25 ม.ค. 2023 เวลา 13:00 • กีฬา

Football & Coffee : “กาแฟ” เครื่องดื่มที่เหมือนเพื่อนรักของนักฟุตบอล |Main Stand

หากจะพูดถึงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนยอดฮิตในใจของใครหลาย ๆ คน คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า “กาแฟ” ต้องติดอันดับเครื่องดื่มที่ผู้คนส่วนมากจะกล่าวถึงอย่างแน่นอน คอกาแฟหลาย ๆ คนอาจจะไม่สามารถเริ่มต้นวันดี ๆ ได้ถ้าปราศจากกาแฟแก้วโปรดของพวกเขา
ในปัจจุบันคนนิยมหันมาดื่มกาแฟกันมากขึ้น ประเทศไทยมีทั้งสมาคมกาแฟพิเศษไทย หรือ SCATH (Specialty Coffee Association of Thailand) วงการกาแฟมันไปไกลมากแล้วจริง ๆ มันเป็นทั้งตัวเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างผู้คนและเป็นทั้งเครื่องดื่มที่ทําให้เรามีพลังเมื่อดื่มเสร็จ เหมือนกับคํากล่าวของผู้ชายท่านหนึ่งในกลุ่ม specialty coffee club th ที่มีสมาชิกอยู่มากกว่าหนึ่งแสนคน ว่า “กาแฟคือความหวังในการเริ่มต้นวันดี ๆ เราทานกาแฟเราคุยกันแต่เรื่องดี ๆ เรื่องริเริ่มอะไรสักอย่าง มันยากจะกินกาแฟและเริ่มคุยเรื่องเศร้า”
กาแฟเป็นที่นิยมจนทําให้นักร้องลูกทุ่งหญิงชื่อดังอย่าง “หญิงลี ศรีจุมพล” นําเมนูกาแฟมาเป็นส่วนหนึ่งของเนื้อเพลงของเธอ กับท่อนที่ติดหูคนทั่วบ้านทั่วเมืองอย่าง “คิดสิคิดสิ คาปูชิโน่ เอสเปรสโซ่อาราบิก้า โรบัสต้า อะไรดีนะ มอคค่า ซุปเปอร์ริชอย่าคิดนาน” แล้วกาแฟกับวงการกีฬาล่ะ ? เราอาจจะเคยเห็นนักฟุตบอลในไทยลีกชอบดื่มกาแฟกันเป็นส่วนใหญ่ เช่นตอนมาซ้อมก็ต้องถือมาคนละหนึ่งแก้ว กาแฟกับกีฬาและกาแฟกับฟุตบอลมันเชื่อมโยงกันได้อย่างไร ?
นี่คือผลงานจากโครงการ FIND THE YOUNG CONTENT CREATOR ซีซั่นที่ผ่านมา จากผลงานของ ยลดา เวียงสิงขรณ์ (Earn) จากมหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์ ซึ่งเธอได้เขียนเรื่องราวของกาแฟและวิถีชีวิตของนักฟุตบอลที่เป็นเหมือนของคู่กัน
คาเฟอีนกับประสิทธิภาพในการเล่นกีฬา
งานวิจัยกล่าวว่านักกีฬาชาวอังกฤษมักใช้คาเฟอีนเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทํางาน ด้วยผลการศึกษาของมหาวิทยาลัย Liverpool John Moores พบว่า 1ใน 3 ของนักกีฬากรีฑาและนักปั่นจักรยาน 60% พวกเขาดื่มคาเฟอีนก่อนการแข่งขัน รวมไปถึงนักฟุตบอลก็เช่นกัน พวกเขาต้องเคลื่อนที่กว่า 6.3 ไปจนถึง 8.7 ไมล์ในแต่ละเกม บางคนเล่นสัปดาห์ละสองนัดเป็นเวลากว่าเก้าเดือนต่อปี แถมพวกเขาก็ยังมีตารางงานที่ยุ่งมาก คุณเคยสงสัยหรือไม่ว่าอะไรที่ทําให้พวกเขายังสามารถใช้ชีวิตต่อได้ ? ส่วนหนึ่งมันมาจาก “คาเฟอีน” นั่นเอง ใช่ คาเฟอีน!
