จะปฏิบัติให้ได้มรรคผลก็ยังไม่แจ่มแจ้ง ต่อมารู้สึกตัวอีกทีอายุก็มากขึ้นแล้ว
ทำทานก็ยังไม่มากพอ ต้องทำงานหาเงินเลี้ยงชีพและยังไม่ได้ปฏิบัติกรรมฐาน ไม่ได้ตั้งใจให้มากกว่านี้ เพราะการปฏิบัติธรรมต้องเอาจริงเอาจัง ตัวกิเลสมันจะลวงให้เราไม่ให้ทุ่มเทกับหนทางที่จะนำออกจากทุกข์ มันจะลวงให้เราหลงในทรัพย์สินและลาภยศการบ้านการเมือง ซึ่งมันใช้ว่าจะพ้นทุกข์ความไม่รู้ทันก็เลยดับกิเลสยากมาก กว่าจะรู้ตัวก็หมดเวลาเสียแล้ว ขอเข้าเรื่องเลยนะคะ เพราะมาเที่ยวตามรอยพระธรรมครั้งนี้ได้ไปนมัสการวัดทั้งหมด 10 วัด ทุกแห่งที่ไปล้วนแต่ที่ดีน่าอัศจรรย์
เวลาไป อาการตัวเองสุขภาพไม่ค่อยดีอาการเหนื่อยของหัวใจมีมาก นึกว่าเดินไม่ไหวแต่อธิษฐานจิตก่อน ระลึกถึงพระธรรมได้ไปอย่างสบาย เหนื่อยก็พักไป ทุกวันทุกวัน เจริญรอยตามทางของพระอริยสงฆ์ ไปที่วัดของหลวงปู่แหวน ที่ดอยแม่ปั๋งหน้าอัศจรรย์ได้สัมผัสสิ่งลี้ลับอัศจรรย์ ก่อนไปได้แวะที่วัดที่หลวงปู่ขาวได้บรรลุ ได้แวะไปพบบ้านป่าแดง วัดบ้านแม่กลอย ตำบลเวียง อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ ในปัจจุบันก็ได้ไปนมัสการ มีพระรูปปั้นองค์ใหญ่
ไปกราบที่ของหลวงปู่ขาวปฏิบัติธรรม ช่างน่าอัศจรรย์ใจ ทราบประวัติ หลวงปู่พรหม จิรปุญโญ ได้เห็นความอัศจรรย์ของพระคุณเจ้า พ่อแม่ครูบาอาจารย์หลวงปู่มั่นที่ไป
ธุดงค์ที่จังหวัดเชียงใหม่ หลวงปู่เปลี่ยน หลวงปู่แหวน สติปัญญาความกรุณาเมตตาเป็นอันหนึ่งเดียวกันก็จะเห็นชอบได้ ชีวิตนี้มันน้อยนักแต่ก็มีเวลาสำคัญนักเพราะมันคือหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิต ขอให้ทุกคนตั้งใจปฏิบัติเมื่อยังมีเวลาพอจะรู้ สู้ไหวก็ให้รีบอย่างเร็วไวเพราะหมดเวลาแล้ว วันนั้นที่ไปที่หลวงปู่ขาวบรรลุอรหันต์ ที่บ้านป่าเมืองห้วยทราย ตำบลโหล่งขอด อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งหลวงปู่ท่านอยู่ด้วยกับคณะหลวงปู่พรหมจิรปุญโญ เป็นผู้ปฏิบัติตามคำสอนหลวงปู่มั่น ภูริทัตโตท่านบอกว่า
กิเลสแท้ ธรรมะแท้ อยู่ที่ใจทั้งสิ้น อยู่ที่ใจคือเกิดขึ้นที่ใจ เจริญขึ้นในใจและดับลงที่ใจ ความรู้นี้เท่านั้นไปตามดูรอยพระอริยสงฆ์ แล้วก็กลับบ้านเพราะอยู่ต่อไปอีกก็จะผูกพันในใจ คิดถึงคุณพ่อคุณแม่ให้ห่วงหาอาลัยรอยท่าน ไหนจะคิดถึงลูกหลานที่บ้านของลูกชายสงสารลูกๆ ที่ต้องอยู่กันทำงาน ต้องทำมาหากินและหันมาดูตัวเราเอง เอาตัวเองให้รอดให้ได้ เพราะว่าใกล้เวลาที่เราจะต้องตามพี่ไปแล้ว ก็ต้องตัดใจกลับบ้านให้ได้ เพราะความสุขทุกอย่าง ทุกอย่างมีทุกข์ เป็นทุกข์เป็นอนิจจังเป็นอนัตตา ขอให้หาทางหลุดพ้นได้สาธุ
โฆษณา