22 ม.ค. 2023 เวลา 08:04 • นิยาย เรื่องสั้น

81. อีแจ๊ดแจ๋...

ชื่อจริงๆคือ พัชนี เธอเป็นเด็กหลังวัดสลุดตัวผอมๆดำๆเปื้อนๆ เธอสอบเข้าเรียนที่ รร.ได้ เรียนเก่ง พูดเก่ง ฉลาดแต่พูดไม่ค่อยเพราะเพื่อนเรียกอีแจ๊ดแจ๋... สมัยนั้นดิฉันเป็นครูที่ปรึกษาหน้าที่หลักๆคือดูแลทั่วไปรวมทั้งการหาทุนให้เรียนและทุนอาหารกลางวันด้วย ดิฉันทำทุกอย่างให้เธอได้เรียนโดยแทบไม่ต้องใช้เงินจากทางบ้านซึ่งก็ค่อนข้างลำบากอยู่แล้ว ดิฉันเปิดบ้านสอนพิเศษในวันหยุดก็เลยอนุญาตให้พัชนีมาเรียนด้วยไม่ต้องเสียเงิน ให้อะไรก็ไม่เท่าให้สติปัญญา...
พัชนีไม่มีพ่อแม่มีแต่ยายกับลูกของน้าที่มาอยู่ด้วยอีกสองคน พักกลางวันดิฉันจะให้พัชนีไปซื้อผลไม้ให้ทุกวันสตางค์ทอนก็จะเป็นรางวัลของพัชนีซึ่งครูก็เต็มใจให้ ครั้งหนึ่งพัชนีเล่าว่ายายไม่อยู่ไปหาน้าที่ต่างจังหวัดหลายวันยังไม่กลับมา ไม่มีอาหารแล้ว ดิฉันซื้อม่าม่า ไข่ กุนเชียงให้เด็กไว้ทาน ตอนนั้นเรายังอยู่บ้านไม้หลังเก่าริมทางด่วนกั้นห้องใหญ่ด้านหน้าไว้สอนพิเศษพอให้มีรายได้ เคยให้พัชนีเอาปลอกหมอนอิงไปทำซิบที่ร้านหน้ารร.พัชนีบอกราคา100บาท ดิฉันตกใจทำไมแพงจัง
เช้าอีกวันก็เลยเดินไปถามช่าง ช่างบอกว่าคิดแค่ค่าเย็บค่าซิบ 40 บาท ดิฉันพูดไม่ออกแต่ก็ไม่ได้บอกพัชนี เอาเถอะ...ถ้าอีก60บาทที่โกงครูไปมันจะทำให้หนูกับน้องๆอิ่มท้องขึ้น พัชนีจบม.3 ฝ่ายแนะแนวให้ไปสอบชิงทุน รร.พานิชย์ของรัฐบาล เธอสอบได้ และกลับมาหาดิฉันอีกครั้งให้ช่วยค้ำประกันขอทุนกยศ. ดิฉันปฏิเสธอ้างว่าต้องให้สามีเซ็นชื่อด้วย จริงๆแล้วความคิดเรื่องเงิน60บาทแว่บเข้ามาในสมอง พัชนีเก่งแต่ขี้โกง...