1
กาแฟที่มีคาเฟอีนไม่ได้ทําให้นักฟุตบอลที่ดื่มกลายเป็น คริสเตียโน่ โรนัลโด้ หรือ ลิโอเนล เมสซี่ แต่แน่นอนว่ามันจะช่วยให้พวกเขาเล่นฟุตบอลได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีพละกําลัง เป็นที่รู้กันมาอย่างยาวนานแล้วว่าคาเฟอีนสามารถทําให้เราสดชื่นขึ้นและยังช่วยเพิ่มความอดทนในร่างกายอีกด้วย นักวิจัยได้ทําการทดลองให้นักกีฬาเลือกดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนและมีฤทธิ์ชูกำลังแทนเครื่องดื่มเกลือแร่ เนื่องจากเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนมักจะมีความเข้มข้นของสารกระตุ้นสูงกว่า และสามารถย่อยได้เร็วกว่าอาหารแข็งทั่วไป
1
ทีมจากมหาวิทยาลัย Sheffield Hallam ได้ให้อาสาสมัครอายุ 18-22 ปีจํานวน 8 คนมาเล่นแมตช์ฟุตบอลจําลองที่ออกแบบมาเพื่อทดสอบความคล่องแคล่วของการเลี้ยงบอล การโหม่ง และการเตะที่แม่นยํา ซึ่งในแมตช์นี้ผู้เข้าแข่งขันจะต้องดื่มเครื่องดื่มที่ไม่มีคาเฟอีน และสําหรับครั้งที่สองจะได้ดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีน ผลลัพธ์ที่ตีพิมพ์ใน the British Journal of Sports Medicine แสดงให้เห็นว่านัดที่ผู้เล่นได้ดื่มเครื่องดื่มที่ผสมคาเฟอีนจะให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เพราะมันช่วยทั้งเรื่องความเร็วและความแม่นยําของผู้เล่นในสนาม
โดยหัวหน้าทีมวิจัยท่านหนึ่งได้กล่าวไว้ว่า “เราพบว่าคาเฟอีนช่วยให้ผู้เล่นสามารถรักษาความเข้มข้นในการทํางานที่สูงขึ้นสําหรับการวิ่งเร็วได้ตลอดจนปรับปรุงความแม่นยําในการยิงและการเลี้ยงลูกระหว่างแมตช์ฟุตบอลจําลอง สิ่งที่เราพบแสดงให้เห็นว่าหากคาเฟอีนและคาร์โบไฮเดรตช่วยเพิ่มทักษะและความทนทานของผู้เล่นฟุตบอล มันก็อาจเป็นประโยชน์ต่อการแข่งขันกีฬาชนิดอื่น ๆ ด้วยเช่นกัน”
ร้านกาแฟและฟุตบอลในกรุงเวียนนา
ในกรุงเวียนนาช่วงทศวรรษที่ 1930s คนนับหมื่นคนจะมาพูดคุยกัน มากพอ ๆ กับการมารวมตัวกันเพื่อดูฟุตบอลแต่ละแมตช์ ในยุคนั้นจะมีร้านกาแฟเฉพาะกลุ่มที่จะสนับสนุนแต่ละสโมสรใหญ่ของเมือง แฟน ๆ เหล่านั้นจะมาพบปะกันที่คาเฟ่ยอดนิยมอย่าง คาเฟ่ The Ring ที่กลายเป็นจุดเช็คอินยอดฮิตของเหล่าแฟนบอล
จนกลายเป็นศูนย์กลางของการรวมตัวกันของแฟนบอลชาวออสเตรีย ถ้าเทียบกับเมืองไทยมันคงจะคล้ายกับร้านอาหารกึ่งบาร์ที่มีจอโปรเจคเตอร์ขนาดใหญ่เพื่อเปิดฟุตบอลให้ได้รับชมกัน แต่ในยุคนั้นที่เวียนนาพวกเขานิยมพบปะกันที่คาเฟ่เพื่อดื่มกาแฟและพูดคุยเรื่องฟุตบอล เช่นเดียวกับร้าน `Dunubian Whirl‘ ที่ดูเหมือนจะเสิร์ฟแค่เค้กเฮเซลนัทที่วางด้วยช้อนยาวข้าง ๆ ตามแบบฉบับของคาเฟ่ แต่แท้จริงแล้วนั้นมันเป็นวิธีการเล่นที่ช่วยให้ออสเตรียเป็นหนึ่งในประเทศที่มีชื่อเสียงด้านฟุตบอลในช่วงสงคราม
