EUดิ้นทุรนทุรายน่าตกใจ คว่ำบาตรยังใงไห้โลกจำ ผู้ที่ตอบได้ดีที่สุดคือ สหภาพยุโรป
7/4/23⬇️ประเทศในสหภาพยุโรปได้รับผลกระทบจากอัตราเงินเฟ้อที่สูงเป็นประวัติการณ์.,⬇️รายงานระบุว่าราคาผู้บริโภคในเบลเยียมเร่งตัวเกิน 20% ต่อปีราคาผู้บริโภคของเบลเยียมพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเพิ่มขึ้น 20.6% ในเดือนมีนาคมจากปีที่แล้ว จากการศึกษาขององค์กรผู้บริโภค Test Achats ที่ไม่แสวงหาผลกำไรของประเทศ การพุ่งสูงขึ้นมีสาเหตุหลักมาจากการพุ่งขึ้นของราคาพลังงาน
“การวิเคราะห์ของเราอ้างอิงจากตะกร้าสินค้าพื้นฐานมากกว่า 3,000 รายการที่ขายในซูเปอร์มาร์เก็ต สำหรับร้านค้าของ Albert Heijn, Carrefour, Colruyt, Cora, Delhaize, Aldi และ Lidl แสดงให้เห็นว่าครัวเรือนที่มี 2 คนใช้จ่ายเฉลี่ย 521 ยูโร [$ 570] ต่อเดือนที่ซูเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งมากกว่าปีที่แล้ว 89 ยูโร และมากกว่าเดือนกุมภาพันธ์ 9 ยูโร” คำแถลงของ Test Achatsกล่าว
การศึกษาแสดงให้เห็นว่าราคาผักพุ่งสูงสุดในเดือนที่แล้ว ในขณะที่ผลผลิตก็ลดลงมากเช่นกันในฤดูหนาว เนื่องจากราคาพลังงานที่พุ่งสูงขึ้นซึ่งทำให้โรงเรือนให้ความร้อนไม่ได้ประโยชน์ อุปทานจึงลดลงส่งผลให้ราคาเพิ่มขึ้นตาม Test Achatsรายงานระบุว่าราคาผักพุ่งขึ้น 31% โดยเฉลี่ยในเดือนมีนาคมปีต่อปี ราคาของสลัดภูเขาน้ำแข็ง (+53%) แตงกวา (+51%) และหัวหอม (+50%) พุ่งสูงขึ้นมากที่สุด
ราคาขนมปังเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 22% ในขณะที่ราคาปลาและผลไม้เพิ่มขึ้น 14%
Julie Frère โฆษกของ Test Achats กล่าวว่า “เมื่อเผชิญกับตัวเลขเหล่านี้ เราก็ได้แต่นึกถึงสถานการณ์ความไม่มั่นคงด้านอาหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเราไม่คาดว่าราคาจะลดลงในเดือนเมษายน” Julie Frère โฆษกของ Test Achats กล่าว เธอเรียกร้องให้รัฐบาลคิดหาวิธีช่วยเหลือครัวเรือนต่างๆ รวมถึงการออกตะกร้าสินค้าต่อต้านเงินเฟ้อแบบเดียวกับที่จัดตั้งขึ้นในฝรั่งเศส
⬇️EU ซื้อเชื้อเพลิงรัสเซียผ่านอินเดีย⬇️ – Reuters
ฝรั่งเศส, เตอร์กิเย, เบลเยียม และเนเธอร์แลนด์ เป็นผู้ซื้อรายสำคัญของน้ำมันดีเซลที่ผ่านกระบวนการผลิตในอินเดียโรงกลั่นของอินเดียได้เพิ่มปริมาณน้ำมันดีเซลและน้ำมันอากาศยานให้กับสหภาพยุโรป หลังจากการนำเข้าน้ำมันของรัสเซียมายังประเทศนี้พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปีงบประมาณ 2565-2566 สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานเมื่อวันพุธ โดยอ้างข้อมูลการติดตามเรือเบื้องต้นจาก Kpler และ Vortexa
ช่องทางดังกล่าวชี้ให้เห็นว่าสหภาพยุโรปใช้อินเดียเป็น "ประตูหลัง" เนื่องจากการนำเข้าน้ำมันของรัสเซียที่นิวเดลีเพิ่มขึ้นอย่างมาก เนื่องจากกลุ่มดังกล่าวห้ามน้ำมันดิบจากประเทศที่ถูกคว่ำบาตร
ในปี 2565-2566 โรงกลั่นของอินเดียซื้อน้ำมันรัสเซียระหว่าง 970,000 ถึง 981,000 บาร์เรลต่อวัน ซึ่งคิดเป็นมากกว่าหนึ่งในห้าของการนำเข้าทั้งหมดของประเทศ ซึ่งอยู่ระหว่าง 4.5 ล้านถึง 4.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน (bpd) ข้อมูล Kpler และ Vortexa แสดงให้เห็น.