ปลายปี58 ดิฉันเจอพัชนีกับลูกชายหญิงหน้าตาดีที่ห้างใหญ่แถวบางนา ดูเธอดีขึ้นแลดูมีฐานะ พัชนีพาครูไปเลี้ยงข้าวมื้อกลางวัน คุยว่าเธอจบแค่ปวช.ไม่มีเงินเรียนต่อก็เลยมาทำงานที่โรงงานแถวแพรกษา พบรักกับหนุ่มวิศวะที่โรงงานนั้นเอง มีลูกคนแรกสามีก็ให้ออกจากงานมาเป็นแม่บ้านเต็มตัว เธอขอไลน์ ขอเบอร์โทรศัพท์ไว้ด้วย พัชนีโทรหาดิฉันบ่อย เรื่องเกี่ยวกับ รร.เป็นส่วนใหญ่ เช่นสมุห์บัญชีที่โรงงานอายุ 55เขาให้ออก แต่อยากมาสอนคณิตศาสตร์ที่ รร. ดิฉันก็อธิบายว่าเป็นไปไม่ได้ ต้องจบวิชาครูมา ต้องมีใบประกอบวิชาชีพ
หายไปพักใหญ่ จะให้ครูไปสอนพิเศษลูก เดี๋ยวรวมเด็กๆแถวนั้นให้ ครูจะได้มีรายได้ ดิฉันปฏิเสธไปบอกว่าไม่มีรถขับ บ้านเราก็ไกลกัน พัชนีรู้ว่าสามีดิฉันทำงานไปรษณีย์
เธอก็เพียรถามว่าเงินเดือนเท่าไหร่แล้ว ได้เลื่อนมานั่งเคาเตอร์บ้างรึยัง คงเข้าใจเอาว่าสามีดิฉันขี่จักรยานยนต์ส่งจดหมาย
พัชนีเล่าว่าสามีรักเธอมากและเต็มที่กับครอบครัว ซื้อทาวน์เฮ้าส์ ใกล้รร.เตรียมจะเอาลูกมาเรียนที่นี่ พัชนีไลน์มาคุยเรื่องความร่ำรวยของเธออยู่บ่อยๆเธอคิดเอาว่าการเป็นเมียวิศวะอย่างเธอต้องร่ำรวยกว่าอาชีพครูแน่ๆดิฉันก็ได้แต่ฟังและยินดีด้วยที่ชีวิตเด็กหลังวัดอย่างเธอมีความสุข มีครอบครัวที่ดี พัชนีชอบที่จะเล่าถึงเงินเดือนสามีที่เธอคิดว่ามากมายนัก อวดบ้านทาวน์เฮ้าส์ 32 วา มีบ่อปลาคาร์ฟหน้าบ้าน มีรถมือสองอีกคัน แต่เธอมักจะจบลงด้วยประโยคเด็ด...หนูต้องรวยล้นฟ้าให้ได้!
จากนั้นดิฉันก็ตัดไลน์ตัดการติดต่อจากเธอ ด้วยเธอวิ่งเต้นจะเอาลูกคนข้างบ้านมาสอบเข้าเรียนที่ รร. ธุระไม่ใช่ ไม่ใช่รายเดียว ไปเที่ยวรับหน้าเขามา ทำนองเธอใหญ่โตไม่คบดีกว่า หลังได้ความว่าดิฉันเป็นคุณนายบิ๊กไปรษณีย์ พัชนีจึงกลับมาเยี่ยมดิฉันอีก คราวนี้ เธอขับรถราคาแพง แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าแบรนด์สุดหรู เธอเปลี่ยนไปแบบก้าวกระโดด เธอเล่าว่าเธอเป็นแม่ค้าออนไลน์ เงินที่ได้มาก็เอามาลงทุนตั้งใจจะทำบ้านจัดสรร แต่งบไม่พอ อาจารย์สนใจจะลงทุนด้วยไหม
ดิฉันปฎิเสธ ครูกำลังส่งลูกเรียน(ซัมเมอร์ที่อังกฤษ ฮ่า ฮ่า) หาเงินไม่ทันเลยเงินเดือนครูก็นิดเดียว พัชนีว่าลงทุนหมื่นเดียว พอขายบ้านได้กำไร8ล้านเลยนะอาจารย์
แล้วเธอก็บุกไปถึงที่ทำงานของสามีดิฉัน เรื่องที่พัชนีมาคุยไม่ใช่เรื่องทำบ้านจัดสรร เป็นเรื่องการเก็งกำไรจากค่าเงินต่างประเทศ พูดไปก็ยกหูโทรศัพท์พูดเรื่องค่าเงินไป สามีรำคาญขอให้จบการสนทนา มนุษย์ตื๊อไม่ยอมแพ้ คุณสามีเลยให้หัวหน้ายามผู้มีใบหน้าขึงขังและมียศเป็นตำรวจเก่ามาเชิญออกไป
เมื่อต้นปีมีข่าวใหญ่แม่นางแจ๊ดแจ๋กับพวก ถูกตำรวจจับข้อหาหลอกลวงพวกหิวเงิน ลงทุนน้อยกำไรเป็นร้อยล้าน มีที่ไหนกัน?
ศิษย์ไร้ครู อยู่ได้ไม่จีรัง...
"Richy"
22 มกราคม 2566
(ภาพจากGoogle)
โฆษณา