Hugo Meisl หัวหน้าผู้ฝึกสอนของทีมชาติออสเตรียระหว่างปี 1919 ถึง 1937 เป็นคนที่อยู่เบื้องหลัง โดยเขาได้ใช้จังหวะสั้น ๆ ผ่านรูปแบบการเล่นและมีการเปลี่ยนตําแหน่งของนักเตะโดยส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และความอิสระในแนวรุก แทนที่จะเป็นตัวรุกที่ถึกทนกลับให้ใช้สมองมากกว่าร่างกาย นักฟุตบอลในยุคนั้นได้แก่ Mattias Sindelar เขามีวิสัยทัศน์และการเคลื่อนที่ที่ดี และเขามักจะทําให้กองหลังฝั่งตรงข้ามโมโห
ความเป็นธรรมชาติของร้านกาแฟที่แฝงไปด้วยบรรยากาศที่ยากที่จะคาดเดาและน่าพิศวง นั่นเป็นสาเหตุที่ในช่วงหลายปีระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 สโมสรและชาติต่าง ๆ ในยุโรปกลางจึงได้เปรียบ ส่วนหนึ่งก็ต้องยกความดีความชอบให้ “ร้านกาแฟ” ในสมัยนั้นจริง ๆ
สิ่งมหัศจรรย์ที่เรียกว่า “ชามาเต”
แฟนบอลหลายคนอาจจะเคยเห็นกระป๋องเล็ก ๆ ที่มีหลอดดูดที่นักเตะชื่อดังชอบถือไปด้วยตอนก่อนเริ่มแมตช์การแข่งขัน เช่น ลิโอเนล เมสซี่, เนย์มาร์ รวมไปถึง ดาร์วิน นูนเญซ ตอนมาทัวร์ที่ประเทศไทย หลายคนอาจจะสงสัยว่ามันมีเครื่องดื่มอะไรอยู่ในนั้น มันคือ “ชามาเต” เครื่องดื่มยอดนิยมของประเทศแถบอเมริกาใต้ ชามาเตเป็นเครื่องดื่มที่อุดมไปด้วยคาเฟอีน มันทํามาจากใบเยอร์บา มาเต ที่มีรสขม ได้รับความนิยมอย่างมากในอุรุกวัย, อาร์เจนตินา, ปารากวัย และ บราซิล
1
สาเหตุที่นักฟุตบอลนิยมดื่มชามาเตเพราะว่ามันให้ความสดชื่นและกระปรี้กระเปร่าเหมือนกับการดื่มกาแฟนั่นเอง แถมผลการวิจัยยังบอกอีกว่ามันดีกว่ากาแฟ เพราะผู้ดื่มจะไม่ติดคาเฟอีนและอยากคาเฟอีนเท่ากับกาแฟ ชามาเตเป็นที่นิยมมากในหมู่นักฟุตบอล บางคนเป็นคนอังกฤษก็ยังพ่ายแพ้ให้กับชามาเต เช่น เอริค ดายเออร์ ปราการหลังของไก่เดือยทอง ก็บอกว่าตอนนี้เขาเริ่มจะติดชามาเตเข้าแล้ว เพราะเขาได้ลองดื่มตามเพื่อนร่วมทีมของเขาอย่าง แดนนี่ โรส และ เดเล อัลลี่
ชามาเตไม่ได้เป็นเพียงแฟชั่นที่นักฟุตบอลทุกคนจะต้องดื่่มและไม่ได้เป็นแค่สิ่งที่ทําให้พวกเขาตื่นตัวเท่านั้น แต่มันเป็นเหมือนความสนุกสนานและการมีส่วนร่วมในการแบ่งปันกันของนักฟุตบอล หากคุณต้องทํางานเกี่ยวกับการเสนองานและการพูดคุย ชามาเตเป็นสิ่งที่ดีที่สามารถส่งเสริมความเป็นมิตรของกันและกันได้เช่นในทีมฟุตบอลหรือในระดับนานาชาติ
กาแฟในทั่วมุมโลก เขาดื่มกันยังไงนะ ?