การลดราคาน้ำมันดิบจากรัสเซียทำให้โรงงานแปรรูปในเอเชียสามารถเพิ่มการผลิตและขายผลิตภัณฑ์น้ำมันไปยังสหภาพยุโรปในราคาที่แข่งขันได้จากข้อมูลของ Kpler อินเดียได้จัดหาน้ำมันดีเซลและน้ำมันอากาศยานเฉลี่ย 154,000 บาร์เรลต่อวันให้กับสหภาพยุโรปก่อนที่จะเกิดความขัดแย้งในยูเครน ปริมาณเพิ่มขึ้นเป็น 200,000 บาร์เรลต่อวัน หลังจากสหภาพยุโรปกำหนดมาตรการห้ามนำเข้าผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมของรัสเซียในเดือนกุมภาพันธ์ ข้อมูลระบุ
การส่งออกน้ำมันดีเซลของอินเดียไปยังยุโรปเพิ่มขึ้นระหว่าง 12% และ 16% เป็น 150,000-167,000 บาร์เรลต่อวันในปีงบประมาณที่แล้ว เนื่องจากลูกค้าตะวันตกหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์ของรัสเซีย ทำให้ส่วนแบ่งการส่งออกเชื้อเพลิงของนิวเดลีเพิ่มขึ้นเป็น 30% จาก 21-24% ในปีก่อนหน้า .จากข้อมูลของ Kpler ยุโรปมีสัดส่วนประมาณ 50% ของการส่งออกน้ำมันเครื่องบินของอินเดีย โดยฝรั่งเศส Türkiye เบลเยียม และเนเธอร์แลนด์เป็นผู้บริโภคน้ำมันดีเซลกลั่นอันดับต้น ๆ ของยุโรปในเอเชีย
การพัฒนาดังกล่าวเกิดขึ้นในขณะที่ Rosneft บริษัทพลังงานรายใหญ่ของรัสเซียและ Indian Oil Corporation ลงนามในข้อตกลงเพื่อ "เพิ่มปริมาณ" การจัดหาน้ำมันดิบไปยังอินเดียและกระจายเกรดต่างๆ
อินเดีย ซึ่งเป็นผู้นำเข้าน้ำมันดิบรายใหญ่อันดับ 3 ของโลก เริ่มเพิ่มการซื้อน้ำมันจากรัสเซียไม่นานหลังจากเริ่มปฏิบัติการทางทหารของมอสโกในยูเครนและการคว่ำบาตรของชาติตะวันตกที่ตามมา
ขณะนี้รัสเซียครอบคลุม 35% ของการนำเข้าน้ำมันทั้งหมดของอินเดีย เพิ่มขึ้นจากน้อยกว่า 1% ในปี 2564 ตัวเลขแสดงให้เห็นว่าในเดือนมีนาคม การส่งมอบน้ำมันจากประเทศที่ถูกคว่ำบาตรเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 7 ติดต่อกัน ทำให้รัสเซียเป็นซัพพลายเออร์อันดับต้น ๆ ให้กับอินเดีย
ที่มา..RT....
- 4
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
