19 มี.ค. 2023 เวลา 07:40 • หุ้น & เศรษฐกิจ

อัพเดทประเด็นการลงทุนสัปดาห์ที่ผ่านมาครับ

วิกฤตธนาคารในสหรัฐฯ
1
Silicon Valley Bank และ Signature Bank เป็นสองธนาคารที่ถูกสั่งปิดกิจการในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเงินฝากของลูกค้าได้รับประกันเต็มจำนวนโดยรัฐบาล ส่วน First Republic Bank ก็เป็นอีกธนาคารหนึ่งที่มีความเสี่ยงด้าน ฺBank Run จนต้องได้รับความช่วยเหลืออัดฉีดเงินฝากจากธนาคารขนาดใหญ่อื่นๆกว่า 3หมื่นล้านเหรียญฯ เพื่อเพิ่มสภาพคล่อง ขณะที่ SVB Financial Group ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ SVB ได้ยื่นเรื่องต่อศาลนิวยอร์กเพื่อขอรับการพิทักษ์ทรัพย์ตามมาตรา 11 ของกฎหมายล้มละลาย เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา
วิกฤตธนาคารขนาดใหญ่
ฝั่ง Credit Suisse ธนาคารขนาดใหญ่อันดับ2 ของสวิตเซอร์แลนด์ มีราคาหุ้นร่วงลงรุนแรงในสัปดาห์ที่ผ่านมาและลดลงมากกว่า 97% จากจุดสูงสุด ด้วยความกังวลด้านสถานะทางการเงินของธนาคารหลังผู้ถือหุ้นใหญ่อย่าง Saudi National Bank ปฏิเสธการเพิ่มความช่วยเหลือทางการเงิน จนธนาคารกลางของสวิตเซอร์แลนด์ต้องเข้ามาให้ความช่วยเหลือด้านเงินกู้กว่า 54,000 ล้านเหรียญฯ จนในวันศุกร์เริ่มมีข่าวเกี่ยวกับโอกาสที่ธนาคาร UBS ที่ใหญ่ที่สุดของสวิสจะต้องเข้ามาเทคโอเวอร์
แนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด 22 มีนาคม นี้
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ2ปี ดิ่งลงจากระดับ 5% เหลือ 3.8% ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯอายุ10ปี ร่วงจาก 4% เหลือ 3.4% แรงซื้อในพันธบัตรรัฐบาล (ราคาสวนทางกับอัตราผลตอบแทน) สะท้อนความกังวลของนักลงทุนต่อวิกฤตการณ์ในภาคธนาคาร
เช่นเดียวกับนักวิเคราะห์ที่เริ่มปรับการคาดการณ์การขึ้นดอกเบี้ยของเฟด จากเดิมที่คาดว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมครั้งที่จะถึงนี้เพื่อต่อสู้กับเงินเฟ้อ มาเป็น 0.25% (บางสำนักมองว่าจะชะลอการปรับขึ้น และบางสำนักเก็งว่าจะลดดอกเบี้ยลง) เพื่อรักษาเสถียรภาพของระบบการเงิน อย่างไรก็ดีฝั่งธนาคารกลางยุโรปหรือ ECB ขึ้นดอกเบี้ย 0.50% ตามคาดเมื่อวันพุธ เพื่อสกัดเงินเฟ้อ ขณะที่เงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯที่ประกาศเมื่อวันอังคารอยู่ที่ 6.0% ลดลงจาก 6.4% ในเดือนก่อนหน้า
รายการ FINNOMENA LIVE โดยคุณเจ็ทและคุณหยง ได้ให้มุมมองต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยมองว่าถ้าเฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.50% อาจจะหนักเกินไป (การล้มลงของ SVB Bank ก็มาจากการขึ้นดอกเบี้ยที่รุนแรง) ขณะที่การขึ้นดอกเบี้ย 0.25% น่าจะเป็นทางเลือกที่ให้ผลดีที่สุด คือเฟดสามารถสู้กับเงินเฟ้อและยังรักษาเสถียรภาพของระบบการเงินได้ แต่หากเฟดไม่ขึ้นดอกเบี้ยเลยหรือลดดอกเบี้ยน่าจะเป็นปัจจัยลบ นั้นหมายความว่ายังมีวิกฤตจนทำให้เฟดขึ้นดอกเบี้ยไม่ได้
FINNOMENA LIVE
คำแนะนำสำหรับนักลงทุน ถ้ามีสินทรัพย์อยุ่ในหุ้นอาจเลือกตัดสินใจได้ดังนี้
*มีหุ้นเต็มพอร์ต อาจต้องลดสัดส่วนลง โดยเฉพาะหุ้นสหรัฐฯและยุโรป เก็บกระสุนไว้ก่อนรอโอกาสซื้อที่ดี
*มีหุ้นไม่มาก ยังไม่ได้ลงเต็มที่ อาจถือรอได้หรือหาจังหวะสะสม
โดยสามารถสลับมาลงทุนในตราสารหนี้กลุ่ม Investment Grade หรือสลับเข้าทองคำที่เป็นสินทรัพย์ป้องกันความเสี่ยง https://www.youtube.com/watch?v=p5lu9amUBxQ
ดัชนีต่างๆ
*สหรัฐฯ S&P500 ลดลงแรงในวันจันทร์ต่ำสุด 3,808 ก็ปิด 3,916 ในวันศุกร์ (+1.43% จากสัปดาห์ก่อน)
*VIX Index พุ่ง แต่ยังไม่ผ่าน 30 ลดลงมาปิดแถว 25
*ยุโรป STOXX600 ดิ่งแรง -3.85% จากสัปดาห์ก่อน
S&P500 - Tradingview.com
VIX Index - Tradingview.com
*จีน CSI300 ลบเบาๆ -0.21% จากสัปดาห์ก่อน โดยธนาคารชาติจีนลดสัดส่วนสำรองเงินสดของธนาคารลง 0.25% เหลือ 5% มีผลวันที่ 27 มี.ค.นี้ เพื่อเพิ่มปริมาณเม็ดเงินในระบบการเงินในประเทศให้มีเพียงพอที่จะสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ
*หุ้นไทย SET ปิดที่ 1,563.67 -2.25% ในสัปดาห์นี้โดยระหว่างสัปดาห์มีทั้งวันที่ -50 จุด และ +40 จุดในวันเดียว ต่ำสุด 1,518.66
*เวียดนาม VN30 ทรงตัว +0.05% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา
CSI300 - Tradingview.com
SET - Tradingview.com
*น้ำมัน WTI ดิ่งมาปิดที่ 66 เหรียญฯ กังวลวิกฤตเศรษฐกิจ เป็นการลดลงสัปดาห์เดียวกว่า 10เหรียญฯ (-13.55%)
*ทองคำ พุ่งแรงในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยมาปิดเกือบ 2,000 เหรียญฯในสัปดาห์ที่ผ่านมา (+6.51%)
WTI - Tradingview.com
GOLD - Tradingview.com
โฆษณา