คนเราจะต้องการอะไรไปมากกว่าการตื่นขึ้นมาในตอนเช้าแล้วได้ดื่มกาแฟดี ๆ สักแก้ว ซึ่งในแต่ละประเทศก็มีวิธีการทํากาแฟที่แตกต่างกันออกไป เช่น ในประเทศตุรกี จะเรียกว่า Türk Kahvesi เป็นการนําเมล็ดกาแฟบดละเอียดมาเคี่ยวในหม้อทองแดงหรือทองเหลืองชนิดพิเศษที่เรียกว่า cezve กาแฟตุรกีพิเศษตรงที่มันไม่ผ่านการกรองจึงทําให้ได้รสชาติที่เข้มข้น หรือในสเปน จะมีเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของกาแฟที่เรียกว่า Cafe Bombon เป็นการนํากาแฟมาผสมกับนมข้นหวานในปริมาณที่เท่ากัน จะมีความหวานและความมัน
ประเทศต้นกําเนิดของกาแฟอย่าง “เอธิโอเปีย” เป็นอย่างไรในโลกลูกหนัง
ฟุตบอลเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศเอธิโอเปีย แม้จะไร้ความสําเร็จจากทีมชาติ แต่ก็ได้รับความสนับสนุนจากประชาชนในประเทศ ทีมชาติเอธิโอเปียได้แชมป์แอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ ในปี 1962 เอธิโอเปียยังเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกแอฟริกา คัพ ออฟ เนชั่นส์ และเป็นหนึ่งในสามทีมที่เข้าร่วมการแข่งขันครั้งแรกในปี 1957 โดยจบด้วยการเป็นรองแชมป์ ผู้คนในประเทศนี้ผูกพันกับกาแฟมากจริง ๆ ถึงขั้นทีมฟุตบอลในประเทศยังมีกาแฟเป็นส่วนประกอบของชื่อทีมเช่น Ethiopian Coffee S.C. และ Sidama Coffee S.C.
