น้องสาวคิม จองอุนออกโรงฟาด ถอนหงอกโจ ไบเดน พูดจาเลอะเลือนระวังมหันตภัยขั้นสุด
คิม โย-จอง น้องสาวของคิม จอง-อุน ผู้นำเกาหลีเหนือ ออกมาขู่ทั้งสหรัฐ และ เกาหลีใต้ ว่า เกาหลีเหนือพร้อมยกระดับแสนยานุภาพทางทหารเพื่อตอบโต้ข้อตกลงใหม่ระหว่าง เกาหลีใต้ และ สหรัฐ ที่อ้างว่าร่วมมือกันเพื่อสกัดภัยคุกคามทางอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ แต่ข้อตกลงนี้ต่างหากที่จะนำไปสู่ความเผชิญหน้าที่ตึงเครียด รุนแรงมากยิ่งขึ้น ซึ่งทางเปียงยางพร้อมตอบโต้อย่างเต็มรูปแบบเช่นกัน
การออกมาประกาศเตือน (ขู่) อย่างแข็งกร้าวของน้องสาว คิม จอง-อุน เกิดขึ้นหลังจากที่ ยุน ซ็อก-ยอล ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ได้เดินทางไปพบกับโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐ ถึงทำเนียบขาวเมื่อวันพุธ (26 เมษายน 2023) ที่ผ่านมา และได้ลงนามความร่วมมือใหม่ เพื่อต้านภัยคุกคามจากอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือโดยเฉพาะ
และในข้อตกลงยังระบุว่า ทางสหรัฐจะนำดำน้ำติดหัวรบนิวเคลียร์ มาใช้ในเขตน่านน้ำเกาหลีใต้ด้วย ซึ่งจะเป็นครั้งแรกในรอบ 40 ปี นับตั้งแต่ปี 1980 ที่สหรัฐจะติดตั้งขีปนาวุธนิวเคลียร์ในเกาหลีใต้
โจ ไบเดน ได้นิยามข้อตกลงครั้งใหม่ระหว่างสหรัฐ และ เกาหลีใต้ในครั้งนี้ว่า เป็น "พันธมิตรหุ้มเกราะ" ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาแห่งสงคราม ที่จะผลิบานเป็นสันติภาพ เหมือนกับสวนกุหลาบในทำเนียบขาว และจะเป็นการขยายกรอบการป้องกัน ภัยคุกคามจากอาวุธนิวเคลียร์ได้
ไบเดนย้ำว่า ข้อตกลงร่วมนี้เป็นสิ่งจำเป็น ในการเผชิญหน้ากับเกาหลีเหนือ ที่นับวันจะยิ่งเป็นภัยคุกคาม และ ท้าทายมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐ
และหลังจากที่ยุน ซ็อก-ยอล และ โจ ไบเดน บรรลุข้อตกลงว่าด้วยเรื่องการสนับสนุนอาวุธนิวเคลียร์แล้ว ก็มีการจัดเลี้ยงต้อนรับกันในทำเนียบขาวอย่างชื่นมื่น ซึ่งไฮไลท์ในงานนั้น คือ ผู้นำเกาหลีใต้ได้ร้องเพลง "American Pie" เพลงคันทรี คลาสสิค ของสหรัฐ ให้โจ ไบเดน ฟัง ชวนให้นึกถึงบรรยากาศเพลง "สุขกันเถอะเรา" ของบ้านเราเหมือนกันนะ แม้ว่าเนื้อเพลงจะไม่ได้ใกล้เคียงกันเลยก็ตาม 😅
และข้อตกลงฉบับนี้ ที่ยุค ซ็อก-ยอล ที่ต้องบินไปหา ไบเดน ถึงสหรัฐ ก็ตอกย้ำจุดยืนของรัฐบาลเกาหลีใต้ชุดนี้ว่า จะไม่มีการเจรจากับเกาหลีเหนืออีกแล้ว ต่อไปนี้คือยุคของ "เกลือจิ้มเกลือ" สันติภาพจะเกิดขึ้นได้ต่อเมื่อมีแสนยานุภาพทางทหารที่ทัดเทียมกันเท่านั้น จนทำให้ความพยายามของ มุน แจ-อิน อดีตผู้นำเกาหลีใต้สายพิราบ ที่เคยปูทางความสัมพันธ์กับเกาหลีเหนือมาหลายปีกลายเป็นเรื่องตลก
อีกทั้งยังแสดงให้เห็นว่า เกาหลีใต้เลือกที่จะอยู่ฝ่ายเดียวกับสหรัฐ และออกห่างจากจีนมากยิ่งขึ้น ดังจะเห็นว่า ยุน ซ็อก-ยอล ยกระดับความสัมพันธ์ที่ดีมากขึ้นกับญี่ปุ่น เพื่อเข้าแผน NATO - แปซิฟิก หรือการขยายกลุ่มชาติสมาชิก NATO มาทางภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก ที่จะรวมเอา ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย และ นิวซีแลนด์ อยู่ในกลุ่มด้วย เพื่อต้านอิทธิพลจากรัสเซีย และ จีน
เมื่อเกาหลีใต้ และ สหรัฐ เปิดหน้ามาถึงขนาดนี้ ทางรัฐบาลเปียงยางก็คงจะนั่งฟังเพลง American Pie อยู่เฉยๆไม่ได้ บ้านคิม จึงได้ส่ง คิม โย-จอง น้องสาวคนเก่งออกมาถอนหงอกโจ ไบเดน ที่เย้ยว่าภัยคุกคามทางนิวเคลียร์นี้จะปิดยุคสมัยระบอบคิมในเกาหลีเหนือว่า
"สหรัฐประเมินเกาหลีเหนือต่ำไปแล้ว เป็นความปากกล้าที่ไร้ความรับผิดชอบ และอย่าหวังว่า เกาหลีเหนือจะยอมเพิกเฉยต่อคำพูดไร้สาระ ของคนแก่ที่เลอะๆ เลือนๆ คนหนึ่ง เพราะคนแก่คนนั้น เป็นถึงผู้นำสหรัฐ ศัตรูตัวฉกาจของเรา ซึ่งเราก็หวังว่าพวกเขาจะพร้อมรับพายุลูกใหญ่ที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้"
เห็นเป็นผู้หญิงตัวเล็กๆ ปากนางแซ่บอยู่เด้อ 😀
แม้ว่าเราจะนึกภาพไม่ออกว่า ประเทศเล็กๆอย่างเกาหลีเหนือ จะไปทำอะไรสหรัฐอเมริกาได้ แต่ก็ต้องไม่ลืมว่า คาบสมุทรเกาหลี ติดกับจีน และ รัสเซียมาก ส่วนพันธมิตรของสหรัฐ ทั้งเกาหลีใต้ และ ญี่ปุ่น ก็มีความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจมากเกินกว่าที่จะเอามาเสี่ยงกับสงครามที่ต้องถล่มกันอย่างจริงจัง เหมือนในยูเครน
จึงทำให้ "ความไม่มีอะไร" ของเกาหลีเหนือ ก็คือความแข็งแกร่งอย่างหนึ่ง เมื่อประเมินผลกำไรที่ได้จากสงคราม ระหว่างคนที่มีมากเกินกว่าที่จะเสีย กับคนที่ไม่มีอะไรจะเสีย ก็น่าฉุกคิดเหมือนกันว่า ชวนทะเลาะกันไป แล้วจะได้อะไรขึ้นมา
ยกเว้นกับประเทศที่อยู่ในฐานะที่ไม่เสียหายอะไรเลย นั่งอยู่บนภู ดูเสือกัดกันเพื่อความบันเทิง ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
****************
ติดตามบทความของ "หรรสาระ" เพิ่มเติมได้ที่
Facebook - หรรสาระ By Jeans Aroonrat
Twitter - @HunsaraByJeans
Blockdit - หรรสาระ By Jeans Aroonrat
Tiktok - @HunsaraByJeans
แพลทฟอร์มคุณภาพ ไม่ปิดกั้นการมองเห็นเนื้อหา
****************
แหล่งข้อมูล
- 14
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