นักฟุตบอลสัญชาติเอธิโอเปียส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้ไปค้าแข้งที่ต่างประเทศ อาจจะด้วยเหตุผลหลายอย่างเช่น ไม่มีคนมาสเกาต์หรือบางทีพวกเขาอาจจะมีความเป็นชาตินิยมอยู่บ้าง โดยนักฟุตบอลที่มีชื่อเสียงได้แก่ Yigezu Bogale เขาได้เซ็นสัญญากับทีม Sidama Coffee และมันเป็นก้าวที่สําคัญของกองหน้าดาวรุ่งวัยเพียง 21ปี คนนี้ โดยฤดูกาล 2021/2022 เขายิงไปถึง 16 ประตูจากการลงสนาม 28 นัด นับว่าเป็นฟอร์มที่สุดยอดจริง ๆ
มีนักฟุตบอลก็ต้องมีกาแฟ เพราะมันคือของคู่กัน
ในปัจจุบันโลกของฟุตบอลไม่ได้มีเพียงแค่ลูกบอลกลม ๆ สนามหญ้า และแฟนบอลอีกต่อไป เพราะกาแฟและเครี่องดื่มคาเฟอีนเข้ามามีบทบาทสําคัญในชีวิตนักบอลอย่างมาก นักฟุตบอลไทยลีกส่วนใหญ่มักจะมีกาแฟเป็นเพื่อนรัก แต่พวกเขามักจะไม่รู้ตัวว่าตนเองได้ติดคาเฟอีนไปแล้ว ยกตัวอย่างเช่นเวลามีการเล่นลิงชิงบอลใน Session ของการซ้อมหรือมีการแข่งเกมต่าง ๆ เวลามีคนแพ้มักจะถูกให้เลี้ยงกาแฟหรือชาเขียวเสมอ หรือหากสังเกตจากนักฟุตบอลในไทยลีกที่จะชอบเข้าไปนั่งในร้านสตาร์บัคส์หรืออเมซอนเสมอเมื่อมีเวลาว่าง
สิ่งนี้มีคนเคยออกมาทําคลิปไวรัลใน Tiktok Nara Wazabi ไว้ว่า นักบอลไทยลีก1, 2 และ 3 จะต้องมีออปชั่นก่อนลงแข่งเสมอนั่นคือการจิบกาแฟและจิบชาเขียวอเมซอน ที่ตอนนี้มีคนกดไลก์มากถึง 60,000 คน การดื่มกาแฟของนักฟุตบอลไม่ได้เป็นแค่แฟชั่นและค่านิยม แต่มันเป็นการทําให้นักฟุตบอลเหล่านั้นมีสมาธิและจดจ่อมากขึ้น และยังสามารถทำให้พวกเขาเล่นฟุตบอลได้มีประสิทธิภาพมากขึ้นตามงานวิจัยที่ได้กล่าวไป ในหน้าแรก
จากการสอบถาม ฟิลเลอร์สัน นาธาน นักฟุตบอลในไทยลีก 2 M-150 แชมเปี้ยนชิพ ทีมนครศรีฯ ยูไนเต็ด ว่าทําไมนักฟุตบอลส่วนใหญ่ถึงต้องดื่มกาแฟหรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนก่อนการแข่งขัน มันช่วยอะไร ? ซึ่งเขาได้ตอบกลับมาว่า “จริง ๆ แล้วผมไม่ได้ดื่มกาแฟนะครับ แต่กาแฟช่วยเร่งการเผาผลาญ ผมคิดว่ามันจะทําให้คนที่ดื่มรู้สึกสบายขึ้น บางคนก็ดื่มเพราะว่าชอบ แต่สุดท้ายแล้วผมคิดว่ามันน่าจะเป็นเพราะคาเฟอีน อีกอย่างผมคิดว่ามันทําให้รู้สึกมีสมาธิขึ้นหรืออะไรทํานองนั้นครับ”
กาแฟเปรียบเสมือนสิ่งที่เชื่อมโยงความสัมพันธ์ของผู้คนให้ใกล้ชิดกันมากขึ้น ทําให้ตื่นตัว และยังมีสารอาหารมากมาย เราก็คงไม่แปลกใจที่นักฟุตบอลและนักกีฬาต่างจะใช้มันเพื่อกระตุ้นร่างกายของพวกเขา ซึ่งมันก็ได้ผลจริง ๆ แต่บางอย่างมันก็ลึกซึ่งกว่านั้น เช่นชามาเตที่ทําให้ผู้คนได้มีปฏิสัมพันธ์ที่ดีมากขึ้น แต่ทุกสิ่งมีทั้งผลดีและผลร้าย อย่างไรก็ตามใครที่กําลังเป็น Coffee หรือ Tea Lover ก็ควรบริโภคแต่พอดี แล้วมันจะนําสิ่งที่ดีมาสู่ชีวิตคุณอย่างแน่นอน
แหล่งอ้างอิง
โฆษณา